"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องฝันร้ายในคืนฮัลโลวีนเสียแล้วเมื่อโดนทีเด็ดของทีมเก่ากุนซือตาหวานอย่าง "หงส์ขาว" บุกมายัดเยียดความอปยศให้ถึงแอนฟิลด์พร้อมถีบ "แชมป์เก่า" กระเด็นตกรอบจอดป้ายศึกแคปิตัล วัน คัพ รอบ 4 ด้วยสกอร์ 3-1
แคปิตัล วัน คัพ รอบ 4
วันพุธที่ 31 ตุลาคม 2555
ลิเวอร์พูล 1-3 สวอนซี
สนาม แอนฟิลด์ เปิดฉากครึ่งแรกเริ่มเกมมาในช่วง 15 นาทีแรกลิเวอร์พูลพยายามต่อบอลทำชิ่งบุกใส่ตามสไตล์ถนัดแต่ก็ยังไม่สามารถสร้างโอกาสจะแจ้งได้มากนักกลับเป็นทางฝั่งของสวอนซีที่ได้ลุ้นสับไกก่อนจากปาโบลที่ลากบอลเข้ามาสับไกด้วยขวานอกกรอบเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกไป
"หงส์แดง"กลับมาเปิดเกมรุกอีกครั้งและได้จบสกอร์เป็นครั้งแรกเมื่อสจ๊วร์ต ดาวนิ่งได้บอลนอกกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนตัดสินใจอัดด้วยขวาข้างไม่ถนัดเต็มที่แต่บอลก็ยังเฉี่ยวเสาออกไป
ผ่านมาครบครึ่งชั่วโมงกลับกลายเป็น"หงส์ขาว"ที่ต่อบอลทำชิ่งจนมีโอกาสจบสกอร์มากกว่าทั้งการได้ยิงจ่อๆในกรอบเขตโทษของปาโบลและเด กุซมันแต่ก็ยังไม่สามารถส่งบอลผ่านมือของโจนส์ไปได้
มือกาวออสซี่เริ่มต้องออกแรงปัดป้องประตูมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะจังหวะสังหารของซุง-เยืองที่ทำให้เขาต้องปัดบอลออกไป
และเป็นจังหวะต่อเนื่องกันที่สวอนซีได้ลูกเตะมุมเด กุซมันเปิดบอลเข้ามาหน้าปากประตูให้ชิโก้ขึ้นโขกเบียดกับโคอาเตสบริเวณกรอบ 6 หลาบอลพุ่งเข้าไปทางเสาเหลี่ยมซ้ายสุดปัญหาที่โจนส์จะตามไปคว้าทันทำให้"หงส์ขาว"ขึ้นนำแล้วในนาทีที่ 34
เกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นได้ลุ้นประตูตีเสมอบ้างจากการยิงของเยซิลตรงเส้นเขตโทษแต่บอลไปโดนกองหลังของสวอนซีที่วิ่งเข้ามาบล็อกเอาไว้ทัน
ถัดมานาทีเดียวนั้นดาวนิ่งได้ลุ้นบ้างเมื่อมีโอกาสสับไกด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบอีกเหมือนเดิมก่อนจบครึ่งแรกไปในที่สุด
ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง กุนซือตาหวาน "เบรนแดน รอดเจอร์ส" เห็นท่าไม่ดีอาจต้องเสียทีคาบ้านตัดสินใจส่งสตีเว่น เจอร์ราร์ดกับหลุยส์ ซัวเรซลงสนามมาทำเกมทันทีเมื่อเริ่มครึ่งหลังโดยเป็นโจ โคลและเยซิลที่ต้องออกไปนั่งลุ้นข้างสนาม
นาทีที่ 47 เจ้าถิ่นได้ลุ้นประตูตีเสมอทันทีเมื่อจอนโจ้ เชลวี่ย์ได้กระหน่ำด้วยขวาตรงบริเวณจุดโทษแต่กลับซัดออกนอกกรอบไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไรทั้งสิ้น
ถัดมาอีกไม่กี่นาที่"หม่อมเหยิน"ได้โอกาสโหม่งตรงกรอบ 6 หลาแต่บังคับบอลไม่อยู่ทำให้ลูกหลุดออกไปอย่างน่าเสียดายอีกครั้ง
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 57 "หงส์แดง"เป็นฝ่ายครองเกมบุกแทบจะฝั่งเดียวแต่ก็ไม่อาจเจาะกองหลังทีมเยือนเข้าไปหาโอกาสยิงประตูได้ง่ายๆโดย"หม่อมเหยิน"มีโอกาสสับไกด้วยซ้ายแต่บอลก็ข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
เกมผ่าน 1 ชั่วโมงเต็มมาแล้วกลับกลายเป็น"หงส์ขาว"ที่คืนฟอร์มดาหน้าบุกใส่เจ้าถิ่นบ้างโดยได้จังหวะยิงจากปาโบล, มิชูและแอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ติดๆกันในเวลาไม่กี่นาทีแต่โจนส์ก็ยังออกแรงปัดป้องไว้ได้ทั้งหมด
แววแห่งการตกรอบของ"หงส์แดง"เริ่มเด่นชัดขึ้นมาในนาทีที่ 72 เมื่อเปิดเกมบุกอยู่เพลินๆจนโดน"หงส์ขาว"โต้กลับเร็วและเป็นนาธาน ดายเออร์ที่สังหารจังหวะสุดท้ายบอลผ่านมือของโจนส์เข้าไปเป็นสกอร์นำ 2-0
มาถึงนาทีที่ 76 2 ตัวสำรองก็แผลงฤทธิ์จนได้เมื่อเจอร์ราร์ดได้เปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษและเป็น"หม่อมเหยิน"ที่วิ่งเข้ามาโขกบอลเข้าไปทางมุมบนด้านขวาเป็นประตูตีตื้นให้เจ้าถิ่นไล่ขึ้นมา 2-1
ลิเวอร์พูลเดินหน้าบุกแหลกหวังทวงประตูตีเสมอให้ได้แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถส่งบอลผ่านมือของเจอร์ฮาร์ด เทรมเมลนายด่านทีมเยือนไปได้แถมยังโดนทีเด็กของเด กุซมันที่ซัดบอลจากการผ่านของมิชูในช่วงต่อเวลานาทีที่ 5 เข้าไปอีกเม็ดทำให้ตกรอบไปด้วยสกอร์ 3-1