หอกตัวพ่อเลี้ยงตัวใหม่"ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์" เปิดซิงซัดประตูแรกให้กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แต่ไฮท์ไลท์กลับกลายเป็นช็อตที่ "หลุย ซัวเรส" เจตนาทำแฮนด์บอลก่อนจะเชือด "แมนส์ฟิลด์" 2-1 พา "รองแชมป์เก่า" ผ่านเข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพไปพบกับ "โอลด์แฮม" ท่ามกลางเสียงสาบแช่งจากทุกหมู่เหล่า
เอฟเอ คัพ รอบ 3
วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2556
แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ 1-2 ลิเวอร์พูล
สนาม วัน คอลล์ สเตเดี้ยม
"หงส์ซิ่ง" ช่วงนี้ฟอร์มกำลังแจ่มชนะ 3-0 มา 2 เกมรวดนัดนี้แม้เจอทีมนอกลีกแต่กุนซือตาหวาน "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" ไม่ประมาทส่งนักเตะสำรองลงมาผสมกับนักเตะตัวหลักหลายคน กองเชียร์ของแมนส์ฟิลด์โชว์สปิริตน่ายกย่องด้วยการทำพิธีรำลึกถึง 96 ชีวิตที่จากไปในโศกนาฎกรรมฮิลล์เบอะห์เรอะแถมยังเว้นเก้าอี้ว่างเป็นเกียรติให้กับเหล่า "เดอะ ค็อป" ที่จากไปแบบไม่มีวันกลับอีกต่างหาก
เปิดฉากเริ่มเกมผ่านมาได้แค่ 7 นาที "สเตอร์ริดจ์" ก็ประเดิมลูกแรกในนามของ "หงส์แดง" ได้สำเร็จเมื่อรับบอลแทงทะลุช่องมาจากเชลวี่ย์เข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนแปด้วยขวาสวนตัวของแมร์ริอ็อตต์เข้าไปซุกก้นตาข่ายพาทีมเยือนขึ้นนำเร็วทันที
มาถึงนาทีที่ 13 ดาวนิ่งเล่นลูกเตะมุมสั้นส่งมาให้อัลเลนตั้งป้อมยิงจากระยะราว 20 หลาบอลพุ่งเลียดทะลุกองหลังเจ้าถิ่นแต่ไปตรงตัวของแมร์ริอ็อตต์ที่ต้องก้มตัวเซฟ 2 จังหวะ
"หงส์แดง"มาอดได้ประตูที่ 2 แบบเหลือเชื่อเมื่อเชลวี่ย์คนเดิมแทงบอลไปให้"โปรเลี้ยง"หลุดเดี่ยวอีกแล้วแต่เจ้าตัวทำเงอะๆงะๆจนแทบหมดโอกาสยิงมาลั่นไกจังหวะสุดท้ายก็ไปติดโกลจนได้แต่ภาพช้าเขาน่าจะล้ำหน้าไปแล้วในนาทีที่ 14
นาทีที่ 25 สเตอร์ริดจ์ทำชิ่งกับดาวนิ่งตรงริมเส้นด้านซ้ายก่อนที่ปีกหน้าตายจะหลุดเข้าไปในเขตโทษพร้อมก้มหน้าหวังยิงเน้นๆแต่จังหวะสุดท้ายกองหลังของแมนฟิลด์พุ่งเข้ามาบล็อคเอาไว้ได้หวุดหวิด
"หงส์แดง"ทำชิ่งกันสวยอีกแล้วเมื่อเชลวี่ย์ฝากบอลไปให้สเตอร์ริดจ์ตรงวงกลมกลางสนามก่อนควบหน้าตั้งไปรับบอลแทงทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายทำไม่ดีจิ้มบอลไปตรงตัวของแมร์ริอ็อตต์ที่ออกมาบล็อคทันเวลา
กองหลังของลิเวอร์พูลมาพลาดในจังหวะที่ปล่อยให้กรีนพลิกบอลโล่งๆก่อนตวัดยิงด้วยขวาเต็มๆจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดแต่ไม่ห่างตัวของโจนส์ที่พุ่งไปเซฟเอาไว้ได้ในนาทีที่ 33
หลังจากนั้น"โปรเลี้ยง"โชว์ท่าหากินลากบอลจากริมเส้นด้านซ้ายเข้าไปยาวๆจนถึงเส้นหลังแต่จังหวะตบกลับหลังมา"ไอ้จ้อน"เข้าไม่ทันโดนกองหลังเคลียร์ทิ้งออกมาก่อนเข้าทางลูคัสที่วอลเล่ย์ไม่ตรงกรอบ
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก"ไอ้จ้อน"แทงบอลให้"โปรเลี้ยง"ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนอดีตดาวเตะเชลซีพยายามยิงไปที่เสาสองทว่าแมร์ริอ็อตต์ยังปัดเอาไว้ได้ปลายมือ
