ผู้เขียน หัวข้อ: "โพลดี้" ฮีโร่~!! ฟรีคิกพา "ปืนโต" เฉือน "หม้อ" หวิว 1-0~!!  (อ่าน 693 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

นึกว่าจะยิงไม่ได้ซะแล้วสำหรับอาร์เซนอลที่วันนี้โอกาสมีแต่ไม่ผ่านมือเบโกวิชที่เซฟสุดๆ แต่สุดท้ายมาได้ซูเปอร์ซัพอย่างโพโดลสกี้ที่ลงไปซัดฟรีคิกแฉลบเป็นประตูช่วยให้ทีมชนะสโต๊ค ซิตี้หวุดหวิด 1-0 แบบเดือดท้ายเกมพร้อมการประเดิมของมอนเรอัลซะด้วย



พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556
อาร์เซนอล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้
สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม

              เปิดฉากเริ่มเกมมาได้ 10 กว่านาทีแรก ถึงมาเยือน แต่กลัวที่ไหนสำหรับสโต๊ค ซิตี้ที่แม้ว่าจะไม่ได้ครองบอลอะไรเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาถนัดอยู่แล้ว เพราะการสวนกลับและเกมเปิดบอลโด่งคืออาวุธอันตรายที่เจ้าบ้านต้องระยะไว้ให้ดี

นาทีที่ 15 เกือบจะพุ่งเข้าบวกประตูได้สำหรับชิรูด์กับจังหวะนี้ที่เขาสอดตัวเข้าไปโขกที่เสาแรก แต่บอลมันพุ่งไม่ตรงกรอบ เปิดได้ดีสำหรับดิยาบี้ ส่วนสโต๊คก่อนหน้านี้มีช๊อตวอลเตอร์สได้ซัดไปดอก แต่ติดเซฟ

นาทีที่ 25 จังหวะบุกของอาร์เซนอลยังไม่สามารถเจาะรูแนวรับอันแข็งแกร่งของสโต๊คในเกมนี้ได้ รวมทั้งลูกที่วัลค็อตต์ได้บอลต่้อจากเพื่อนในการสวนกลับ ตอนแรกพยายามจะยึกหลอกแต่โดนบังซะมิดเลยยิงมันดื้อๆติดบล็อกตามคาด

นาทีที่ 32 ถึงจะยิงไม่ดีไปหน่อยแ ต่ก็ต้องให้เครดิตในการเซฟกับเบโกวิชไปเลย ในจังหวะเตะมุมที่บอลลอยผ่านฝูงนักเตะทีนัวเนียกันอยู่ ก่อนจะหล่นปุ๊ลงที่เท้าของแชมเบอร์เลนซึ่งรออยู่เสาสอง พยายามรีบตวัดยิง บอลเลยไม่ไปซ้ายขวาพุ่งตรงๆโดนเบโกวิชที่ยืนตำแหน่งไม่พลาดบล็อกได้บนเส้นพอดี

อีก 3 นาทีต่อมา ไม่มีเขานี่ทีมเยือนน่าจะโดนแน่ๆอย่างน้อยหนึ่งดอก เพราะอาร์เซนอลบุกเป็นพายุบุแคม เร่งเกมใส่จนพาเข้าถึงหน้าเขตโทษ กองหลังต้องบล็อกกันอุตลุด ก่อนจะมีจังหวะโยนเข้าไปให้กอสเชียลนี่ได้ขึ้นโหม่งสะบัดบอล แต่ไม่ผ่านมือของเบโกวิชที่ล้มตัวปัดบอลเอาไว้ได้แจ่มมากๆ

นาทีที่ 40 บุกหนักบุกจริง แต่ไม่ผ่านมือของนายคนนี้ เมื่ออาร์เซนอลบุกแล้วเหมือนสโต๊คจะตัดได้ ตรงนี้เองที่ทำให้กองหลังหย่อนสมาธิเลยเจอเจ้าบ้านขึงบอลคืนแล้วขวางไปให้กับแชมเบอร์เลนที่เติมขึ้นมาเอี้ยวตัวตวัดยิงก่ะให้เข้าเสาสอง แต่เบโกวิชก็บินไปปัดมือเดียวทิ้งออกหลังได้หน้าตาเฉย นี่เซฟจริงอะไรจริงเชียว

ช่วงเวลาที่เหลือมีการทดออกไปนิดหน่อยเพราะนักเตะของสโต๊คโดนมอนเรอัลโขกเจิมการมาเตะในพรีเมียร์ ลีกไป แต่สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้เสมออยู่ 0-0 โดยต้องบอกเลยว่าเบโกวิชมีส่วนต่อผลสกอรืที่เป็นอยู่ตอนนี้อย่างแรงเลย

              ต่อมาในช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 56 เกมยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไรไปนัก ก่อนที่อาร์เซนอลจะได้ลุ้นจากจังหวะชิรูด์เล่นชิ่งกับวิลเชียร์ที่ขึ้นไปในเขตโทษแล้วยกกลับให้หอกเลือดเฟร้นช์ควบมายิงที่เสาแรก แต่มีตัวเข้าบีบ ยิงรีบไปนิดเลยโด่งข้ามคานไปไกล

ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มไป โดยรวมแล้วอาร์เซนอลทำได้ดีกับการครองเกม แต่การที่จะหามิติใหม่ๆเพื่อเจาะแนวรับของสโต๊คนี้ยังไม่มี เล่นไปก็ตันๆทำให้โดนสวนอีกต่างหาก ดูท่าเวนเกอร์คงต้องส่งใครลงมาแก้สักหน่อย ไม่งั้นคงลุ้นยิงยาก

นาทีที่ 67 ภาพช้าจับไม่ได้เลยไม่รู้ว่ายังไสำหรับจังหวะนี้ของวัลค็อตต์ที่เหมือนพยายามจะวิ่งแซงวิลกินสันแล้วจู่ๆก็ลงไปกองกับพื้นจนลุกไม่ขึ้นต้องมีการปฐมพยาบาล คาดว่าน่าจะโดนแขนไม่ก็ศอกแต่ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์

ก่อนที่อาร์เซนอลจะเปลี่ยนเอาแชมเบอร์เลนและดิยาบี้ออก ก่อนจะส่งตัวหลักอย่างกาซอร์ล่ากับโพโดลสกี้ลงไปช่วยกันบุกในเวลาที่เหลือนี้

เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้าย อาร์เซนอลยังคงตั้งหน้าตั้งตาลุยใส่สโต๊คหวังที่จะแหวกกำแพงเกมรับเข้าไปลุ้นประตูจังๆสักที แต่ยังไม่มีโอกาสเลย ส่วนใหญ่เกมจะขึ้นทางซ้ายซะมาก มีโอกาสได้เปิดเหมือนกัน แต่แรงข้ามไปซะหมด

นาทีที่ 78 แม้ว่าจะวุ่นๆนิดๆ แต่ยังไงก็ได้ประตูอยู่ดีสำหรับอาร์เซนอลเมื่อโพโดลสกี้รับหน้าที่ปั่นฟรีคิกยิงยัดเข้าไปกลางๆแล้วไปติดขาของผู้เล่นสโต๊คแฉลบเปลี่ยนทางเข้าประตูไป จนปัญญาที่เบโกวิชจะรับได้แล้วจริงๆ ถึงไลน์แมนจะตีธงเหมือนบอกว่าล้ำหน้าจนนักเตะทั้งสองทีมกรูเข้าไปกดดันใหญ่ แต่สุดท้ายก็ให้เป็นประตูอยู่ดี อาร์เซนอลเอาจนได้นำ 1-0

ถึงจะได้ประตูที่รอคอยไปแล้วแต่อาร์เซนอลไม่ขอผ่อนเครื่องให้เสียจังหวะ ยังไงเดินหน้าลุยใส่ทีมเยือนต่อเนื่องอาจจะด้วยความคึกที่ปลดแอกสักที แต่ก็ต้องดูว่าจะได้เพิ่มหรือเสียให้เซ็ง

ช่วงท้ายเกมมีจังหวะเสียวๆของการเข้าบอลระหว่างกอสเชียลนี่และชอว์ครอสส์ที่ไล่ตามน้ำยันสตั๊ดใส่ปราการหลังอาร์เซนอลเต็มๆจนเกือบจะมีเรื่องกัน สุดท้ายได้แค่ใบเหลืองไป แถมมีจังหวะเดือดให้เห็นกันอีกจากจังหวะอาร์เตต้าเข้าใส่โอเว่นแล้วเบบี้โกลไปสาวหมัดเล็ก จนโดนวิลเชียร์มาหาเรื่อง ก่อนแยกกันออกไปได้

จบ 90 นาทีอาร์เซนอลเฉือนเอาชนะสโต๊ค ซิตี้ไปด้วยสกอร์ 1-0 มีเพิ่มเป็น 41 คะแนนยังอยุ่ที่ 6 เหมือนเดิม แต่ก็กลับมาเอาชนะได้หลังจากเกมก่อนเสมอไป ส่วนสโต๊คนี่ยังอยู่ที่ 10 มี 30 คะแนนเหมือนเดิมและนี่คือเกมที่ 6 ที่ชนะใครไม่เป็นและแพ้เกมที่ 4 แล้ว
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา