มีให้เสียวซี๊ดซ๊าดกันตลอดเลยทีเดียวในเกมนี้เมื่อ "ดาเนี่ยล แอกเกอร์" รับบทฮีโร่ปลดแอกให้เหล่า "เดอะ ค็อป" โดยโขกพังประตูชัยให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เบียดเอาชนะ "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน น้องใหม่ท้ายตารางหวุดหวิด 1-0 แต่ยังอยู่กลางตารางและเพิ่งชนะหนสองในรอบ 7 นัดแถมเป็นชัยชนะในบ้าน 2 นัดติดหนแรกในรอบ 13 เดือนเลยทีเดียว
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555
ลิเวอร์พูล 1-0 เซาแธมป์ตัน
สนาม แอนฟิลด์
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 12 ของตาราง ทำพลาดไปในเกมกลางสัปดาห์ที่บุกไปพลาดท่าแพ้ให้กับ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-1 ทำให้เกมนี้ "เบรนแดน รอดเจอร์ส" กุนซือหนุ่มชาวไอร์แลนด์เหนือนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเก็บ 3 คะแนนจากทีมโซนหล่นชั้นได้ ออกสตาร์ทเกมแรกมาทีมเยือน "เซาแธมป์ตัน" เป็นฝ่ายได้ยิงทักทายก่อนจากจังหวะที่ลูคัส เลว่าเสียบอลกลางสนามบอลเลยมาถึงริคกี้ แลมเบิร์ตกองหน้าตัวเก่งสับไกด้วยขวานอกกรอบเขตโทษแต่บอลยังไม่ตรงกรอบในนาทีที่ 3
ขยับมาถึงนาทีที่ 10 ซัวเรซผ่านบอลไปให้เกล็น จอห์นสันที่เติมขึ้นมาได้ลากบอลไปมาหาโอกาสยิงด้วยขวาในกรอบ 6 หลาแต่ค่อนข้างเบาทำให้นายด่านทีมเยือนเซฟเอาไว้ได้สบาย
จังหวะต่อมาเชลวี่ย์หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนที่เจ้าตัวจะเงอะๆงะๆยิงไปติดเซฟของกาซซานิก้าปัดออกมาพ้นอันตรายไปได้
นาทีที่ 25 ซัวเรซทำชิ่งกับโจ อัลเลนหน้าปากเขตโทษด้านขวาก่อนได้หลุดเข้าไปยิงเต็มๆด้วยเท้าขวาแต่บอลยังไปติดเซฟของกาซซานิก้าที่ปิดมุมเสาแรกเอาไว้ได้
มาถึงนาทีที่ 29 เรน่าเปิดบอลยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษของทีมเยือนบอลมาตกใส่หลังของฟอนเต้ไปหล่นข้างหน้าของซัวเรซแต่กาซซานิก้าก็ยังออกมาเร็วกันเอาไว้ได้ก่อนที่บอลจะออกหลังไป
ผ่านมา 35 นาที "หงส์แดง"พลาดโอกาสทองในจังหวะที่เจอร์ราร์ดแทงบอลทะลุช่องไปให้เชลวี่ย์ที่รออยู่ในกรอบเขตโทษด้านขวาซัดเต็มข้อบอลไปชนเสาไกลเต็มแรงกระเด้งออกมาเสียอย่างนั้น
หลุยส์ ซัวเรซได้ปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลาทางด้านกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลโค้ลไปชนคานกระเด้งออกมาจอห์นสันเก็บบอลเอาไว้ได้ก่อนล็อคกลับหลังแล้วเปิดเข้ากลางมาเข้าหัวแอกเกอร์ที่ปักหลักอยู่ตรงจุดโทษได้สะบัดบอลพุ่งวาบเข้าไปกองก้นตาข่ายให้ทีมขึ้นนำทันทีในนาทีที่ 43
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ"หงส์แดง"มีโอกาสอีกครั้งในจังหวะที่กองหลังทีมเยือนสกัดไม่ดีบอลมาเข้าเท้าของเชลวี่ย์นอกกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนบรรจงเปิดบอลเข้าไปหน้าปากประตูให้สเตอร์ลิ่งโถมขึ้นโขกโดนบางๆทำให้บอลออกหลังไป
หลังจากนั้นกองเชียร์เจ้าถิ่นก็ใจหายวาบเมื่อแลมเบิร์ตลักไก่ยิงเต็มแรงระยะกว่า 40 หลาบอลตกพื้นหนึ่งจังหวะจะเข้ากรอบอยู่แล้วยังดีที่เรน่าไม่หลับพุ่งไปเซฟได้หวุดหวิด
เริ่มเกมครึ่งหลัง"นักบุญ"มีโอกาสทักทายก่อนอีกครั้งในจังหวะที่พูเชี่ยนได้บอลในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนหาช่องยิงหวังเป็นประตูตีเสมอแต่บอลไปโดนบล็อคออกหลังไป
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 60 "หงส์แดง"ยังเป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้ได้แต่"นักบุญ"ก็เริ่มทำเกมได้สวยๆหลายครั้งก่อนจะมาถึงจังหวะที่จอห์นสันเติมขึ้นมาปาดเลียดเข้ากลางให้สเตอร์ลิ่งจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนกลับตัวยิงด้วยซ้ายแต่บอลเบาค่อยๆไหลไปเข้ามือกาซซานิก้ากลางประตู
ประตูที่ 2 ของลิเวอร์พูลยังไม่มาแม้จะต่อเกมได้สวยโดยเริ่มจากเอ็นริเก้ที่ลากบอกตัดมาจากริมเส้นด้านซ้ายมาถึงหน้าปากเขตโทษพร้อมทำชิ่งสั้นๆกับซัวเรซก่อนที่แบ็คสเปนจะหลุดเข้าไปแต่จังหวะยิงสุดท้ายไปติดบล็อคเกองหลังทีมเยือนออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 77 เจ้าถิ่นเดินเกมรุกอย่างหนักต่อไปแล้วได้จังหวะยิงประตูอีกครั้งเมื่อจอห์นสันตักบอลจากกลางสนามไปให้เอ็นริเก้จับบอลลงหนึ่งจังหวะในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนซัดด้วยซ้ายข้างถนัดแต่กาซซานิก้าก็ยังยืนปิดมุมดีปัดบอลทิ้งออกไป
"หงส์แดง"ถึงคราวซวยแล้วเมื่อซัวเรซทำตัวเองในจังหวะที่จอห์นสันเติมขึ้นมาริมเส้นด้ายขวาก่อนแทงเข้าไปให้สเตอร์ลิ่งจิ้มต่อไปให้เจอร์ราร์ดหลุดไปถึงเส้นหลังก่อนตบเข้ามาเร็ว"หม่อมเหยิน"เข้าไม่ถึงแล้วแต่เจ้าตัวดันฉวยโอกาสใช้มือตบบอลจนโดนใบเหลืองใบที่ 5 ของฤดูกาลทำให้สัปดาห์หน้าลงสนามเกมเยือนเวสต์แฮมไม่ได้แล้ว
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ"หม่อมเหยิน"ได้บอลทำชิ่งจากสเตอร์ลิ่งได้ยืนยิงโล่งๆระยะประมาณ 15 หลาแต่กลับพยายามยิงให้เข้าไปทางโคนเสาจนเลยออกหลังไป
หลังจากนั้น"หงส์แดง"พยายามครองบอลเอาไว้เพื่อปิดเกมส่วน"นักบุญ"ก็ไม่ได้ดาหน้าบุกหวังทวงประตูคืนเท่าไหร่ทำให้เจ้าถิ่นรักษาสกอร์เอาไว้ได้ตลอดรอดฝั่งคว้าชัยนัดที่ 3 ในบ้านได้สำเร็จพร้อมขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 11 ของตารางคะแนนอีกทั้งยังเป็นการชนะในบ้าน 2 เกมติดต่อกันในรอบ 13 เดือนอีกต่างหาก