สุดยอดดาร์บี้ แมตช์ของกรุงลอนดอน "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล นึกว่าจะได้ประตูชัยหลังจากนำ 2-0 แล้วพลิกกันไปกันมาต้องตามตีเสมอเป็น 3-3 จากจุดโทษของ "อาร์เตต้า" ในทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย แต่ "ชวาร์เซอร์" โชว์ซูเปอร์เซฟทำให้จบเกมเจ๊ากันไป
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2555
อาร์เซนอล 3 - 3 ฟูแล่ม
สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี๊ยม
"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล คงทนกระแสข่าวไม่ไหว เลยจัดการวางปีกจรวดทางเรียบอย่าง "วัลคอตต์" ลงเล่นเป็นตัวจริงเลยในเกมนี้ เพราะต้องยอมรับว่าถึงมีปัญหาเรื่องสัญญา แต่ฟอร์มของแข้งความเร็วแสงรายนี้มันแจ่มเกินห้ามใจ
เปิดฉากเริ่มเกมมาในนาทีที่ 11 ที่สุดแล้วประตูแรกของชิรูด์ในถิ่นเอมิเรตส์ก็บังเกิดขึ้นจนได้ เมื่ออาร์เซนอลได้เตะมุม ก่อนจะโยนเข้าไปลุ้นตรงกลาง ชิรูด์เบียดชิงโหม่งบอลได้ก่อนกองหลัง ก่อนที่จะส่งบอลเบียดเสาเข้าประตูไป อาร์เซนอลแม้จะโดนบุกใส่ตอนแรก แต่ก็นำไปแล้ว 1-0
พอเสียประตูไปฟูแล่มจากที่เหมือนจะพยายามคึกใส่ในฐานะทีมเยือนก็ช็อตไปเลย แม้ว่าจะเซ็ตเกมกัแบบเดิม แต่ไปได้ไม่ถึงไหน ต้องวนกลับไปตั้งหลักกันใหม่ตลอด
นาทีที่ 23 ดูแล้วเจ้าตัวก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าจะได้สอดไปยิงง่ายขนาดนั้นสำหรับโพโดลสกี้ ในจังหวะที่อาร์เตต้าพาบอลเข้าในเขตโทษ ยึกหลอกจะเปิดหนึงจังหวะก่อนครอสเลียดเข้ากลาง เซ็นเตอร์ทีมเยือนมีอยูถึง 2 คน แต่กลับยืนมองบอลขาตาย เลยเจอโพโดลสกี้วิ่งเข้าไปจิ้มชาร์จสบายๆ เกมห่าง 2-0 เข้าให้แล้ว
นาทีที่ 29 บอกแล้วไงว่าตัวนี้หวังได้สำหรับฟูแล่ม เมื่อพวกเขามาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะเตะมุมเช่นเดียวกัน บอลโยนโค้งเข้ามาเอาเรื่องน่าดู ก่อนที่เบอร์บาตอฟจะชิงจังหวะจากการที่กองหลังประกบกันพลาด สะบัดหัวส่งบอลเข้าประตูไป เกมมาเป็น 2-1 ไม่แน่ไม่นอนแล้ว
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ตอนนี้อาร์เซนอลจะเล่นนิ่งๆแบบเดิมไม่ได้ ต้องพยายามครองเกมเพื่อตัดจังหวะบุกของฟูแล่มที่วันนี้ถือว่าเตรียมตัวกันมาได้ดี(ยกเว้นกองหลัง)ในช่วง 45 นาทีแรกนี้
นาทีที่ 40 พอดีเลยฟูแล่มก็มาได้ประตูตีเสมอจากการเข้าทำที่เยี่ยมทั้งคนยิงจ่าย ในจังหวะที่เบอร์บาตอฟควบไปเอาบอลที่เพื่อนแทงทะลุช่องมาให้จนสุดเส้น ก่อนที่จะตวัดตักบอลหักกลับเข้ากลางให้คากานิกลิชที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนริชาร์ดสันได้โหม่งเล่นทาง มันโนเน่โดนความใหญ่ของแมร์เตซัคเกอร์บังเต็มๆ กว่าจะเห็นก็สายไปปัดไม่พ้น เกมเสมอกัน 2-2 แล้ว
จบ 45 นาทีแรกพร้อมเสียงโห่ดังก้องเต็มสนามเลยสำหรับแฟนอาร์เซนอลที่เซ็งสุดๆกับฟอร์มของทีม แม้ว่าจะนำไปก่อนถึง 2-0 แต่โดนตีเจ๊า แถมยังเล่นได้แย่กว่าซะอีก การบ้านกองเต็มเลยสำหรับเวนเกอร์
ออกสตาร์ทช่วงครึ่งหลัง "ปืนใหญ่" บุกลุยใส่ฟูแล่มมันตั้งแต่นาทีแรก เพียงแต่โอกาสจบยังไม่เจอเท่านั้นเอง มีเฉียดสุดก็ลูกโหม่งของชิรูด์ที่สูงไป โขกไม่ถึง
นาทีที่ 55 อาร์เซนอลเปลี่ยนตัวอย่างเร็วเลย เมื่อส่งแรมซี่ย์ลงไปเล่นแทนโคเกอแล็งน์ ก็ต้องดูว่าการปรับหมากในครั้งนี้จะช่วยให้พวกเขาได้เปรียบมากน้อยเพียงใดในเกม
นาทีที่ 66 อาร์เตต้าเสียเหลี่ยมอย่างรุนแรง เมื่อไปฝืนเล่นดึงบอลในกอบเขตโทษของตัวเอง สุดท้ายเข้าทางหลุยซ์ที่จะฉกไป แข้งสแปนิชไม่มีทางเลือกต้องรั้งเอาไว้จนล้มลง ผู้ตัดสินเป่าทันทีให้เป็นจุดโทษ ก่อนเบอร์บาตอฟจะรับหน้าที่สังหารด้วยการย่างสามขุมเข้าไปหาบอลแล้วสบัดข้อเท้ายิงแบบเลือดเย็นส่งเบียดเสาเข้าไป มันโนเน่ได้แต่ยืนขาแข็ง ฟูแล่มพลิกนรกแตก 3-2
อีก 3 นาทีต่อมา อาร์เซนอลทำประตูตีเสมอเอาคืนอย่างทันควัน เมื่อชิรูด์หลุดกับดักล้ำหน้าไปยิงเน้นๆบอลผ่านมือชวาร์เซอร์ไปชนเสา แต่วัลค็อตต์ตามเข้าเก็บตก ก่อนจะตักเข้ากลางให้ชิรูด์ได้แก้ตัวโหม่งบอลข้ามมือชวาร์เซอร์เข้าประตูไป เกมเสมอกัน 3-3 เป็นสุดยอดเกมลอนดอนดาร์บี้กันเลย
ตอนนี้โมเมนตั้มตกไปอยู่ทางอาร์เซนอลเสียแล้ง พวกเขาเซ็ตเกมรุกบุกใส่ฟูแล่มแบบไม่ให้พักหายใจ แต่ถึงอย่างนั้นทีมเยือนก็ไว้ลายมีจังหวะสวนอยู่ตลอดเหมือนกัน
ถือว่าทำผลงานได้ดีแล้วสำหรับวัลค็อตต์ในเกมนี้ เมื่อแฟนบอลในสนามต่างก็ปรบมือให้กับเขาในจังหวะที่ถูกเปลี่ยนเอาอาร์ชาวินลงไปเล่นแทนในนาทีที่ 85
ช้วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย บังเกิดความดราม่าซ้ำซ้อนขึ้นเมื่ออาร์เซนอลมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ผู้ตัดสินมองว่ากองหลังของฟูแล่มไปทำแฮนด์บอ จนเป่าแบบไม่สนใจคำคัดค้าน ก่อนที่อาร์เตต้าจะรับอาสายิงเพื่อชดเชยที่ตัวเองทำเสียจุดโทษไป แต่แล้วก็ความดราม่าก็บังเกิดเมื่อชวาร์เซอร์พุ่งถูกทางปัดบอลเอาไว้ได้ จบ 90 นาทีฟูแล่มทำสำเร็จด้วยการบุกมาเสมอกับอาร์เซนอลไป 3-3 ทั้งสองทีมมีเพิ่มเป็น 16 คะแนนเหมือนกันเป๊ะๆ