พิมพ์

[Armin]

"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ถึงกับต้องหงอยรับประทานกันเลยในเกมนี้ เมื่อเจอทีมพลังหนุ่มอย่าง "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตบหัวทิ่ม 2-1 จากประตูชัยของ "มาร์เซล ชเมลเซอร์" ส่งผลให้ "ราชันชุดขาว" เก็บชัยได้เพียงเกมเดียวจาก 24 นัดที่มาเล่นในเมืองเบียร์แถมยังถูก "เสือเหลือง" แซงยึดบัลลังค์จ่าฝูงกลุ่มดีด้วย



ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
วันพุธที่ 24 ตุลาคม 2555
 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2 - 1 เรอัล มาดริด 
สนาม ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค

"เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จัดหนักจัดเต็มโดยริมเส้นมี "มาร์โก รอยส์" กับ "มาริโอ เกิ๊ทเซ่" คอยปั้นเกมให้ "โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้" หนุ่มเนื้อหอมเข้าทำประตู ส่วนแนวรับมีภูผาหินอย่าง "มัตส์ ฮุมเมิลส์" กับ "เนเว่น ซูโบติช" ลงประจำการ

ทางฝ่ายของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ก็ไม่น้อยหน้านำทัพมาโดยแข้งพันล้านอย่าง "คริสติอาโน่ โรนัลโด้" ซึ่งกดไป 14 ตุงจาก 11 เกมหลังสุดในแชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนหน้าเป้าอย่าง "คาริม เบนเซม่า" อัดไป 15 ประตูจาก 18 เกมหลังสุด

                 เปิดฉากมาในช่วงครึ่งแรกเล่นกันมา 6 นาทีเรอัล มาดริดน่าได้ประตูขึ้นนำก่อนในจังหวะที่โรนัลโด้อินเตอร์เซ็ปต์บอลที่ได้ริมเส้นด้านซ้ายก่อนลากไปสุดเส้นหลังแล้วเปิดมาหน้าประตูให้โอซิลชาร์จโล่งๆแต่วืดซ่ะงั้น

นาที 13 ดอร์ทมุนด์เจ้าบ้านได้โอกาสจบสกอร์บ้างในจังหวะที่ชเมลเซอร์ผ่านบอลให้เคห์ลวางเท้ายิงไกลจากทางด้านซ้ายมาที่เสาแรกแต่กาซิญาสล้มตัวปัดบอลเอาไว้ได้ทัน

หลังจากนั้นเป็นทีของดิ มาเรียบ้างเมื่อปีกอาร์เจนไตน์กระชากหนีโกรสครอยซ์เข้าไปหมุนตัวหลบชเมลเซอร์ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนง้างไกยิงเต็มข้อแต่ข้ามคานไปแบบได้ลุ้น

รูปเกมยังค่อนข้างสูสีและนาที 27 "เสือเหลือง"ทำเกมขึ้นมาด้านซ้ายโดยเกิ๊ทเซ่ก่อนที่วันเดอร์คิดเมืองเบียร์ไหลบอลคืนหลังให้เคห์ลวิ่งเข้ากดจากระยะ 20 หลาโดนกาซิญาสปัดทิ้งข้ามคาน

อย่างไรก็ตามนาที 36 "เสือเหลือง"ก็พังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่เปเป้จ่ายบอลไปโดนเคห์ลตัดได้ก่อนไหลทะลุช่องให้เลวานดอฟสกี้หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้ากาซิญาสก่อนซัดตุงตาข่ายไม่ต้องสืบ

แต่ดอร์ทมุนด์ก็ดีใจได้ไม่นานเมื่อสองนาทีถัดมาโอซิลวางบอลจากครึ่งสนามไปยังที่ว่างด้านหลังพิชเช็คให้โรนัลโด้ควบตามไปกระดกบอลข้ามหัวไวเดนเฟลเลอร์เข้าประตูที่ว่างให้สกอร์กลับมา 1-1

                ลงมาเจอกันต่อใสนช่วงครึ่งหลัง "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์โหมเกมบุกเข้าใส่อาคันตุกะทันทีแล้วนาที 50 พิชเช็คลากบอลขึ้นมาทางด้านขวาก่อนหักกลับคืนหลังให้เกิ๊ทเซ่วิ่งเข้ายิงเน้นๆจากระยะ 15 หลาเจอกาซิญาสปัดทิ้งเฉย

นาทีถัดมา"เสือเหลือง"ได้ลูกฟรีคิกทางริมเส้นด้านซ้ายแล้วเป็นรอยส์ที่หลอกยิงยัดมาที่โคนเสาแรกเล่นเอากาซิญาสต้องพุ่งมาทั้งตัวเพื่อปัดทิ้งออกหลังกันเลยทีเดียว

นาที 55 เรอัล มาดริดทำเกมขึ้นมาเร็วก่อนที่เบนเซม่าจ่ายบอลทะลุช่องให้ดิ มาเรียหลุดเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายก่อนสับไกยิงหนีมือไวเดนเฟลเลอร์ถากเสาไกลออกไปนิดเดียว

แต่ดอร์ทมุนด์ยังทำเกมบุกอย่างต่อเนื่องเมื่อนาที 58 รอยส์แทงบอลทะลุช่องให้พิชเช็ควิ่งสอดเข้าไปรับบอลแล้วเปิดหักมาที่หน้าเขตโทษให้เบนเดอร์ตั้งป้อมยิงข้ามมือกาซิญาสเลยคานไปเฉียดฉิว

ดอร์ทมุนด์มาได้เฮในนาที 64 เมื่อเกิ๊ทเซ่ลากบอลมาทางขวาก่อนเปิดไปหน้าประตูโดนคาซิญาสชกทิ้งมาเข้าทางชเมลเซอร์วิ่งเข้าใส่เต็มข้อจากหัวกระโหลกเสียบโคนเสาขวาเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือเรอัล มาดริดพยายามโหมเกมบุกเพื่อทวงสกอร์คืนแต่ก็ไม่สำเร็จแถมยังหวิดเสียลูกโทษในจังหวะที่เปเป้ไปผลักเกิ๊ทเซ่จนล้มในเขตโทษซึ่งโชคดีที่กรรมการไม่เป่าให้

ครบ 90 นาทีเรอัล มาดริดบุกมาพบความปราชัยต่อโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-1 ทำให้"เสือเหลือง"ผงาดขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มดีมี 7 แต้มจาก 3 นัดส่วน"ราชันชุดขาว"หล่นไปที่สองตามอยู่ 1 คะแนน