อุปสรรคแค่ไหนก็ไม่หวั่นเพราะถึงแม้ "นกนางนวล" แวร์เดอร์ เบรเมน จะเหลือ 10 ตัวก็ไม่สน โหมบุกกระหน่ำเข้าใส่ "ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ" ก่อนยิง 2 ประตูรวดในช่วงครึ่งหลังแซงชนะ 2-1 แบบกองเชียร์เจ้าถิ่นต้องใจหายใจคว่ำเก็บเพิ่มอีก 3 คะแนนกระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 7 บนตาราง
บุนเดสลีก้า เยอรมัน
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2555
แวร์เดอร์ เบรเมน 2-1 ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ
สนาม เวเซอร์สตาดิโอน เข้าสู่ช่วงครึ่งแรกเริ่มเกมมาเพียง 10 นาทีแรกเจ้าถิ่น "เบรเมน" ก็ต้องเสียท่าเมื่อโซคราติสไปทำฟาวล์ร็อบบี้ ครูสกองหน้าของดุสเซลดอร์ฟในกรอบเขตโทษกรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันทีซึ่งเยนส์ ลันเกเนเก้ปราการหลังมือสังหารประจำทีมรับหน้าที่ไม่พลาดวิ่งมายิงด้วยเท้าขวาบอลเข้าไปตุงตาข่ายกลางประตู
หลังจากเสียประตูไปก่อนแบบไม่ทันตั้งตัวเบรเมนพยายามตั้งเกมบุกขึ้นมาบ้างโดยซลัทโก้ ยูนูโซวิชเปิดบอลเข้ามากลางประตูให้นีลส์ พีเตอร์เซ่นได้ยิงด้วยขวาไปกลางประตูแต่บอลยังไปโดนโทเบียส เลเวลส์ขวางทางเอาไว้ได้
ทีมเยือนมีโอกาสขึ้นนำ 2-0 ในจังหวะที่ร็อบบี้ ครูสผ่านบอลมาให้เคน อิลโซ่ได้ยิงจ่อๆในกรอบ 6 หลาแต่ดันไปติดเซฟของไมลิตซ์
หลังจากนั้นเป็นฝั่งเจ้าถิ่นที่ดาหน้าขึ้นมาหวังทวงประตูตีคืนให้ได้โดยมีโอกาสได้ยิงหลายต่อหลายครั้งจากเควิน เดอ บรุยน์, นีลส์ พีเตอร์เซ่นรวมถึงมาร์โก อเนาโตวิชแต่ก็ยังไม่อาจส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปได้
มาถึงช่วงท้ายครึ่งแรกเกมเริ่มเดือดเพราะผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายเข้าปะทะกันบริเวณกลางสนามอย่างหนักหน่วงอยู่หลายครั้งจนทำให้ผู้ตัดสินต้องชักใบเหลืองมาแจกติดๆกันถึง 3 ใบโดยเป็นฝ่ายเจ้าถิ่น 2 ใบ ทีมเยือน 1 ใบก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกลง
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังเพียง 6 นาทีเบรเมนก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ในจังหวะที่ลูคัส ชมิตซ์ลากบอลอยู่บริเวณริมเส้นก่อนเปิดเข้ามากลางประตูให้นีลส์ พีเตอร์เซ่นได้ขึ้นโขกระยะเพียง 6 หลาบอลตกไปเข้าโคนเสาซ้ายมือเป็นประตูตีเจ๊าจนได้
หลังจากได้ประตูเจ้าถิ่นยังดาหน้าบุกหวังเอาประตูขึ้นนำให้ได้โดยในจังหวะเตะมุมอาร่อน ฮันท์เปิดเข้ามาตรงจุดนัดพบให้โซคราติสกองหลังขึ้นโหม่งตรงกลางประตูแต่บอลหลุดเสาขวามือออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 66 มาร์โค อเนาโตวิชรับบอลมาจากโซคราติสในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนมีโอกาสสับไกยิงด้วยขวาข้างถนัดบอลพุ่งจะเสียบสามเหลี่ยมมุมขวาบนอยู่แล้วแต่ฟาเบียน กีเฟอร์ยังโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้
ถัดจากนั้นอีก 3 นาทีเอลเยโร่ เอเลียปีกชาวดัตช์หันมาลองยิงไกลดูบ้างโดยเขาได้บอลนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายเข้าระยะทำการ 20 หลาก่อนปั่นด้วยขวาแต่บอลพุ่งไปตรงกลางประตูเข้ามือของกีเฟอร์อีกครั้ง
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 77 เจ้าบ้านมาเหลือ 10 คนจนได้ในจังหวะที่อัสซานี่ ลูคิมย่า-มูลอนโกตี้ไปตัดฟาวล์ใส่ร็อบบี้ ครูสบริเวณริมเส้นด้านซ้ายทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงต้องออกจากสนาม
แม้จะมีผู้เล่นน้อยกว่าแต่"นกนางนวล"มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในจังหวะที่ต่อบอลอย่างสวยจากแดนตัวเองก่อนที่อาร่อน ฮันท์จ่ายบอลจากริมเส้นด้านซ้ายมาถึงเควิน เดอ บรุยน์ได้สับด้วยขวาเต็มๆระยะประมาณ 12 หลาหน้าปากประตูบอลพุ่งเสียบโคนเสาซ้ายไปอย่างงดงามในนาทีที่ 81
หลังจากนั้นยังเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ครองบอลบุกเป็นส่วนใหญ่แต่ยังไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทว่าก็เพียงพอต่อการเก็บ 3 แต้มทะยานแซงไปอยู่ที่ 7 ของตารางทันที