ฟอร์มดีกันขนาดนี้ต้องชมกันหน่อยแล้วหรับ "มวยโลก" เวสต์บรอมวิช ที่แม้ช่วงท้ายจะเสียวไปนิดแต่ก็บุกไปเอาชนะ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ คาบ้าน 4-2 ทำผลงานสุดยอดเก็บชัย 4 เกมติด มีเพิ่มเป็น 27 คะแนนแซงหน้า "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซีขึ้นที่ 3 ชั่วคราวก่อนเลย
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555
ซันเดอร์แลนด์ 2 - 4 เวสต์บรอมวิช
สนาม สเตเดี๊ยม ออฟ ไลท์
เปิดฉากเริ่มเกมมาเล่นกันผ่านไป 10 กว่านาทีแรก เกมก็เรื่อยๆดีไม่มีอะไรให้ได้ฮือฮา ส่วนจุดที่น่าสนใจก็อยู่ตรงที่เวสต์บรอมวิชมาเป็นทีมเยือนก็จริง แต่ทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว เซ็ตเกมกันได้สวย ถึงจะจบลงที่ปัญหาเดิมๆของทีมเล็กคือเรื่องมิติที่จะลุยเข้าไปถึงพื้นที่สุดท้ายกันก็เถอะ
นาทีที่ 17 เล่นเอาเสียวเหมือนกันสำหรับจังหวะเซฟของมายฮิลล์ที่ดูไร้ซึ่งความมั่นใจเสียจริง จากลูกยิงของเซสซิยองที่แม้จะทำได้สวยดีดบอลเร็วบริเวณนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลมันไม่ได้หนีหรือปั่นมาก แต่มายฮิลล์ดันปัดแบบหลุดๆบอลเกือบเข้าประตูไปซะงั้น ยังดีนะออกข้าง
อีก 3 นาทีต่อมา เล่นเอาใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลยสำหรับโอเชียที่ตัวเขาเองมีใบเหลืองติดมาก่อนอยู่แล้ว แล้วดันไปมีจังหวะสกัดลองที่ตัดบอลจากริมเส้นเข้าในจนล้มกลิ้งลงไป เห็นดีนผู้ตัดสินวิ่งมาจะควักใบเหลือง แข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึงกับออกอาการว่าเขาไม่ได้ทำผิดอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายก็เป็นหอกเวสต์บรอมวิชที่โดนจดชื่อโทษฐานพุ่งล้มไป
นาทีที่ 25 คราวนี้แจ่มเลยสำหรับมายฮิลล์เมื่อเขาล้มตัวปัดบอลได้อย่างสวยจากจังหวะฟรีคิกของซันเดอร์แลนด์ที่เป็นเซสซิยองขึ้นโหม่งเช็ดได้ลุ้น แต่ไม่ผ่านมายฮิลล์ที่ดูจะมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
อีก 5 นาทีต่อมา เป็นประตูที่สุดยอดอะไรอย่างนี้สำหรับเกร่า ที่เขารับบอลมาจากเพื่อนหน้าเขตโทษ เห็นมีช่องเลยบรรจงปั่นด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งทั้งโค้งทั้งแรงเข้าไปเสียบเสาแรก แม้ว่ามินญอเล่ต์จะปัดได้นิดหนึงก็ไร้ผล ทีมเยือนบุกมานำก่อน 1-0
นาทีที่ 44 เป็นอะไรที่ผิดพลาด ผิดพลาดอย่างเสียไม่ได้จริงๆสำหรับลูกนี้ของมินญอเล่ต์ซึ่งเขาพุ่งตัวออกมารับลูกเบสิคที่ซันเดอร์แลนด์จ่ายทะลักมาแล้ว แต่จังหวะสไลด์รวบบอลกลับทำกระฉอกโดนลองที่วิ่งตามมาเฉยๆฉกไปยิงแปง่ายๆสบายแฮซะงั้น เวสต์บรอมวิชทิ้ง 2-0 พร้อมฝันร้ายของมินญอเล่ต์เลย
จบครึ่งแรกลงพร้อมกับเสียงโห่ของแฟนเจ้าบ้านที่เซ็งสุดๆเมื่อมาเห็นทีมรักโโนนำห่างไป 2-0 แถมกัปตันตัวจริงอย่างคัตเทิ่ลโมลก็เจ็บต้องออกจากสนามไปอีก สถานการณ์ไม่สู้ดีเลย
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังลงสนามมาเจอกันได้ไม่กี่นาที เวสต์บรอมเกือบบวกประตูทิ้งห่างไปไกลเลยจากเจ้าเก่าคนเดิมอย่างลองที่ได้โอกาสหลุดเข้าไปในเขตโทษ ได้ดวลเดี่ยวๆแล้ว แต่คราวนี้มินญอเล่ต์ไม่มีงงพุ่งออกมาบล็อกได้ทันท่วงที
เข้าหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกม ซันเดอร์แลนด์ใช่ว่าจะยอมจำนนต่อสกอร์ พวกเขาพยายามที่จะเร่งเกมขึ้นไปลุ้นเอาประตูคืนมาจากเวสต์บรอมเช่นเดียวกัน รอก็แต่โอกาสที่ยังไม่มาถึงเท่านั้น
นาทีที่ 70 เวสต์บรอมวิชมีการขยับปรับตัวผู้เล่น เมื่อตัดสินใจถอดลองที่ทำประตูสุดหมูในเกมนี้ได้ออกไปแล้วส่งลูกากูซึ่งเพิ่งจะกลับมาพร้อมเล่นอีกครั้งส่งสนามแทน
อีก 3 นาทีต่อมา โอนีลล์ไม่มีทางเลือกแล้ว จัดการส่งดาวเตะในแดนหน้าอย่างซาฮาลงไปเล่นแทนคอลแบ็คดูแล้วเสี่ยงเหมือนกันแต่อย่างว่าโดนนำอยู่ 2 ลูกถึงตอนนี้ไม่ต้องคิดมากแล้วล่ะ
นาทีที่ 81 เวสต์บรอมมาได้ประตูตอกฝาโลงที่ทำให้พวกเขาหายใจหายคอสะดวก เมื่อจอห์นสันไปเสียบสไลด์ทำฟาวล์ริดจ์เวลล์ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินแจกทันที ลูกากูรับหน้าที่สังหารเข้าไป เกมขยับ 3-1
แต่แล้วนาทีเดียวกันนั้น ซันเดอร์แลนด์ก็มาทำประตูตีไข่แตกได้เฉยเลย จากลูกยิงฟรีคิกของการ์ดเนอร์ที่บรรจงปั่นเข้าไปแล้วแฉลบกำแพง เลยทำให้มายฮิลล์หลงทาง ถึงจะกลับมาปัดได้มันก็ไม่พ้น เกมขยับ 2-1 บีบหัวใจล่ะทีนี้
นาทีที่ 87 ซันเดอร์แลนด์มาต่อลมหายใจอีกเฮือกเมื่อพวกเขาได้ประตูไล่มาเป็น 3-2 จากลูกเตะมุมที่โยนเข้ากลางแล้วมายฮิลล์เซฟจังหวะแรกอย่างเทพ แต่บอลมันไม่ไปไหนเลยเจอเซสซิยองตามซ้ำเข้าไป ลุ้นกันต่อเลย
ช่วงท้ายเกมเวสต์บรอมวิชมาได้ประตูปิดท้ายสุดๆจากฟอร์จูเน่ ช่วยให้คว้า 3 คะแนนเต็มได้แบบเบ็ดเสร็จ ส่วนซันเดอร์แลนด์สถานการณ์ย่ำแย่ 5 เกมหลังสุดพ่ายไปถึง 3 อยู่ที่ 15 เหมือนเดิม ถึงจะแข่งน้อยกว่าชาวบ้านเขาก็ตาม