พิมพ์

[Armin]

เป็นเกมสุดแสนจะบีบหัวใจและมันส์ไปถึงไส้ติ่ง เมื่อ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำท่าจะสะดุดหัวทิ่มอีกเกม เพราะต้องไล่ตามไล่ยิงตีเสมอ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ลถึง 3 ครั้ง ก่อนจะมาได้ประตูชัยจากยอดฮีโร่อย่างเอร์นานเดซยิงในช่วงทดเวลา ทำให้พวกเขาพลิกนรกแซง 4-3 คว้า 3 คะแนนแสนสำคัญ



พรีเมียร์ ลีก บ๊อกซิ่ง เดย์
วันพุธที่ 26 ธันวาคม 2555
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 3 นิวคาสเซิ่ล
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหลังจากผิดหวังสะดุดเจีากับสวอนซีไป 1-1 เมื่อเกมที่แล้ว จนทำให้พลาดเกมชัย 6 เกมติด วันนี้ก็กลับมาเปิดบ้านเพื่อต้อนรับนิวคาสเซิ่ลในวันบ๊อกซิ่ง เดย์นี้

              เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที งานนี้โดนเต็มประตูเลยสำหรับเด เกอา เพราะแม้ว่าบาจะได้โอกาสส่องไกลนอกกรอบเขตโทษจากความผิดพลสดของคาร์ริคและยิงได้แน่นดี แต่บอลมันก็ไม่ได้แรงถึงขนาดนั้น แม้ว่าจะเลียดเด้งพื้นนิดหน่อย แต่กลายเป็นว่าเด เกอาเหมือนลังเลว่าจะเอายังไง สุดท้ายเลยล้มตัวไปปัด แถมไม่ดีพอ เพราะปัดไปเข้าทางเพิร์ชที่เติมขึ้นมากินลมชมวิวเล่นเฉยๆได้ส้มแปบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างง่ายดาย แมนฯยูไนเต็ดโดนซะ นิวคาสเซิ่ลนำ 1-0

ผ่าน 15 นาที ด้วยการจัดตัวผู้เล่นก็ดูจะปั้นเกมยากอยู่แล้ว ยิ่งมาโดนนำไปก่อนแบบนี้เล่นเอาแมนฯยูไนเต็ดเซ็ตกันไม่เป็นเกมเลย จนฟาน เพอร์ซี่ต้องล้วงลงต่ำ ด้านเอร์นานเดซก็ต้องพยายามฉีกไปหาพื้นที่เล่นเองด้านข้าง เพราะจะหวังให้กิ๊กส์กระชากไปเปิดให้ก็คงต้องลุ้นเหนื่อยหน่อย

นาทีที่ 25 จะ RVP หรือ ไอ้เจ้าถั่วก็ต้องหลบไป เพราะปีนี้เขามาทำประตูจริงๆสำหรับอีแวนส์ที่มาทำประตูได้ในจังหวะเล่นลูกตั้งเตะซึ่งฟาน เพอร์ซี่เปิดเข้าไปแล้วเหมือนนิวคาสเซิ่ลสกัดไม่ดี เอร์นานเดซเก็บตกเอี้ยวตัวตวัดยิง ติดเซฟของครูลที่ทำได้ดีแล้ว แต่ก็ไม่รอดเหมือนเดิมเมื่ออีแวนส์เบียดเข้าตามหลังจิ้มบอลเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดตีเจ๊า 1-1

อีกเพียงแค่ 4 นาทีต่อมา ก็บังเกิดเรื่องดราม่าขึ้น เมื่ออีแวนส์ผู้ทำประตูตีเสมอให้กับแมนฯยูไนเต็ดได้หยกๆ ดันมาทำประตูตัวเองจากจังหวะที่เขาพยายามจะชิงตัดบอลที่นิวคาสเซิ่ลเปิดยัดให้ซิสเซ่ แต่ผิดเหลี่ยมพุ่งเข้าประตูไป แม้ว่าซิสเซ่จะยืนล้ำหน้าและไลนแมนยกธง แต่เมื่อผู้ตัดสินพิจารณาตามกฏใหม่ที่ตัวล้ำต้องเล่นบอลก่อนเท่านั้นแล้ว จึงยกให้ลูกนี้เป็นประตู นิวคาสเซิ่ลขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

นี่น่าจะเป็นเกมนอกบ้านที่ดีที่สุดเกมหนึงของนิวคาสเซิ่ลในฤดูกาลนี้เลย เพราะพวกเขาต่อบอลและเชื่อมบอลกันได้อย่างไม่มีติดขัด ลงไปรับเมื่อไหร่ถ้าได้รุกก็เพิ่มจะเติมเกมขึ้นไปได้ ไหนจะบีบพื้นที่ทำให้แมนฯยูไนเต็ดเล่นได้ยากอีกด้วย

นาทีที่ 39 เกือบตะโดนอีกดอกแล้ว สำหรับเด เกอาที่ได้แต่ชะเง้อมองท่าเดียวเลยสำหรับลูกยิงฟรีคิกของมาร์กโวซ์ที่จัดการปั่นบอลฝ่าสายฝนพุ่งโค้งเข้าหาประตู แต่โชคร้ายสูงไปนิดเดียวเลยชนคานซะก่อน

หลังจากทดเวลาไป 2 นาที เกมก็จบลงไปด้วยการเล่นที่ไร้ทรงของแมนฯยูไนเต็ดที่ได้เฮแปบเดียวก็มาโดนนำอีกรอบจากการทำเข้าประตูตัวเองของอีแวนส์ทำให้โดนนำอยู่ 2-1 ต้องดูว่าเฟอร์กูสันจะไปกระตุ้นกันยังไงเพื่อให้กลับมาเล่นให้ดีกว่าในครึ่งแรก ส่วนพาร์ดิวคงต้องเน้นให้ลูกทีมอย่าหลุดฟอร์ม เพราะที่เล่นกันอยู่น่ะแหล่มโฮกแล้ว

              มีภาพกีฬามันส์ๆให้ได้เห็นกันเลย เมื่อเฟอร์กูสันฉุุนขาดไล่เฉ่งเปาตั้งแต่ดีนที่ทำหน้าที่ตัดสินในสนาม ลามไปถึงไลน์แมนจนฟีแลนผู้ช่วยไม่กล้าเข้าไปห้ามคุณป๋าเลยทีเดียว ไม่รู้จบเกมจะโดนอะไรไหม

เข้ามาเล่นกันในครึ่งหลังแม้ว่าแมนฯยูไนเต็ดเหมือนจะไปถูกกระตุ้นกันมาพอควรแล้วพยายามเล่นบอลให้ได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม แต่พวกเขาก็เหมือนยังทำได้ไม่สุด ต่อเกมได้แปบๆก็หลุด ขึ้นหน้าไปก็ยังหาโอกาสจบไม่ได้

นาทีที่ 58 ใครจะว่าตังเกก็ว่าไป แต่เอฟร่าขอโชว์ความหล่อด้วยการทำประตูติดกันสองเกมให้กับทีม จากจังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดพยายามทำเกมเข้าบอมบ์แล้วบอลหลุดออกมาถึงเอฟร่าที่เบียดผู้เล่นนิวคาสเซิ่ลก่อนจะตัดสินใจตะบันนอกเขตโทษพุ่งบอลพุ่งทะแยงผ่านมือของครูลที่ปัดได้เพียงนิดเสียบเสาสอง แมนฯยูไนเต็ดตีเจ๊า 2-2

นาทีที่ 68 งานนี้เงิบสุดๆไปเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อมาเจอทีเด็ดของเด็กเก่าอย่างโอแบร์ตองจัดการกระชากบอลขึ้นไปทางริมเส้น ก่อนที่จะหักเข้าในให้กับซิสเซ่ที่แม้จะฝืดมาแค่ไหนแต่จังหวะนี้วิ่งมาบวกซัดบอลแบบไม่ต้องจับ พุ่งเป็นจรวดทะลวงผ่านเด เกอาเข้าไปตุงตาข่าย นิวคาสเซิ่ลขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 สุดมันส์จริงๆเกมนี้

อีกเพียงแค่ 3 นาทีต่อมา เกมก็กลับมาเสมอกันอีกครั้ง เมื่อฟาน เพอร์ซี่ซัดได้โอกาสยิงเน้นๆแล้วรอบแรก แต่ติดเซฟของครูลที่ทำได้เยี่ยมเหลือเกิน แต่บอลยังไม่ไปไหนขลุกขลิกไปมา สุดท้ายเข้าทางฟาน เพอร์ซี่ที่คราวนี้แปด้วยอีซ้ายแบบเน้นๆส่งพุ่งเลียดผ่านมือครูลเข้าไป เกมเสมอ 3-3 จะออกหน้าไหนล่ะเนี่ย

นาทีที่ 78 เป็นจังหวะที่ร้องจะเอาจุดโทษเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเอร์นานเดซได้บอลหลุดไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะตัดสินใจซัดทันที บอลพุ่งไปติดมือของโคลอชชินี่ ผู้เล่นเจ้าบ้านโวยกันใหญ่ แต่ผู้ตัดสินนิ่งไม่ว่าอะไรทั้งนั้น

อีก 2 นาทีต่อมา ยังไงก็ต้องใส่สกอร์ไปแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เพราะจังหวะที่วาเลนเซียครอสบอลจากด้านข้างมาให้โคตรงาม เอร์นานเดซได้พุ่งตัวโขกคนเดียวเน้นๆ แต่กลับโหม่งบางเกินไป บอลเลยพุ่งหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ

ช่วงทดเวลานาทีแรก ในที่สุดแมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูขึ้นนำครั้งแรกและน่าจะเป็นประตูชัยด้วย เมื่อคาร์ริคโยนบอลยาวสุดสวยเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่เอร์นานเดซจะสอดเข้าไปล้มตัวยิงผ่านครูลอย่างแจ่ม ทำให้แมนฯยูไนเต็ดพลิก 4-3 ขณะที่เหลือเวลาน้อยเต็มที

ช่วงท้ายเกมมีการทดเวลาบาดเจ็บเพิ่ม เมื่ออนิต้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากการเข้าเสียบโหดของวาเลนเซียจนต้องมีการปฐมพยาบาลกันให้ดี ก่อนจะหามตัวออกไป ดูแล้วอาการน่าเป็นห่วงเหมือนกัน ก่อนจบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะพลิกนรกแตกเอาชนะนิวคาสเซิ่ลที่นำพวกเขาถึง 3 ครั้งไปได้ 4-3 เก็บ 3 คะแนนฉีกหนีแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เงิบพ่ายซันเดอร์แลนด์ไปเป็น 7 คะแนนด้วยกัน

ด้านนิวคาสเซิ่ลต้องหล่นไปอยู่อันดับที่ 15 มี 20 คะแนนเท่าเดิม อุตส่าห์ชนะมาได้เกมก่อน มาวันนี้แพ้อีกแล้ว