จากจังหวะเตะมุมโคอาเตสได้กระโดดสับขายิงแต่คุมบอลไม่ดีทำให้ออกไปไกลไม่ได้ลุ้นกันเลย
เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงหลังได้ไม่ถึงนาทีเจ้าถิ่นได้โอกาสยิงก่อนเลยจากฮาวล์ที่ทะลุขึ้นมาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่โจนส์ยังออกมาปิดมุมได้ดีบล็อคบอลออกหลังไปได้
หลังจากนั้นเจ้าถิ่นอาศัยเปิดบอลยาวมาหน้าปากประตูแต่คาร์ราเกอร์ยังตามมาบล็อคเอาไว้ได้ทัน 2 จังหวะซ้อนๆ
แมนส์ฟิลด์ยังบุกต่อเนื่องทำให้โจนส์ต้องออกมาปัดป้องเอาไว้ถึง 2 ทีมาถึงตอนนี้สาวก"เดอะ ค็อป"นั่งกันแทบไม่ติดแล้วเพราะโดนบุกหนักเหลือเกิน
เจ้าถิ่นวิ่งสู้ฟัดจริงๆทำให้"หงส์แดง"ปั่นป่วนตั้งเกมไม่ติดและเกือบมาเสียจุดโทษด้วยซ้ำในจังหวะที่กรีนหลุดไปยิงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตวัดยิงติดคาร์ราเกอร์ที่พุ่งเข้ามาบล็อคเต็มๆซึ่งบอลไปไต่แขนของเขานิดนึงด้วย
จากนั้นแมนส์ฟิลด์ยังดาหน้าบุกต่อเนื่องบอลไปขลุกขลิกหน้าประตูก่อนที่กรีนจะตอกส้นบอลไปโดนโจนส์ที่เอาตัวมาบล็อคไว้ทันแต่บอลก็ยังไปโดนแขนของอัลเลนเล็กๆทว่ายังไม่มีเสียงนกหวีดจากกรรมการ
"หม่อมเหยิน"เพิ่งลงมาถึงก็ได้ลุ้นเลยเมื่อได้บอลทะลุมาจากวิสดอมก่อนหาจังหวะพลิกเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาโดยดาวยิงอุรุกวัยตัดสินใจปั่นไซร้ก้อยทันทีแต่บอลหมุนไม่พอทำให้หลุดเสาไกลไป
"หงส์แดง"มาขึ้นนำ 2-0 จนได้จากจังหวะโต้กลับเร็วซัวเรซจ่ายไปให้ดาวนิ่งที่ริมเส้นด้านขวาก่อนทิ่มกลับมาให้"หม่อมเหยิน"หลุดเข้าไปจิ้มบอลโดนแมร์ริอ็อตต์บล็อคบอลกระเด้งขึ้นมาซัวเรซใช้มือขวาตบบอลไว้หนึ่งจังหวะก่อนตามเข้าไปยิงง่ายๆทั้งที่น่าจะเป็นจังหวะแฮนด์บอลไปแล้ว
เกมผ่านมาถึงช่วง 15 นาทีสุดท้าย"หงส์แดง"เป็นฝ่ายพยายามคอนโทรลบอลเอาไว้กับตัวแต่ก็ไม่มีจังหวะทำเกมบุกหนักเท่าไหร่เพราะโดนลูกฮึดของนักเตะเจ้าถิ่นวิ่งบีบแบบไม่มีหมดจริงๆ
นาทีที่ 77 ดาวนิ่งลากบอลไปจนสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนเปิดมาเสาสองให้เชลวี่ย์พักด้วยอกหนึ่งจังหวะก่อนยิงไม่ดีบอลออกหลังไป
มาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นมาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะเล่นลูกฟรีคิกบอลเลยมาถึงกรีนได้หวดด้วยขวาเต็มข้อบอลไปโดนโคอาเตสแล้วไปชิ่งโดนมือของโจนส์เข้าประตูไป
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นอาศัยบอลโยนยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษของ"หงส์แดง"อย่างต่อเนื่องและได้ลุ้นอยู่หลายครั้งแต่กองหลังของทีมเยือนยังยันเอาไว้ได้แม้ต้องทำให้กองเชียร์เสียวกันตลอดเวลาโดยเฉพาะกรีนที่มีโอกาสยิงให้โจนส์ต้องบินปัดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
จนแล้วจนรอด"หงส์แดง"ก็เอาตัวรอดออกมาจากวัน คอลล์ สเตเดี้ยมได้สำเร็จพร้อมผ่านไปเล่นกับโอลด์แฮมในรอบ 4 ได้แบบทุลักทุเล