โคตรฟุตบอลค่าย "ต่างดาว" บาร์เซโลน่า "ลิโอเนล เมสซี่" เขียนประวัติศาสตร์ให้วงการลูกหนังโลกอีกครั้งเมื่อเบียดเพื่อนร่วมสโมสรอย่าง "อันเดรส อิเนียสต้า" และ "คริสติอาโน่ โรนัลโด้" ซูเปอร์สตาร์พันล้านของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด คว้ารางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ประจำปี 2012 ไปครองซึ่งนับเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
"เมสซี่" กลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่คว้ารางวัลบัลลงดอร์ 4 สมัยติดต่อกัน แถมยังเป็นเจ้าของรางวัลมากที่สุดด้วยจำนวนดังกล่าว ขณะที่ "นโปเลียนลูกหนัง" อย่าง "มิเชล พลาตินี่" ตำนานของฝรั่งเศสเก็บไป 3 ครั้งติดในช่วงปี 1983-85 ส่วน "โยฮัน ครัฟฟ์" กับ "มาร์โก ฟาน บาสเท่น" สองแข้งเง็กเซียนของฮอลแลนด์ก็ได้ไป 3 สมัยเช่นกัน
ถึงแม้ว่าดาวเตะอาร์เจนไตน์นั้นไม่สามารถนำ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลาลีกาฤดูกาล 2011-12 ขณะที่ในแชมเปี้ยนส์ลีกก็ไปได้ไกลสุดแค่รอบตัดเชือก ทว่าผลงานส่วนตัวของเขาก็ดีพอที่ทำให้ได้รางวัลอันทรงเกียรติไปครอง
แข้งวัย 25 ปีสอยรางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ไปครองหลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดปี 2012 ด้วยการทำไปทั้งหมด 91 ประตู ทุบสถิติ 85 ประตูของตำนานลูกหนังเยอรมนีอย่าง "เกิร์ด มุลเลอร์" โดยแบ่งเป็น 79 ประตูให้กับ "บาซ่าร์" และอีก 12 ประตูให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่า
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ "เมสซี่" อยู่ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่พา "อาซูลกราน่า" ไล่ยำ "ห้างยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 7-1 เมื่อเขากดไปคนเดียว 5 ประตูและยังเหมาคนเดียว 4 ประตูในแมทช์ลาลีกาที่ชนะบาเลนเซียกับ "เอสปันญ่อล" ขณะเดียวกันยังเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ต้นสังกัดขึ้นนำเป็นจ่าฝูงลาลีกาแบบทิ้งคู่แข่งขาดลอยอยู่ในขณะนี้