ยังโหดแบบนี้หากจะไม่ต่อสัญญาก็ไม่รู้จะว่ายังไง เมื่อแลมพาร์ดยังคงโชว์ความเป็นคนสำคัญของทีมด้วยการเหมาคนเดียวสองลูก พาเชลซีที่โดนเอฟเวอร์ตันซัดหงายไปตั้งแต่ 2 นาทีแรกพลิกกลับมาเอาชนะได้สำเร็จ 2-1 แถมเบนิเตซหล่อเก็บชัย 4 เกมติดแล้ว
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2555
เอฟเวอร์ตัน 1 - 2 เชลซี
สนาม กูดิสัน ปาร์ค
เกมนี้เป็นเกมแรกของ "ราฟาเอล เบนิเตซ" ที่กลับมายืนคุมทีมข้างสนามในถิ่นเมอร์ซี่ไซด์อีกครั้ง หลังจากที่เขาโดน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ปลดไป แต่ใครจะว่ายังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้กุนซือสแปนิชทำผลงานอย่างแหล่ม พาทีมคว้าชัยมา 3 เกมติดต่อกัน แถมยังขุนเอาฟอร์มของ "ตอร์เรส" กลับ เปิดฉากเริ่มเกมมาได้แค่นาทีกว่าเท่านั้น "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" ไม่รีรอ จัดการออกนำไปก่อนเลยจากจังหวะที่พวกเขาขึ้นเกมทางขวา เปิดยาวไปเสาสอง อนิเชเบ้เบียดขึ้นโหม่งได้ก่อนกองหลัง น่าเสียดายบอลพุ่งชนเสา แต่มันเด้งได้จังหวะเข้าทางของพีนาร์ที่เติมขึ้นมากดเต็มเท้าทะลวงผ่านบล็อกของเชลซีเข้าไปเต็มตาข่าย เจ้าบ้านว่องไว 1-0
นาทีที่ 8 ถ้าไม่แม่นเสาล่ะก็นำห่างไปแล้วสำหรับเอฟเวอร์ตัน เพราะลูกยิงฟรีคิกสุดเฉียบของเยลาวิชที่เช็กได้แต่ยืนทำตาปริบๆมองอย่างเดียวแล้วดันพุ่งข้ามกำแพงไปชนเสาด้านเดียวกันกับที่อนิเชเบ้ซัดมาแล้วเฉย
ผ่าน 15 นาทีไปนี่แทบยังไม่เห็นหัวโล้นเหม่งของฮาวเวิร์ดเลยสักนิด เพราะเชลซียังเชื่อมเกมกันไม่ติด โดนกลางของเอฟเวอร์ตันปิดไว้หมด พอขึ้นหน้าได้ถ้าไม่เจอดักล้ำหน้าก็ถูกบีบจนทำอะไรไม่ได้อยู่ดี งานให้แก้เพียบเลยสำหรับเบนิเตซ
นาทีที่ 26 หวิดไปอีกดอกสำหรับเชลซี เพราะลูกยิงที่ออสมันตั้งป้อมพระกาฬหน้าเขตโทษนั้นมันหนักหน่งได้ใจ แถมยังพุ่งมาซะเลียดรับยาก แต่เช็กก็ไวล้มตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้เยี่ยม
อีกเพียงแค่หนึงนาทีต่อมา เชลซีก็มีโอกาสลุ้นครั้งแรกเสียที จากจังหวะที่สวนกลับขึ้นไปแล้วรามิเรสเปิดยัดไปติดขาของกองหลัง ทำให้เหมือนกับเป็นการตั้งบอลให้มาต้าวิ่งมากดเน้นๆ แต่ฮาวเวิร์ดบล็อกเอาไว้ได้ ก่อนช่วยๆกันเคลียร์สถานการณ์ให้นิ่ง
ผ่านครึ่งชั่วโมงไป อันนี้ถือว่าเล่นกันดีขึ้นสำหรับเชลซี เพราะมีจังวะต่อบอลไปป้วนเปี้ยนแถวฝั่งของเอฟเวอร์ตันได้อย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องเกมสวนกลับนี่ก็ยังปล่อยไม่ได้ เพราะมีจังหวะหนึงเยลาวิชได้หลุดไปหวดหนึ่งดอก ทำเอาเช็กเสียวอีกรอบเหมือนกัน
นาทีที่ 42 ใครว่าดีแต่ยิงไกลอย่างเดียว เมื่อแลมพาร์ดโชว์ความเฉียบขึ้นไปสอดเติมเข้าเขตโทษ ก่อนที่จะขวิดบอลที่รามิเรสโยนมาจากด้านข้างทะแยงสวนไปเสาแรก ชนิดที่ฮาวเวิร์ดได้แต่เหลียวมอง เชลซีตีเสมอในช่วงเวลาสุดสำคัญ 1-1
จบ 45 นาทีแรก เชลซีถือว่าได้ประตูตีเสมอสำคัญจริงๆเพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะหมดเวลาอยู่แล้ว ทำให้พวกเขาเสมอกับเอฟเวอร์ตันอยู่ 1-1
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นสำหรับ "สิงห์บลูส์" เพราะเช็กที่ลงเล่นเกมที ่400 ให้กับต้นสังกัดมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าเล่นต่อไม่ไหว ต้องให้เทิร์นบูลล์ลงไปเฝ้าเสาแทน
หลังจากไปปรับแก้กันมา ก็ดูเหมือนว่าจังหวะของทั้งสองทีมจะดูลื่นไหลกว่าเดิม โดยเฉพาะเชลซีที่ต่อบอลกันไม่กี่จังหวะก็พรวดถึงเขตโทษของเอฟเวอร์ตันแล้ว ติดตรงจังหวะจบยังไม่มีเท่านั้นเอง
นาทีที่ 67 โอกาสเกมนี้ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เมื่อบอลมาถึงก็ต้องจัดเท่านั้นสำหรีับตอร์เรสที่เก็บตกบอลซึ่งทะลักมาจากจังหวะแลมพาร์ดปะทะผู้เล่นเอฟเวอร์ตันที่นอกกรอบเขตโทษได้ เลยตวัดยิงแบบเน้นๆให้ตรงกรอบ แน่นอนว่าฮาวเวิร์ดปัดได้ไม่มีพลาด
แม่นเกินไปจริงๆสำหรับเอฟเวอร์ตันในเกมนี้ เพราะพวกเขาต้องพลาดการได้ประตูไปอีกครั้งจากคาน ในจังหวะที่เยลาวิชวิ่งสอดล้มตัวขวิดบอลข้ามมือของเทิร์นบูลล์ไปได้แล้ว แต่ดันไปชนคานเข้าอย่างจังเลยนี่
นาทีที่ 70 ดูแล้วน่าจะเป็นการเอาคืนสำหรับลูอีซที่ก่อนหน้าแปบๆโดนพีนาร์เข้าสกัดด้านข้างจนล้มลงกอง จังหวะที่ต้องเตะตัดเกมเลยขอจังๆหน่อย เตะตัดสูงใส่ต้นขาซะเลย แน่นอน รับใบเหลืองไป
อีก 2 นาทีต่อมา ไหนใครไม่อยากต่อสัญญาว่ามาเลย เมื่อแลมพาร์ดเหมาคนเดียว 2 ประตูให้เชลซีคัมแบ็คกลับมาแซงเอฟเวอร์ตัน จากจังหวะที่ฮาวเวิร์ดเซฟลูกยิงจังๆของมาต้าได้แล้ว แต่ไม่พ้นวิถีเพราะแลมพาร์ดยืนไม่โดนกับดักล้ำหน้าแปเสยคานซ้ำเข้าไป เชลซีพลิกแซง 2-1
เข้า 10 นาทีสุดท้าย ไม่มีเวลาให้คิดนานแล้วสำหรับเอฟเวอร์ตันเพราะถ้าจำยอมก้คงต้องแพ้คาบ้านอย่างเดียว แต่มอยส์ก็แก้เกมด้วยการเปลี่ยน 3 ตัวแทบจะติดๆกัน ส่งทั้งบาร์คลี่ย์, เวลิออสและโอวิเอโด้ลงสนาม
ช่วงเข้าทดเวลาบาดเจ็บ จากจังหวะสวนกลับของเชลซี ตอร์เรสเกือบจะใส่ชื่อลงไปเป็นผู้ทำประตูได้ แต่น่าเสียดายที่จังหวะง้างยิงของเขาโดนดิสแต็งน์เข้ามาสกัดได้ซะก่อน ส่วนเอฟเวอร์ตันเสียดายยิ่งกว่าเพราะเยลาวิชดันพลาดโคตรเงิบมีโอกาสยิงตามน้ำหน้าปากประตูเหน่งๆ แต่ก่ะพลาดซัดบอลแป้กไปซะเอง ทำให้จบ 90 นาที เชลซีเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 เก็บชัย 4 เกมรวด มีเพิ่มเป็น 38 คะแนนขึ้นไปอยู่ที่ 3 แทนท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สซะเลย
ส่วนเอฟเวอร์ตันนี่ก็เป็นการพ่ายแพ้เกมแรกในรอบ 7 นัดที่พวกเขาอุตส่าห์รักษาสถิติมาได้ น่าเสียดายแทนแต่ก็ต้องยอมรับกันไป