ผู้เขียน หัวข้อ: "เซสนี่ย์" เฟี้ยวอ๊ะ~!! "ปืน" 10 ตัว ไล่เฉือน "แมวดำ" ระทึก!! ขึ้นที่ 5  (อ่าน 623 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

ขโมยซีนประตูเดียวในเกมนี้ของ "ซานติ กาซอร์ล่า" ไปเลยสำหรับ "วอจเซียจ เซสนี่ย์" ที่บินเซฟติดๆกันในช่วงท้ายเกมช่วยให้ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลที่เหลือ 10 คนในเกมนี้เฉือนเอาชนะ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ไป 1-0 ขยับขึ้นไปแทนที่ของ "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ในอันดับ 5 ทันที



พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556
ซันเดอร์แลนด์ 0 - 1 อาร์เซนอล
สนาม สเตเดี๊ยม ออฟ ไลท์

                เปิดฉากเริ่มมาได้แค่นาทีกว่าๆ ก็มีจังหวะให้ได้ถกกันแล้ว เพราะวิลเชียร์แตะบอลไปหน้าเขตโทษ ก่อนที่จะเจอคัตเทิ่ลโมลพี่ขาโหดพุ่งเข้ามาเสียบสูงจากด้านข้างเข้าหน้าแข้งเต็มๆ แต่วิลเชียร์กระโดดขึ้นก่อนเลยไม่อันตรายมาก ก่อนที่บอลจะไหลไปถึงวัลค็อตต์ที่ไปแตะตวัดยิง แม้ว่ามินญอเล่ต์จะรับไม่อยู่ในจังหวะแรก แต่ก็เข้าตามตะปบอีกครั้งไม่พลาด

เกม 5 นาทีแรกนี่ต้องบอกเลยว่าลื่นไหลได้ใจมากๆ เพราะทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกรับบอลแทบไม่ได้หยุดอยู่แค่โซนใดโซนเดียว ดูแล้วคงมันส์ถึงขิงแน่เลยเกมนี้

ผ่าน 15 นาทีจากตอนแรกที่ดูไหลๆลื่นๆตอนนี้เกมชักจะหยุดมีกระตุกบ่อยเพราะจังหวะฟาวล์หยุดเกมกันมีให้เห็นเรื่อยๆแถมยังเข้าถึงลูกถึงคน เล่นกันมาแค่นี้ต่อใบเหลืองไปแล้ว 2 หน่อ จบเกมจะขนาดไหนกัน

หลังจากพยายามลุยแล้วไม่ได้ เข้าสเต็ปอาการช็อตเลยสำหรับอาร์เซนอลที่ตตอนนี้ทำได้แต่ผ่านบอลไปมากเรื่อยๆ ยังหาจังหวะเข้าทำอะไรแนวรับของซันเดอร์แลนด์ไม่ได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าวันนี้แมวดำยืนหลังกันดีจริง

นาทีที่ 31 นึกว่าจะใส่สกอร์ไปซะแล้วสำหรับจังหวะนี้ของแรมซี่ย์ที่ได้ซัดแล้วเหมือนบอลจะพุ่งเสียบใส่เสาอยู่แล้ว แต่มินญอเล่ต์ก็ปัดเอาไว้ได้อย่างสุดยอด เจอแบบนี้เหนื่อยเหมือนกันสำหรับทีมเยือน

นาทีที่ 36 ค่อยสมกับเป็นการเข้าทำของอาร์เซนอลหน่อย เพราะทั้งเฉียบขาดและงดงาม ในจังหวะที่วิลเชียร์จ่ายบอลไปให้กับวัลค็อตต์ที่พลิกตัดเข้าในแม้ว่าจะพอยิงได้แต่แข้งสปีด 9 ก็เหลือบเห็นเพื่อนก่อนไหลเบาๆให้กับกาซอร์ล่าวิ่งเข้าปั่นเน้นๆ บอลพุ่งเลียดผ่านบล็อกและปลายมือของมินญอเล่ต์ที่คราวนี้ไม่ไหวจะเซฟเข้าประตูไป อาร์เซนอลเอาจนได้ 1-0

นาทีที่ 42 เห็นเพื่อนยิงก็อยากมีสกอร์ก่ะเขาบ้างสำหรับวัลค็อตต์ที่รอบอลตรงกลางก่อนมอนเรอัลจ่ายมาให้ แม้ว่าจังหวะแรกจับได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ตามเข้าไปตั้งป้อมซัดเน้นๆนอกกรอบผ่านตัวที่พยายามพุ่งมาสไลด์บล็อก แต่ดันเฉี่ยวเสาหลุดออกไปนิดเดียวเท่านั้นเอง

ก่อนจบครึ่งแรกแรมซี่ย์คงเซ็งน่าดูเพราะเป็นอีกครั้งที่เขามีโอกาสจะทำประตูได้ หลังจากหลุดเข้าไปยิงเหน่งๆในเขตโทษ แต่ก็ยังคงเป็นมินญอเล่ต์ที่พุ่งออกมาบล็อกได้อีกแล้ว

สรุปจบ 45 นาทีแรกช่วงต้นกับช่วงหลังสนุกได้เรื่อง อาร์เซนอลนำอยู่ 1-0 แบบน่าจะนำมากกว่านี้อยู่สักเม็ดสองเม็ดเหมือนกัน

               กลับมาต่อในช่วงหลังในนาทีที่ 50 ไม่ต้องคิดเยอะคิดนานสำหรับอาร์เซนอลจากจังหวะที่วิลเชียร์โดนอัดจนล้มกลิ้งลงไปนอนกองกับพื้น เวนเกอร์เห็นท่าว่าน่าจะยังช้่ำมาจากจังหวะต้นเกมด้วยเลยเปลี่ยนออกทันที ก่อนให้ดิยาบี้ลงไปเล่นแทน

อีก 5 นาทีต่อมา จวนเจียนจะได้ประตูนำห่างจริงๆสำหรับอาร์เซนอล เมื่อชิรูด์ได้บอลนอกกรอบเขตโทษแม้ว่าเหลี่ยมจะไม่ได้ แต่พี่แกก็พลิกม้วนต้วนจนหาช่องเจอแล้วซัดเน้นๆ บอลพุ่งไปเสาสองผ่านมือมินญอเล่ต์แต่ก็ผ่านเสาประตูออกไปเช่นกัน

นาทีที่ 59 นี่ก็เกือบจะกลายเป็นขี้ปากของแฟนบอลอีกแล้วสำหรับแรมซี่ย์ที่ไปพลิกบอลไม่พ้นแล้วโดนผู้เล่นซันเดอร์แลนด์เข้าฉกเอาบอลไปได้ ก่อนจ่ายขึ้นหน้าให้เฟล็ตเชอร์ได้ยิงเน้นๆแล้ว แต่กลับคุมบอลไม่อยู่พุ่งติดข้างหน้าต่าง เป็นโอกาสทองที่หลุดหายไปกับตาลาย

ประสบการณ์ล้วนๆสำหรับใบเหลืองที่ 2 นี้ของเจนกินสัน เพราะเขาโดนใบแรกมาตั้งแต่ต้นเกมแล้ว ก็ยังมีจังหวะสกัดเน้นๆให้เห็น ก่อนจะมาสุดๆก็จังหวะเข้าเสียบรวบใส่ผู้เล่นของซันเดอร์แลนด์ที่กำลังจะกระชากบอลหนีไปได้แบบเต็มเม็ด ผู้ตัดสินวิ่งมาควักใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไปทันที

ถึงก่อนหน้านี้จะมีการแอนตี้ยังไงแค่ไหนสำหรับแฟนบอลของซันเดอร์แลนด์แต่จังหวะนี้ยังไงก็ต้องหนุนเต็มที่เมื่อทีมเปลี่ยนเอาแกรมหัวหอกที่ดึงมาจากสวอนซีลงสนามพร้อมเสียงปรบมือช่วยลุ้นให้ยิงตีเสมอให้ได้

เข้า 15 นาทีสุดท้าย กดและลุยเข้าไปอย่างเดียวสำหรับซันเดอร์แลนด์ในตอนนี้ที่ตัวผู้เล่นได้เปรียบและโมเมนตั้มกำลังมา แม้ว่าจะโดนอาร์เซนอลสวนขึ้นไปเสียวบ้างแต่ก็ไม่สน พวกเขาดาหน้าทำเกมหวังจะเอาประตูตีเสมอคืนมาให้ได้

เจอแบบนี้ซันเดอร์แลนด์อาจจะเครื่องช็อตก็ได้ เมื่ออาร์เซนอลได้บอลสวนกลับ ก่อนวัลค็อตต์ทะลุขึ้นด้านขวาของเขตโทษแล้วจิ้มบอลสวนตัวของมินญอเล่ต์ไปได้แล้ว แต่กลับไหลไปชนเสาไกลซะงั้น ก่อนที่ผู้เล่นของ "แมวดำ" จะมาสกัดบอลออกไปได้ในที่สุด

นาทีที่ 78 ได้ออกแรงหนักๆเหมือนกันสำหรับเซสนี่ย์ในจังหวะที่เฟล็ตเชอร์พุ่งหลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนที่จะพยายามแปบอลให้สวนลอดตัวของเซสนี่ย์เข้าไปแต่นายด่าน "ปืนใหญ่" พุ่งออกมาใช้ขายื่นสกัดเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม

แม้ว่าจะได้ลุ้นประตูแต่ถ้านำอยู่แค่ลูกเดียวยังไงก็ยังสบายใจไม่ได้สำหรับอาร์เซนอลที่ตอนนี้เวลาเข้าช่วง 5 นาทีสุดท้าย แต่เป็นซันเดอร์แลนด์ที่ได้บุกแบบบีบหัวใจอยู่ จะพลาดไม่ได้เลยทีเดียว

นาทีที่ 86 เป็นจังหวะสองครั้งต่อเนื่องที่เหลือเชื่อสุด จากจังหวะแรกที่เฟล็ตเชอร์ได้โจกแบบจากระยะแค่ไม่กี่หลาที่เพื่อนหนุนมา แต่เซสนี่ย์โชว์ความยอดเยี่ยมบินควักปัดเสยข้ามคานได้ ก่อนที่จะโดนเตะมุมต่อเนื่องแล้วมีตัวโขกเข้ามาเซสนี่ย์ก็บินปัดได้อีก แต่คราวนี้ที่น่าเสียดายคือบัมเบิ้ลที่ซ้ำบอลหลุดกรอบอกไปเฉยเลย

แถวๆช่วงทดเวลาเซสนี่ย์ก็ต้องออกแรงปัดป้องช่วยให้ทีมไม่เสียประตูไปอีกครั้งหนึง สุดท้ายจบ 90 นาทีเป็นอาร์เซนอลที่เฉือนเอาชนะซันเดอร์แลนด์ไป 1-0 มีเพิ่มเป็น 44 คะแนนแซงหน้าเอฟเวอร์ตันที่จะเตะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในวันพรุ่งนี้ขึ้นที่ 5 แทนก่อน

ส่วนซันเดอร์แลนด์จำต้องพ่ายคาบ้านของตัวเองไปมี 29 คะแนนดังเดิม
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา