ผู้เขียน หัวข้อ: เฮ้ยได้ไง~!! "หงส์แดง" ง่อยทั้งเกม "เหยิน" โขกเจ๊า "สิงห์บลูส์" 1-1 เฉยเลย~!!  (อ่าน 864 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลงัดสกิลปาฏิหารย์ไล่ตามตีเสมอเชลซีทั้งๆที่เกือบทั้งเกมโดนไล่ยำนวดซี่โครงบานโดยฮีโร่ยังเป็นหลุยส์ ซัวเรซคนเดิมแต่สถานการณ์ยังแย่รั้งอันดับ 13 ส่วนแชมป์ยุโรปร่วงมาที่ 3 ไม่ชนะใครมา 3 นัดแล้ว



พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2555
เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล
สนาม  สแตมฟอร์ด บริดจ์

                เปิดฉากเริ่มเกมมาในนาทีที่ 5 "โจ อัลเลน" ทำพลาดเมื่อไปล็อกบอลในเขตตัวเองจนโดนออสก้าร์มาปั๊มเอาไว้ได้บอลเลยมาถึงตอร์เรสป้ายไปให้อาซาร์ที่เติมขึ้นมาหน้าปากเขตโทษด้านซ้ายก่อนจิ้มกลับมาให้ออสการ์หลุดไปดวลกับโจนส์แต่เจ้าหนูบราซิลดันยิงโด่งข้ามคานออกไป

ผ่านไป 10 นาที"หงส์แดง"เริ่มตั้งเกมได้พยายามเคาะบอลสั้นเป็นหลักให้เจอร์ราร์ดคอยแทงบอลในจังหวะได้เสียแต่แผงหลังเชลซีก็ยังคุมพื้นที่กันเอาไว้ได้ดีไม่พลาดให้ทีมเยือนได้ส่องเหมือนกันโดยในช่วง 15 นาทีแรกนั้นพวกเขาครองบอลได้ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว

เกมมาถึงนาทีที่ 19 เชลซีมีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้งจากลูกฟรีคิกระยะเกือบ 40 หลาฆวน มาต้าเปิดบอลสั้นให้อิวาโนวิชวิ่งเข้ามาตะบันด้วยขวาเต็มแรงแต่บอลพุ่งเข้าหาแฟนบอลแบบไม่ได้ลุ้น

ถัดมาอีกเพียงนาทีเดียวจอห์น เทอร์รี่พังประตูให้เจ้าถิ่นขึ้นนำจนได้จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายโดยเขาสลัดหนีการประกบจากแอ็กเกอร์มาได้ก่อนขึ้นโขกโล่งๆเพียงคนเดียวระยะ 6 หลาผ่านมือของโจนส์เข้าไปเสียบสามเหลี่ยมเสาใกล้ให้เจ้าถิ่นได้เฮสนั่น

หลังเสียประตูโจ อัลเลนดูจะหงุดหงิดไม่น้อยวิ่งเข้าไปเสียบใส่อาซาร์อย่างแรงตรงกลางสนามแต่เว็บบ์ยังใจดีไม่แจกใบเหลืองให้ห้องเครื่องชาวเวลส์

เมื่อเห็นกองหน้าไม่สามารถหาจังหวะทำประตูได้เสียทีทำให้แอ็กเกอร์ต้องเติมขึ้นมาลุ้นยิงไกลด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษตามถนัดแต่บอลก็ยังไม่เข้ากรอบในนาทีที่ 25

หลังจากนั้นอีก 2 นาที"สิงห์บลูส์"เกือบได้ประตูขึ้นนำ 2-0 เมื่ออาซาร์เลี้ยงบอลตรงดิ่งขึ้นมาจากกลางสนามก่อนป้ายไปให้ตอร์เรส์ที่คอยอยู่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายวิ่งเข้ามาแปเต็มๆแต่โจนส์ยังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้บอลกระเด้งกลับไปหาอาซาร์อีกครั้งซึ่งเขาก็เอี้ยวตัววอลเลย์ไม่ถนัดนักทำให้บอลออกข้างเสาไป

มาถึงตอนนี้เป็นทีมเยือนที่ได้ครองบอลใส่เจ้าถิ่นที่รอโต้กลับงามๆ โดยโอกาสของ"หงส์แดง"มาถึงจนได้เมื่อนูริ ซาฮินได้บอลตรงกลางสนามด้านซ้ายก่อนสับไกยิงระยะกว่า 30 หลาบอลผ่านรามิเรสไปแล้วแต่ก็หลุดเสาไกลออกไปไม่ถึง 2 หลา

จอห์น เทอร์รี่ถึงกับล้มลงไปนอนร้องโอดโอยกลางสนามทีเดียวในจังหวะที่หลุยส์ ซัวเรซครองบอลพยายามจะเลี้ยงเข้าใส่แต่โดนรามิเรสเข้ามาผลักด้านหลังทำให้ตัวของดาวยิงอุรุกวัยไปชนกับเทอร์รี่อย่างแรงแบบไม่ได้ตั้งใจทำให้กัปตัน"สิงห์บลูส์"มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าขวาต้องโดนหามออกนอกสนามและเป็นแกรี่ เคฮิลล์ที่ได้ลงมาแทน

ก่อนจบครึ่งแรก"หงส์แดง"พยายามทำชิ่งสั้นๆในแดนของเชลซีก่อนที่บอลมาถึงสตีเว่น เจอร์ราร์ดตรงนอกกรอบเขตโทษด้านขวาซึ่งกัปตันหัวขิงก็ไม่รู้จะส่งให้ใครได้แต่ยิงยัดเข้าไปให้ปีเตอร์ เช็คได้ล้มตัวเซฟบ้าง

ในจังหวะสวนกลับบอลดูเหมือนไม่มีอะไรแต่วิสดอมไม่นิ่งโหม่งบอลกลับหลังให้โจนส์ไม่โดนโดยมีอาซาร์พยายามปรี่เข้ามาหวังจิ้มบอลตุงตาข่ายแต่นายด่านออสซี่ยังออกมาไวล้มตัวคว้าบอลเอาไว้ได้

เชลซีได้ลูกทุ่มริมเส้นด้านขวามาให้มาต้าพลิกบอลเลี้ยงแหวกกองหลัง"หงส์แดง"ที่ทะเล่อทะล่าเข้าบอลทำให้ดาวเตะสเปนได้หลุดไปดวลเดี่ยวกับโจนส์แต่เขากลับยิงไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวังจริงๆ

                ออกสตาร์ทเกมแรกมาไม่ทันไร "ราฮีม สเตอร์ลิ่ง" โชว์สเต็ปเลี้ยงเอาตัวรอดในแดนของตัวเองผ่านออสก้าร์กำลังจะหลุดเข้าไปในแดนของเชลซีก่อนที่จะโดนมิเคลพุ่งเข้ามาเสียบตัดเกมอย่างแรงแต่ดาวเตะไนจีเรียยังรอดตัวไม่โดนเว็บบ์แจกใบเหลือง

ใบเหลืองแรกของเกมมาจนได้ในจังหวะที่โจ อัลเลนที่วันนี้ดูจะผิดพลาดมากเป็นพิเศษเสียบอลให้ตอร์เรสเข้ามาฉกไปได้ทำให้กองกลางร่างเล็กต้องวิ่งตามไปรวบ"เอล นินโญ่"จนล้มลงก่อนโดนจดชื่อไปตามระเบียบในนาทีที่ 50

นาทีที่ 53 เชลซีขึ้นเกมมาบริเวณริมเส้นด้านซ้ายโดยอัซปิลิกวยต้าผ่านบอลไปให้มาต้าเลี้ยงบอลตัดเข้ามากลางสนามก่อนตัดสินใจยิงด้วยซ้ายทันทีแต่บอลไม่โค้งเหมือนที่ต้องการหลุดออกเสาสองไป

เกล็น จอห์นสันมาโดนใบเหลืองไปอีกคนเมื่อออสก้าร์จิ้มบอลหลุดไปริมเส้นด้านซ้ายทำให้เขาต้องตัดสินใจบังก่อนที่ศอกจะไปกระแทกหน้าของดาวเตะบราซิลเข้าอย่างจัง

