พิมพ์

[Armin]

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องจบเส้นทางแชมเปี้ยนส์ลีกเพียงเท่านี้ หลังจากที่โดน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด บุกมานำตั้งแต่ 10 นาทีแรกก่อน "อาร์เบลัว" โดนไล่ออกพร้อมเจอ "อเกวโร่" ซัดจุดโทษให้เสมอกันไป 1-1 ตกรอบ 2 ปีติดพร้อมส่ง "ชุดขาว" ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อไป



ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2555
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 - 1 เรอัล มาดริด

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องใส่เต็มแม็คเลยทีเดียวเพื่อที่จะเก็บชัยในนัดนี้ให้ได้ หากอยากต่ออายุไขลุ้นเข้ารอบหลัง โดยส่ง "นาสตาซิช, กอมปานี และ ซาบาเลต้า" มีวิงแบ็คเป็น "โคลารอฟ" กับ "ไมค่อน" คู่กองหน้าเลือกให้ "เซโก้" จับคู่กับ "กุน" ในวันนี้

               เปิดฉากเกมแรกเพียงแค่ 10 นาทีแรกเจ้าบ้าน "เรือใบสีฟ้า" ก็เหงื่อตกซะแล้ว หลังจากที่ "ราชันชุดขาว" ดันมาบุกนำได้ก่อนเลยจากบอลไปขึ้นทางริมเส้นขวาอยู่ที่ดิ มาเรียก่อนจะตั้งป้อมเปิดเข้าไปด้วยซ้ายแล้วเบนเซม่าที่รออยู่เสาไกลหลุดมาโล่งๆไม่โดนประกบแนวรับแมนฯ ซิตี้เผลอเรอเลยกลายเป็นหอกน้ำหอมวิ่งมาชาร์จเข้าประตูไปเลย มาดริดออกนำ 1-0

เจ้าบ้านยังดูมึนๆเกือบโดนลูกสองเพิ่มบอลทิ้งออกมาทางซ้ายให้กับโรนัลโด้ตัวอันตรายดวลกับไมค่อนยึกๆยักๆก่อนจะหาช่องเปิดเข้าไปตรงกลางแล้วมีเคดิร่าวิ่งสอดเข้ามาแปแต่เหมือนไม่ถนัดบอลเลยทิศทางไม่ดีแถมเบาลอยหลุดกรอบออกหลังไป

มาเป็นชุดเลยสำหรับทีมเยือนโรนัลโด้เริ่มเผาแนวรับของ"เรือใบ"ได้แล้วจากโรนัลโด้แตะหลบกอมปานีไปยังตามมาบังทางทันแต่ก็ยังเจอโรนัลโด้ล็อกหลอกจนได้ช่องเปิดเข้าไปอีกทีที่เสาแรกและมีเคดิร่าคนเดิมสอดมาโขกแต่บอลเข้าแค่ข้างตาข่ายเท่านั้น

นาที 16 มันน่าได้ประตูเหลือเกินสำหรับมาดริดและเป็นอีกครั้งที่แนวรับแมนฯ ซิตี้กากอย่างแรงเจอจังหวะกระดกบอลของอลอนโซ่ให้โรนัลโด้หลุดเดี่ยวไปดวลกับฮาร์ท กระดกผ่านไปแล้วแต่บอลมันเบาไปเลยเจอนาสตาซิชมาเคลียร์ออกจากเส้นเข้าทางโรนัลโด้อีกหนแตะหนีฮาร์ทแล้วยิงก็ยังแฉลบออกหลังอีก

โอกาสของเจ้าบ้านมากันบ้างเจาะไม่เข้าหันมาพึ่งจังหวะยิงไกลจากซิลบาที่ถ่ายบอลจากริมเส้นเข้าข้างในให้กับอเกวโร่พลิกหนีตัวประกบมาสวยก่อนลองยิงไกลดูแต่กาซิญาสก็ยังโดดปัดให้ข้ามคานไปก่อนได้

นาที 33 แมนฯ ซิตี้มาได้ลุ้นกันอีกซีกทีจากลูกฟรีคิกบ้างระยะเกือบ 30 หลากลางประตูเยื้องมาทางขวานิดๆก่อนเป็นโคลารอฟเข้ามารับหน้าที่สั่งหารด้วยซ้ายบอลโค้งข้ามกำแพงไปแล้วแต่โค้งมากไปนิดเลี้ยวหลุดเสาออกหลังไป

ช่วงท้ายครึ่งแรก"เรือใบ"เริ่มจะได้ครองบอลกดดันมากกว่าแล้วแต่เกมรับของมาดริดก็เหนียวมายังไงก็ยังไม่สะเทือนและก็รอจังหวะสวนกลับก่อนได้ลุ้นส่งท้ายจากลูกยิงไกลไม่ตรงกรอบของเบนเซม่าและจบครึ่งแรกที่พวกเขานำอยู่ 1-0

              หลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังเกมดูเหมือนจะเปิดมากขึ้น "ซิตี้" เริ่มบุกได้น้ำได้เนื้อแล้วมีจังหวะในนาที 55 เป็นบอลออกไปทางขวาให้กับซิลบาฝากต่อไปให้เซโก้วิ่งมารับไปเปิดเกือบสุดเส้นหลังจะให้ตัวชาร์จตรงกลางโดนสกัดมาเข้าทางซิลบาเกือบตั้งตัวไม่ทันยังได้ยิงแต่บอลก็เบาไปเข้าซองกาซิญาสง

จังหวะสวนทีเดียวของมาดริดก็น่ามีประตูเพิ่มเหมือนกัน บอลทิ้งออกไปทางซ้ายให้กับโรนัลโด้หลุดไปก่อนรอจังหวะให้เพื่อนรีบเติมขึ้นมากันแล้วก็เปิดไปเสาสองมีเบนเซม่ากับเคดิร่าเป็นรายหลังได้โขกไปติดแฉลบฮาร์ทเลยตะครุบได้

เจ้าบ้านมันน่าได้ประตูตีเสมอเสียจริงเป็นบอลดีดไปให้กับไมค่อนที่เติมมาริมเขตโทษทางขวาก่อนจะเปิดเข้ากลางแฉลบแต่บอลเป็นใจให้โค้งไปถึงอเกวโร่ที่เสาสองวิ่งมาชาร์จแบบเผาขนแต่กาซิญาสยังยอดเยี่ยมพุ่งมาปัดบอลได้ทันแบบฉิวเฉียดจะซ้ำก็โดนเคลียร์ทิ้งอีก

และแล้วนาที 74 "เรือใบ"มาได้เฮกันเลยหลังได้จุดโทษจาจังหวะบอลเปิดถึงเซโก้ก่อนจ่ายต่อให้กุนวิ่งมารับต่อแต่โดนอาร์เบลัวสะกิดล้มจากด้านหลังทำให้เปาแจกจุดโทษทันทีพร้อมใบเหลืองที่สองให้อาร์เบลัวด้วย มาดริดเหลือ 10 คนก่อนอเกวโร่ลุกมายิงจุดโทษเข้าไปไม่มีปัญหา แมนฯ ซิตี้ไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ

รูปเกมกลับมาเป็นทางแมนฯ ซิตี้แล้วได้กดดันอย่างหนักเพื่อการต่ออายุลุ้นเข้ารอบครั้งนี้เกือบได้จบจ่อๆอีกแล้วจากซิลบาดิ้นหลุดมาได้ฝากต่อให้กับเซโก้วิ่งมาเปิดเข้าไปหน้าประตูแต่โด่งไปนิดตัวชาร์จเสาไกลเข้าไม่ถึง

เข้า 10 นาทีสุดท้ายแล้วแมนฯ ซิตี้ยังต้องกดดันหนักเพื่อประตูออกนำแล้วทำได้ดีพอควรหาช่องจบได้เรื่อยๆแต่ยังไม่อันตรายมาก มีจังหวะที่ทำชิ่งจนเปิดช่องให้เตเบซได้ลองสับไกหน้าเขตโทษแต่บอลก็พุ่งเรียดเข้าซองกาซิญาส

จบเกมแมนฯ ซิตี้ก็เสมอกับมาดริดไป 1-1 ทำให้พวกเขาหมดโอกาสเข้ารอบแล้วมีเพียง 3 แต้มต้องไปลุ้นยูโรป้าลีกที่จะแย่งกับอาหยักซ์ในเกมสุดท้าย ส่วน"ราชัน"ตีตั๋วสู่รอบต่อไปสำเร็จด้วยแต้ม 8 คะแนน