"หงส์แดง" ทำเต็มที่แล้วแต่ไล่ไม่ทันโดย "คาร์ราเกอร์" พลาดทำเสียประตูก่อนแต่ "ซัวเรซ" มายิงฟริคิกเบิ้ลบวกกับ "อัลเลน" อีก 1 ลูกทำให้ชนะไป 3-1 แต่ไม่พอทำให้ "เซนิต" ผ่านเข้ารอบด้วยกฎการยิงประตูทีมเยือนจากสกอร์รวม 3-3 ไปพบกับ "บาเซิ่ล" ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัด 2
วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556
ลิเวอร์พูล 3-1 เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
(ผลรวมสองนัดเสมอกัน 3-3 เซนิตเข้ารอบด้วยกฎยิงประตูทีมเยือน)
สนาม แอนฟิลด์ เปิดฉากเริ่มเกมมาได้นาทีที่ 7 เฮนเดอร์สันใจร้อนไปหน่อยโดยเขาเก็บตกบอลได้บริเวณริมเส้นด้านซ้ายแล้วเห็นมาลาเฟเยฟออกจากเส้นมาไกลเลยลองส่องดูแต่บอลไปเข้าซองของมือกาวรัสเซีย
โอกาสเข้ารอบของลิเวอร์พูลแทบไม่มีแล้วเมื่อคาร์ราเกอร์พลาดมหันต์พยายามส่งบอลคืนหลังพลาดแต่เบาไปเยอะฮัลค์วิ่งมาเก็บตกลากไปล่อเป้าเรน่าแล้วแปเข้าไปตรงเสาไกล้ไม่มีเหลือในนาทีที่ 19
ผ่านมาถึงนาทีที่ 26 "หงส์แดง"ได้ลุนจากลูกฟรีคิกระยะ 20 หลากลางประตูและเป็นซัวเรซที่วิ่งเข้ามากดด้วยขวาบอลไปทะลุกำแพงตรงที่ลูคัสไปยืนแทรกอยู่บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
อีก 3 นาทีถัดมา"หงส์แดง"มาได้ลุ้นอีกเฮือกจากฟรีคิกมุมกรอบเขตโทษด้านขวาเจอร์ราร์ดเปิดเข้ามาหมายให้แอ็กเกอร์ตรงเสาไกลแต่อันยูคอฟมาโหม่งทิ้งออกไปได้หวุดหวิดก่อนที่บอกจะไปเข้าหัวของปราการหลังเดนมาร์ก
เซนิตเกือบได้อีกลูกจากจังหวะที่ฮัลค์เปิดบอลมาจากริมเส้นด้านซ้ายให้แดนนี่พักอกเอาบอลลงก่อนวอลเล่ย์ทันทีบอลเฉี่ยวเสาซ้ายมือไปนิดเดียวเท่านั้น
หลังจากนั้นทีมเยือนบุกมาอีกครั้งและเป็นอันยูคอฟที่ลากขึ้นมาเองตรงริมเส้นด้านขวาก่อนลองกดทันทีแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 2 นาทีเจ้าบ้านมาได้ประตูที่ 2 เมื่อเอ็นริเก้ทำชิ่งกับเฮนเดอร์สันจนหลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนตบเข้ามากลางให้อัลเลนวิ่งมาโขกจังหวะแรกไปติดเซฟของมาลาเฟเยฟแต่เข้าตัวปรี่เข้าซ้ำไม่มีพลาดให้เดอะ ค็อปได้เปล่งเสียงเชียร์สนั่นอีกครั้ง
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง "ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ" เห็นท่าไม่ดีจัดการเปลี่ยนเอาวิคเตอร์ เฟย์ซูลินลงมาทำเกมแดนกลางแทนแดนนี่และถอดลอมแบร์ตส์ที่เดี้ยงจังหวะเสียประตูท่ 2 ออกพร้อมส่งคริสซิโต้ลงมาปักหลักในตำแหน่งเซ็นเตอร์
นาทีที่ 50 "หงส์แดง"โวยวายจะเอาจุดโทษเมื่อบอลไปกระดอนโดนต้นแขนของฮูโบคันแต่กรรมการตัดสินใจไม่เป่าก่อนที่ซัวเรซจะหาจังหวะยิงมุมแคบให้มาลาเฟเยฟต้องปัดทิ้งออกหลังไป
เสียงเฮของเดอะ ค็อปดังลั่นอีกครั้งเมื่อ"หม่อมเหยิน"โชว์เทพปั่นฟรีคิกจากระยะราว 30 หลากลางประตูบอลปั่นโค้งทำท่าจะออกเสาอยู่แล้วแต่กลับเลี้ยวเข้ามาพุ่งไปตุงตาข่ายเฉยเลยมาถึงตอนนี้พวกเขาต้องการอีกเพียงลูกเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 67 เซนิตได้ลุ้นบ้างเมื่อฮัลค์ได้ยิงฟรีคิกระยะไกล 35 หลาโดยเขาเลือดแปบอลแรกแต่หลุดสามเหลี่ยมเสาขวามือออกไปชนิดได้ลุ้น
ซัวเรซมาได้ลุ้นจังหวะฟรีคิกอีกครั้งระยะเพียง 20 หลาแต่บอลเยื้องไปทางด้านขวาเยอะหน่อยโดยเขาพยายามซัดบอลย้อนศรไปทางเสาไกลแต่มาลาเฟเยฟที่ยืนปักหลักคุมเสาไว้แล้วทุบทิ้งไปได้
ถัดมาอีกนิดเดียวเอ็นริเก้ลากบอลสุดเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดมาตรงกลางมาลาเฟเยฟพุ่งมาปัดเอาไว้ได้เจอร์ราร์ดตามมาเก็บตกบอลก่อนเอี้ยวตัววอลเล่ย์บอลกระดอนพื้นจะเข้าอยู่แล้วแต่มาลาเฟเยฟยังบินปัดทิ้งไปได้อีกหน
บุกอยู่ดีๆ"หงส์แดง"เกือบโดนบ้างจากจังหวะผิดพลาดในเกมรับอีกแล้วและบอลมาถึงฮัลค์ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนที่ดาวยิงแซมบ้าจะกดเต็มๆแต่เรน่ายังล้มตัวปัดทิ้งได้อย่างสวยงาม
"หงส์แดง"มาได้โอกาสทองอีกครั้งจากจังหวะที่อัสไซดี้ฝืนเปิดมาตรงกลางแต่คริสซิโต้สกัดไม่ดีเชลวี่ย์วิ่งมาตะบันเต็มข้อในกรอบเขตโทษด้านซ้ายทว่าบอลไปกระทบข้างตาข่าย
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย"หงส์แดง"พยายามบุกเข้าใส่อย่างหนักแต่เซนิตก็ได้จังหวะสวนอันตรายหลายต่อหลายครั้งเช่นเดียวกันเรียกว่าช่วงนี้แฟนหงส์นั่งกันไม่ติดเลยทีเดียว
แต่ยังไงเจ้าบ้านก็ยิงประตูที่ต้องการไม่ได้ทำให้ตกรอบไปส่วนเซนติผ่านเข้าไปเจอกับบาเซิ่ลด้วยกฎการยิงประตูทีมเยือนจากสกอร์รวม 3-3
ผู้เขียน
หัวข้อ: ทำดีแล้ว~!! "เหยิน" เบิ้ลฟรีคิก~!! "หงส์ซิ่ง" ปราบ "เซนิต" 3-1 ตกรอบอเวย์โกล (อ่าน 713 ครั้ง)