จากลูกฟรีคิกเชลซีได้เปิดเข้ามาตรงกลางปากประตูและเป็นเฟร์นานโด ตอร์เรสกระโดดขึ้นเช็ดบอลตรงเสาแรกแต่โจนส์ยังมาปัดป้องกันเอาไว้ได้ก่อนที่บอลจะชุลมุนอยู่หน้าประตูแต่เว็บบ์ได้เป่าหยุดเกมเพราะเจอร์ราร์ดนอนเดี้ยงเอามือกุมหัวเช่าซ้ายของตัวเองอยู่

จากจังหวะเตะมุมในนาทีที่ 61 แอ็กเกอร์ได้โขกแต่เช็คยังปัดออกมาได้บอลเลยมาถึงจอห์นสันที่เก็บตกหน้ากรอบเขตโทษก่อนเลี้ยงบอลลุยเดี่ยวจนสุดเส้นด้านซ้ายพร้อมตวัดเข้ามาตรงกลางแต่อิวาโนวิชยังเคลียร์ออกไปได้

นาทีที่ 64 เกมเปิดแลกกันอย่างสนุกมาคราวนี้เบอร์ทรานด์ได้บอลหลุดมาตรงริมเส้นด้านซ้ายก่อนตวัดเข้ากลางทันทีและมีตอร์เรสพุ่งเข้ามาชาร์จระยะไม่กี่หลาแต่โดนไม่ดีบอลกลิ้งออกข้างไป

เกมมาถึงนาทีที่ 67 เชลซีได้ลูกฟรีคิกตรงริมเส้นด้ายขวามาต้าเปิดบอลได้เสียมาตรงเสาสองตอร์เรสขึ้นไม่ถึงและก็โจนส์ออกมาคว้าวืดแล้วทว่าบอลก็ออกหลังไปทั้งที่โดนมิเคลในจังหวะสุดท้าย

ในที่สุดสาวก"เดอะ ค็อป"ก็ได้เฮกันสนั่นในนาทีที่ 72 เมื่อซูโซ่เปิดลูกเตะมุมจากริมเส้นด้านขวาเข้ามาให้คาร์ราเกอร์โขกตั้งทางเสาแรกไปให้ซัวเรซที่ผลักรามิเรสกระเด็นก่อนได้โขกจมตาข่ายเป็นประตูตีเสมอของ"หงส์แดง"ชนิดที่เช็คได้แต่ยืนมองและนับเป็นประตูที่ 8 ของ"หม่อมเหยิน"ส่งให้ขึ้นไปรั้งดาวซัลโวร่วมกับโรบิน ฟาน เพอร์ซี่หัวหอกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีกด้วย

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายกลับเป็นเชลซีที่พยายามเปิดเกมบุกหวังยิงประตูขึ้นนำให้ได้อีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีจังหวะจบถนัดถนี่มากเท่าไหร่แถมยังโด้ลูกโต้กลับอันตรายอีกเมื่อเจอร์ราร์ดแทงบอลทะลุช่องไปให้สเตอร์ลิ่งหลุดไปตรงริมเส้นขวาก่อนปาดมาให้ซูโซ่ได้ยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัดตรงกรอบเขตโทษแต่บอลก็โด่งออกหลังไป

นาทีที่ 87 เชลซีได้ลุ้นจากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายและเป็นบรานิสลาฟ อิวาโนวิชโถมตัวขึ้นโขกบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

หลังจากนั้น"หงส์แดง"มีโอกาสขึ้นนำบ้างเมื่อเอ็นริเก้แทงบอลให้ซัวเรซหลุดเดี่ยวไปแล้วแต่ปีเตอร์ เช็คยังอ่านเกมดีออกมาเตะบอลไปชนกองหน้าอุรุกวัยบอลปลิ้นออกหลังไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลได้สวนกลับมาซัวเรซจ่ายไปให้เอ็นริเก้ที่เติมขึ้นมาได้ยิงเต็มข้อยัดไปทางเสาแรกแต่เช็คยังเซฟเอาไว้ได้

จบเกมเชลซีทำได้แค่เสมอทำให้ไม่ชนะใครมา 3 นัดร่วงมาอยู่ที่ 3 ส่วนลูกทีมเบรนแดน ร็อดเจอร์สแม้รั้งอันดับ 13 แต่ก็ทำสถิติไม่แพ้ใครมา 6 นัดติดต่อกันแล้ว
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา