พิมพ์

[Armin]

"สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ถึงกับช็อกตาเหลือกกันไปเลยหลังอุตส่าห์นำ 2-0 มานานสุดท้ายเจอทีเด็ดของ "เลอ ฟอนเดร" ลงมาเป็นสำรองยิงประตูแรกนาที 87 ก่อนจะมา "วอลเลย์" ตีเสมอในทดเจ็บนาทีสุดท้ายพากันเสมอไป 2-2



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม
วันพุธที่ 30 มกราคม 2556
เรดดิ้ง 2:2 เชลซี

              เข้าสู่ช่วงแรกเล่นกันผ่านมา 10 นาทีแรกทั้งสองฝั่งยังไม่ได้อะไรมากนัก บอลออกแนวผลัดกันแลกไปมาแต่ในพื้นที่สุดท้ายยังไม่เฉียบขาดเท่าไหร่ทำให้ยังหาจังหวะจบกันไม่เจอ

โอกาสหนแรกของเกมมาแล้วและเป็นฝั่งของ"สิงห์บลูส์"จากเกมขึ้นมาทางขวาก่อนมาต้าจะไหลออกมาทางซ้ายมีโคลเติมขึ้นมาแล้วและตัดสินใจยิงไกลเลยแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบหลุดไปพอสมควร

มาถึงนาที 25 แล้วแต่เกมยังไม่มีอะไรมากกว่านี้เลย ส่วนใหญ่เป็นเชลซีที่ได้ครองบอลมากกว่าพยายามทเกมบุกก็ยังเจาะไม่เข้ามีมีโอกาสได้สับไกเพิ่มอีกหนจากออสการ์จ่ายให้แลมพาร์ดในเขตโทษได้ยิงแต่ก็ติดบล็อก

โอกาสจังๆครั้งแรกของเชลซีมาแล้วจากจังฟวะได้ลูกตั้งเตะเลยกลางสนามขึ้นมาและเป็นแลมพาร์ดมารับหน้าที่เปิดบอลเข้าไปด้านในแถวๆจุดโทษมีเคฮิลล์สอดเข้ามาทิ้งตัวโขกเน้นๆไปเสาไกลแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบหลุดออกนิดเดียว

จังหวะยิงยังไม่มากันเท่าไหร่เลยหนนี้เชลซีมาลองจากบอลยาวขึ้นหน้าไปให้กับตอร์เรสมาโหม่งชงคืนให้กับเบอร์ทรานด์เติมขึ้นมายิงแบบไม่ต้องจับแต่บอลก็ยังพุ่งหลุดเสาไกลไปพอสมควรอยู่เลย

เข้าท้ายครึ่งทางทีมเยือนได้กดดันมากขึ้นมีโอกาสมาเรื่อยแต่ยังไม่ตรงกรอบซะทีเริ่มต้นหนแรกจากมาต้าหนีตัวประกบมาได้ก่อนเปิดหยอดเข้าไปให้ออสการ์จับบอลไม่ดีแต่ตอร์เรสตามมายิงหลักไม่ดีบอลออกข้าง ต่อด้วยการยิงไกลของโคลอีกหนก็ยังหลุดกรอบไม่ได้ลุ้น

แต่แล้วทดเจ็บ"สิงห์บลูส์"ก็มาได้ประตูเสียทีจากบอลโดยรามิเรสจ่ายยัดมาตรงกลางให้กับมาต้าพลิกหนีตัวประกบมาก่อนฝากไปที่ออสการ์แล้วต่ออกมาทางขวาหน้าเขตโทษที่ตอร์เรสจับบอลก่อนจะเปิดกลับเข้าไปในเขตโทษให้กับมาต้าวิ่งหลุดไลน์กองหลังเรดดิ้งมาแล้วยิงหักข้อส่งบอลผ่านมือเฟเดริชี่ไปเสียบเสาไกลไม่เหลือ เชลซีปิดครึ่งแรกด้วยการนำ 1-0

              ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง "เรดดิ้ง" พยายามบุกแต่จังหวะจบยังไม่มีเลยโอกาสใกล้เคียงที่สุดคงเป็นบอลเปิดของเคเบ้เข้าไปด้านในมีเป้าหมายอยู่ที่โปเกรบเนียคแต่บอลมันโด่งไปนิดโค้งหลุดออกหลังไม่โดนหัวใคร

แล้วนาที 55 เกือบมีประตูที่สองของเชลซีเพิ่มด้วยจากจังหวะที่แลมพาร์ดพาตัวเองออกไปรับบอลทางซ้ายก่อนจะวนกลับมาแล้วเปิดยาวเข้าไปในเขตโทษให้ออสการ์หลุดมาไม่ล้ำหน้าพักอกก่อนทิ้งตัวตีลังกายิงแต่ก็ยังไม่ตรงกรอบออกอีก

โอกาสของ"สิงห์บลูส์"เกือบกลายเป็นประตูที่สองอีกแล้วจากแลมพาร์ดเอาบอลที่ตัดได้จากกลางสนามพาขึ้นมาเองตามด้วยไหลเข้าเขตโทษไปให้ตอร์เรสปล่อยหลอกถึงออสการ์เลี้ยงจี้ใส่เฟเดริชี่ก่อนจะเลือกปาดคืนมาให้ตอร์เรสแต่โดนเคลียร์ออกไปหวุดหวิด

แล้ว"สิงห์บลูส์"ก็มาได้ประตูเพิ่มอีกลูกในจังหวะต่อกันเลยจากลูกเตะมุมทางซ้าย รับหน้าที่เปิดโดยมาต้าเข้ามาบอลลอยมาทางเสาแรกให้แลมพาร์ดได้ขึ้นโขกเน้นๆ ตัวคุมเสาพยายามโหม่งเคลียร์แต่ก็ไม่ได้บอลยังเข้าประตู เชลซีทิ้งห่างเป็น 2-0 ได้เสียที

เดินเครื่องบุกต่อเนื่องสำหรับเชลซีแต่ยังไม่ได้มีโอกาสสับไกให้เฟเดริชี่ต้องอกแรงเซฟยังไม่มี เต็มที่ก็จากตอร์เรสหลุดมายิงด้วยขวาแต่ล้ำหน้าไปก่อน

เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายโอกาสหนแรกของเรดดิ้งเพิ่งจะมาจากโปเกรบเนียคโดนเคฮิลล์ทำฟาวล์ ก่อนเลอ ฟอนเดรจะได้มีโอกาสโหม่งลูกเปิดของฮาร์ทแต่ก็ไม่ตรงกรอบ

แล้วน่ามีประตูที่สามด้วยสำหรับเชลซีจากจังหวะบอลยาวมาแล้วเรดดิ้งโหม่งสกัดมาเข้าทางของเบนายูนได้พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายให้ออสการ์หลุดเข้าเขตโทษไปดวลกับเฟเดริชี่แต่ก็ยังติดเซฟอยู่

แต่เรดดิ้งก็มาได้ประตูได้ไล่ให้เสียวเอาในช่วงเหลือ 3 นาทีสุดท้ายจากบอลที่อักพานได้มองเข้าเขตโทษแล้วจ่ายทะลุให้กับเลอ ฟอนเดรวิ่งสอดมาก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายส่งบอลเบียดเสาแรกเข้าประตูไปเลย ไล่มาแล้ว 2-1

สุดท้ายทดเจ็บน้ำตาเชลซีตกใจกันไปหลังมาโดนทีเด็ดเจ้าบ้านจากจังหวะได้ฟรีคิกกลางๆสนามบอมบ์เข้าไปในเขตโทษ เคเบ้โขกเปลี่ยนทางบอลเข้าทางไปหาอักพานก่อนจะโขกต่อให้กับเลอ ฟอนเดรทางซ้ายเขตโทษได้ยิงแปย้อยๆไปเสียบเสาไกลไม่เหลือ เรดดิ้งทำแสบเสมอ 2-2 สำเร็จ

จบเกมเชลซีทำแต้มในมือหล่นหายไปอีกเสมอกับเรดดิ้งไป 2-2 ทำให้ระยะห่างจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังเท่าเดิมที่ 6 คะแนน แถมสเปอร์สไล่มาเหลือ 4 คะแนน ส่วนเรดดิ้งหนีโซนตกชั้นขึ้นมาได้ด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า