ผู้เขียน หัวข้อ: "แลมพ์" ฮีโร่~!! "สิงโต" พลิกคดีซิว "แซมบ้า" 2-1 ในรอบ 23 ปี  (อ่าน 634 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

ทีมชาติอังกฤษทำเอาแฟนบอลน้ำตาคลอเบ้าเพราะเล่นกันอย่างแจ่มตั้งแต่หลังยันหน้า มีผิดพลาดแค่ประตูโดนตีเจ๊า แต่สุดท้ายประตูชัยของแลมพาร์ดที่ลงยิงซูเปอร์ซัพสุดสวยช่วยหนุนลูกเบิกร่องของรูนี่ย์ให้ชนะบราซิลไป 2-1 ยุติ 8 เกมที่พบกันแล้วไม่เคยชนะมาได้ลงไปเลย



ฟุตบอลกระชับมิตรระดับนานาชาติ นัดพิเศษ
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556
อังกฤษ 2 - 1 บราซิล
สนาม เวมบลีย์ สเตเดี๊ยม

               เปิดฉากมาทั้งสองทีมได้เจอกันทั้งทีก็ขอทักทายตามสไตล์บอลผู้ดีสักหน่อย โดย เคฮิลล์ โชว์จังหวะใช้พลังกายดอกแรกอ่านเกมเข้าสไลด์เสียบดักบอลที่เนย์มาร์กำลังจะเล่นจนดาวรุ่งพุ่งแรงล้มกลิ้งไป ก่อนจะเข้าเบียดเฉียดฉิวที่สตาร์ซานโตสกำลังจะหลุดเข้าเขตโทษนั่นเอง

นาทีที่ 10 เห็นเซฟเทพขนาดนี้แล้วไม่ต้องเป่าฟาวล์ก็ได้ ในจังหวะที่อังกฤษได้เตะมุม บอลโยนโด่งเข้ากลางรูนี่ย์ได้โหม่งสะบัดลงพื้้นจากระยะแค่ไม่กี่หลา แต่เซซาร์สุดยอดดีดตัวปัดบอลมือเดียวหลุดออกหลังไปได้หน้าตาเฉย ถึงอย่างนั้นผู้ตัดสินก็เป่าไปแล้วว่าหอกร่างอวบผลักฟาวล์ไปก่อน

นาทีที่ 19 เซซาร์นึกว่าจะโชว์คนเดียวรึไง เมื่อฮาร์ทจัดการเซฟ 2 จังหวะที่ต้องบอกเลยว่าสุดตีนเอามากๆ ในจังหวะจุดโทษที่โรนัลดิญโญ่เปิดไปโดนมือของวิลเชียร์ ก่อนบอกกูขอตั้งบอลไปซัดเอง บอลพุ่งเลียดฮาร์ทดักได้ถูกทาง ล้มตัวป้องกันไว้ได้ แต่มันยังไม่พ้นวิถี บอลหมุนอยู่หน้าประตู เหยินน้อยพยายามที่จะสไลด์เข้ามาจิ้มซ้ำ แต่นายด่านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ลุกโคตรเร็วดีดตัวไปปัดมือเดียวออกมาได้ก่อนอีก สุดยอดไปเบย

หลังจากปล่อยให้กลางของบราซิลครองไปอยู่พักหนึง อังฤษก็มามีจังหวะการครองบอลบุกต่อเนื่องบ้างในช่วงนาทีที่ 25 ของเกม มีโอกาสอยู่ 2-3 ครั้ง สวยสุดคงวิลเชีลย์จ่ายป้ายทะลุให้กับเวลเบ็คได้ลองซัด แต่แทนที่จะยิงด้วยซ้ายตามเหลี่ยมกลับเลือกจิ้มหัวเกือกเท้าขวา บอลพุ่งออกหลังไปเลย

นาทีที่ 27 เด่นจริงๆสำหรับวิลเชียร์ในวันนี้ เมื่อเขาเป็นคนครองบอลตรงกลาง ก่อนที่จะเห็นช่องจ่ายไหลต่อให้กับวัลค็อตต์ใช้สปีดวิ่งทะลุเข้าไปในเขตโทษเสียแต่ยิงติดบาของเซซาร์ที่ออกมาบล็อก แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นรูนี่ย์ที่วิ่งตามเข้ามาซ้ำจากระยะไกลผ่านผู้เล่นบราซิลเข้าประตูไป อังกฤษขึ้นนำ 1-0 เฮกันหน่อย

อีก 2 นาทีต่อมา ก็ไม่รู้ว่าจังหวะนี้ตั้งใจหรือเปล่าสำหรับลูอีซแต่เล่นเอาวัลค็อตต์ต้องปฐมพยาบาลกันนิดหน่อยเลย เมื่อสตาร์อาร์เซนอลได้บอลแตะตัดเข้ากลาง ก่อนไหลต่อให้เพื่อนแต่ตอนกำลังจะผ่านลูอีซไปแข้งเชลซียื่นมือออกมาตั้งหลักรอใส่ซี่โครงของวัลค็อตต์จนเจ้าตัวถึงกับเล่นต่อไม่ได้เพราะหายใจไม่สะดวก แต่สุดท้ายก็กลับมาเล่นกันต่อ

นาทีที่ 37 สงสัยจะผิดเหลี่ยมไปหน่อยสำหรับเนย์มาร์ที่พลาดโอกาสทองในการทำประตูไป เมื่อออสการ์พาบอลขึ้นทางข้าง ก่อนเปิดสุดน่ากลัวครอสบอลต่ำเข้าจุดเกรงใจของกองหลังและผู้รักษาประตู บอลเลยถึงเนย์มาร์ที่สอดขึ้นมาสไลด์ชาร์จที่เสาสองก่ะว่าเน้นๆ แต่ดันปลิ้นหลุดข้ามคานไปไกลซะนี่

ช่วงเวลาที่เหลือก็บุกกันไปกันมา แต่ความเสียวสะท้านน้อยกว่าที่ผ่านมาเหลือเกิน ทำให้จบ 45 นาทีแรกลงพร้อมกับประตูนำ 1-0 ของอังกฤษจากรูนี่ย์ แต่ที่โดดเด่นจริงๆเลยคือวิลเชียร์ที่เป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของเจ้าบ้านเกมนี้ ส่วนบราซิลนี่ต้องปรับกันสักนิดในจังหวะสุดท้าย ความเข้าใจขาดกันไปหน่อย

              ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง "อังกฤษ" มีการเปลี่ยนตัวโดยเอาเบนส์ลงเล่นแทนโคล รวมทั้งถอดเคลฟเวอร์ลี่ย์ออกและให้แลมพาร์ดลงไปแทน ส่วนบราซิลนั้นถอดทั้งรามิเรส, โรนัลดิญโญ่และฟาเบียโน่ออกแล้วส่งอารูก้า, ลูคัส มูร่าและเฟร็ดลงเล่น

ครึ่งหลังเล่นมาแค่ไม่กี่นาที เคฮิลล์ที่โชว์จังหวะแท็คสวยๆในครึ่งแรกก่อความผิดพลาดจังเบอร์เลย เพราะเพื่อนอุตส่าห์ตามแก้กลับคืนบอลให้ เจ้าตัวกลับไปแตะบอลยาวเกิน ก่อนที่จะจิ้มไปติดผู้เล่นของบราซิล บอลเข้าทางเฟร็ดที่ไม่ต้องอะไรมากหาเหลี่ยมได้ปุ้บก็อัดเต็มตีนบอลพุ่งเข้าไปเสียบเสาไกลแรงประดั่งยิงปืนใหญ่ เกมเสมอกัน 1-1

หลังเสียประตูไปก็เล่นเอาตุปัดตุเป๋ มีจังหวะพลาดต่อเนื่องที่สมอลลิ่งคืนหลังไม่ดีฮาร์ทหวดแป้กไปติดเคฮิลล์เกือบโดนเฟร็ดจัดให้อีกดอกดีที่ชนคาน แต่หลังจากนั้นอังกฤษก็ตั้งเกมกันได้ เหมือนหายมึน

หนึ่งชั่วโมงของเกมพอดี เป็นจังหวะการจบสกอร์ที่แม้แต่เซซาร์ที่เซฟแจ่มๆในครึ่งหลังไป 2 ดอกก็ต้องยอม เมื่อบราซิลไปเล่นกันหน้าประตูเลยเจอรูนี่ย์เข้าจิ้มตัดหน้าต่อให้แลมพาร์ดที่ไม่ต้องพูดมากปั่นจังหวะเดียวจากนอกกรอบเล่นทาง บอลเลี้ยวหนีมือเซซาร์ชิ่งเสาเด้งเข้าไปอย่างสวย อังกฤษนำอีกหน 2-1

เข้า 20 นาทีสุดท้าย ยังคงเป็นปัญหาของบราซิลเหมือนเดิมถึงแม้ว่าจะบุกเร็วจนอังกฤษรวน แต่สุดท้ายพอเจ้าบ้านตั้งหลักได้ แนวรุกของบราซิลที่แม้จะพาขึ้นไปสู่โซนสุดท้ายได้ แต่ก็ไม่ได้มีจังหวะทีเด็ดเข้าไปลุยเจาะได้เลย เนย์มาร์ก็โดนประกบจนต้องถอยต่ำอยู่หลายครั้ง

ถือว่าเป็นการเล่นที่ดีกว่าเอาแต่โยนบอลแน่นอนสำหรับอังกฤษวันนี้ที่ต่อบอลเท้าสู่เท้ากันได้ดี มีจังหวะเล่นหนึ่งสองแบบรู้ใจกันหลายหน ดูแล้วก็น่าปลื้มใจแทนฮอดจ์สัน เพียงแต่จะรักษามาตรฐานแบบนี้เอาไว้ได้แค่ไหนเท่านั้นเอง

อุตส่าห์รักษาสถิติไม่แพ้อังกฤษมานานก็อยากที่จะสานต่อต่อไปสำหรับบราซิลที่แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นกันเยอะแล้ว แต่ก็เดินหน้าพยายามที่จะเอาประตูตีเสมอคืนกลับมาให้ได้

ตอนนี้เกมบุกช่างมันแล้วสำหรับอังกฤษที่เน้นเกมตั้งรับกันเต็มตัว ที่เหลือเอาไว้เค้าเตอร์แอ็คแท็คอย่างเดียว เพราะยังไงก็ต้องรักษาประตูนำอยู่หนึ่งลูกนี้เอาไว้ให้ได้ก่อนเท่านั้น

จบ 90 นาทีอังกฤษทำภารกิจที่รอมายาวนานได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะบราซิลเจ้าภาพฟุตบอลโลก ปี 2014 ไปด้วยสกอร์ 2-1 แม้ว่าจะเป็นแค่เกมอุ่นเครื่องแต่ก็มีความหมายไม่น้อยกับสภาพจิตใจของนักเตะที่โดนหยันเอาไว้ก่อนเกมจากเนย์มาร์สตาร์บราซิลที่มองว่าทีมเอาแต่พึ่งรูนี่ย์มากจนเกินไปนั่น
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา