เกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ เกมนี้สนองความกระหายความมันส์ของแฟนบอลได้อย่างสะใจเลยทีเดียวเพราะทั้งสองฝ่ายเปิดเกมใส่กันอย่างดุเดือดจนมีถึง 6 ประตู แต่สุดท้ายก็เป็นชัยชนะของ "สิงห์บลูส์" ที่พลิกกลับขึ้นมานำ 2 ครั้งจาก "มาต้า" ที่รับบทฮีโร่ซัดเบิ้ลภายใน 3 นาทีก่อนจ่ายให้ "สเตอร์ริดจ์" ยิงปิดเกมเอาชนะ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ไป 4-2 นำจ่าฝูงไปยาวๆ
พรีเมียร์ ลีก
ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส 2 - 4 เชลซี
สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน
ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส เปิดเล้าต้อนรับการมาเยือนของ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี คู่ปรับร่วมเมืองลอนดอน โดยที่พวกเขาจะไม่มี "แกเร็ธ เบล" ที่ต้องไปคอยให้กำลังใจภรรยาที่กำลังจะคลอดลูกอยู่ เปิดฉากเริ่มเกมมาผ่านไป 10 กว่านาที ถือว่าสูสีกันพอสมควรสำหรับเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ในเกมนี้ เพราะแต่ละจังหวะรู้สึกจะทันกันเหลือเกิน เชลซีค่อนข้างเด่นด้านการประสานงานของมาต้า, ตอร์เรสและออสการ์ ส่วนสเปอร์สมีลุ้นนิดหน่อยจากการประกบตัวผิดพลาดของทีมเยือนในลูกฟรีคิก แต่กัลลาสที่มีโอกาสหวดตามน้ำก็ดันยิงหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 17 ยิงขนาดนี้เป็นกองหน้ายังได้เลยสำหรับเคฮิลล์ที่เติมขึ้นไปรอจังหวะบริเวณกรอบเขตโทษจากลูกเตะมุม ซึ่งประจวบเหมาะพอดีกับที่กัลลาสโหม่งสกัดเคลียร์บอลออกมาไม่ขาด ทำให้แข้งอิงลิชได้วิ่งเข้าบวกซัดแบบไม่ต้องจับ บอลแฉลบขากองหลังนิดหนึง ก่อนที่จะพุ่งแสกหน้าฟรีเดลเข้าไปตุงตาข่าย เชลซีนำด้วยประตูสุดสวย 1-0
อีก 2 นาทีต่อมา สเปอร์สเกือบจะได้ประตูตีเสมอคืนทันควัน จากจังหวะที่เดโฟลากบอลจี้เข้ากรอบเขตโทษ ฝั่งซ้ายมีเพื่อนวิ่งป้วนเปี้ยนรอถึง 2 คน แต่เจ้าตัวเลือกที่จะฝืนยิงแบบบดๆ เช็กล้มตัวปัดออกมาได้ เด็มป์ซี่ย์พยายามจะเข้าซ้ำดาบสองก่ะเอาให้ตาย แต่โคลยังมีทีเด็ดเรื่องจังหวะสุดท้ายพุ่งเข้ามาสกัดทิ้งได้ทัน
นาทีที่ 25 เล่นผิดช่วงไปหน่อยสำหรับอีวาโนวิชที่พยายามจะพาบอลขึ้นหน้า แต่ดันแตะเกือบๆจะยาวไปแถมพื้นที่ไม่มีให้เล่นต่อ พี่แกเลยทิ้งตัวลงดื้อๆ ทั้งที่นักเตะของสเปอร์สยังไม่ได้เข้าแท็ค ผู้ตัดสินก็เลยจัดให้ แจกใบเหลืองตามระเบียบ
นาทีที่ 30 ได้ยิงถนัดกว่านี้หน่อยคงมีเฮสำหรับซิเกิร์ดสสันที่ไปยืนเก็บตกบอลที่เลนน่อนเปิดมาแล้วกองหลังเชลซีโหม่งสกัดไม่พ้น แต่จังหวะการยิงของเขามันต้องเร่ง แถมขาหลักก็ยังวางไม่ดี เลยสำหรับต้องเบี่ยงตัวยิงหลุดเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้นเองจริงๆ
แม้ว่าจะมีสกอร์กันไปแล้ว แต่ถ้าจะให้พูดกันจริงๆ เกมนี้ค่อนข้างมีปัญหากันทั้งคู่ในจังหวะการเล่นพื้นที่สุดท้ายที่เจาะแนวรับของอีกฝั่งไม่เข้าสักเท่าไหร่ ดูแล้วครึ่งหลังไม่เกี่ยว่าฝ่ายไหนตามหรือนำ แต่คงต้องปรับกันหมดแน่
นาทีที่ 39 ไม่จังหวะใดก็จังหวะหนึงที่ควรเป็นประตูสำหรับลูกนี้ของมาต้า ซึ่งเขาสอดขึ้นไปรอบอลจากเพื่อนก่อนที่จะแปจังหวะแรกก่ะให้หนีมือฟรีเดลเสียบเสา แต่นายด่านรุ่นเก๋าไม่ยอมปัดทิ้งมาได้ ถึงอย่างนั้นวิถีบอลก็ยังอยู่ในเส้นทางของมาต้าที่ตามเข้าซ้ำดาบสอง แต่คงเพราะต้องเร่งยิง เลยไปช้อนใต้บอลพุ่งข้ามคานไปไกลลิบเลย
ช่วงท้ายครึ่งแรกก็มีการสกัดตัดฟาวล์กันหูดับตับไหม้ จนแจกเหลืองไปอีก 3 ใบ จบ 45 นาทีแรก เชลซีเป็นฝ่ายนำอยู่ 1-0 ในเกมที่ขับเคี่ยวกันสุดๆ ต้องดูว่าครึ่งหลังเกมจะออกมาในรูปแบบเดิมหรือไม่
ออกสตาร์ทช่วงครึ่งหลังมาเพียงไม่นาน สเปอร์สก็มาได้ประตูตีเสมอจากลูกฟรีคิกที่กดดันเชลซีได้เยี่ยม บอลเลยไปเสาสองแฟร์ทองเก้นตวัดกลับเข้าหน้าประตู เป็นกัลลาสคู่หู่ในแดนหลังยืนรออยู่ โหม่งเช็ดบางๆส่งบอลข้ามเส้นเข้าประตูไป เกมเสมอกันแล้ว 1-1
ตอนนี้เกมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเลย เพราะเป็นสเปอร์สที่ได้ใจ เดินหน้าทำเกมรุกใส่เชลซีแบบไม่มีหยุด แถมยังมีโอกาสซัดตามมาถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ผ่านมือของเช็กที่ปัดป้องเอาไว้ได้หมด
นาทีที่ 54 เอาจนได้เลยสำหรับสเปอร์สในการพลิกกลับขึ้นมานำ จากจังหวะที่เลนน่อนใช้สเต็ปการเลี้ยงจี้เข้ากดดันกองหลังแบบเดิม แต่คราวนี้กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปในกรอบเขตโทษ ซึ่งมีเดโฟยืนอยู่หน้ากองหลัง ก่อนจะตวัดยิงตามน้ำ ส่งบอลผ่านมือเช็กที่ยังไงก็ปัดไม่ไหวแล้วเข้าไป เจ้าบ้านพลิกนำ 2-1
นาทีที่ 66 แม้ว่าจะทำประตูได้ แต่มีส่วนกับสองประตูที่ทีมเสียเลยสำหรับกัลลาส เพราะนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาสกัดบอลที่เชลซีเปิดจากด้านข้างมาไม่ดี เลยเข้าทางของมาต้าที่สอดเข้ามายิงสวนโป้งเดียวพุ่งเข้าเสียบเสา ชนิดที่ฟรีเดลได้แต่ยืนมองตาปริบๆ เกมเสมอกันอีกครั้งเป็น 2-2
อีก 3 นาทีต่อมา เป็นการประสานงานที่สุดยอดจริงๆของเชลซี เริ่มตั้งแต่มาต้าจ่ายบอลให้กับมิเกล แล้ววิ่งควบทำทาง ก่อนที่บอลจะไปถึงอาซาร์แล้วแทงต่อให้กับแข้งสแปนิชหลุดเข้ากรอบเขตโทษไปยิงสวนฟรีเดลทันที เชลซีกลับขึ้นมานำอีกครั้งเป็น 3-2
นาทีที่ 74 สเปอร์สต้องเปลี่ยนเอาอเดบายอร์ลงไปเล่นแทนเด็มป์ซ๊่ย์ที่วันนี้เล่นไม่ค่อยจะออกสักเท่าไหร่ ดูแล้วน่าจะเพิ่มทางเลือกในเกมรุกได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นลูกโด่งที่มีเพิ่มเข้ามา
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ทางเลือกไม่มีแล้วสำหรับสเปอร์ส เพราะตอนนี้พวกเขาต้องใส่เกียร์เดินหน้าลุยอย่างเดียว แต่มันก็ยากอยู่หน่อย เพราะเชลซีลงไปขึงเกมเพิ่มความชัวร์กันหน้าประตู ซ้ำยังมีเกมสวนกลับให้ได้เสียวอีกด้วย
นาทีที่ 85 เฉียดฉิวกับการที่จะมีชื่อทำประตูสุดๆเลยสำหรับตอร์เรส ในจังหวะที่เขาได้รับบอลมาจากเพื่อนตรงบริเวณมุมกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะล็อคเป้าแล้วเล็งปั่นด้วยเท้าขวาส่งบอลหมุนข้ามมือฟรีเดลไปแล้ว แต่มันโค้งไม่พอที่จะเมุมเสียบเสาไกล เลยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลามาต้าไปฉกบอลจากวอล์คเกอร์ที่พยายามจะบังบอลแต่พลาด ก่อนจ่ายให้สเตอร์ริดจ์ตัวสำรองยิงง่ายๆ สรุป 90 นาทีเชลซีบุกมาเอาชนะสเปอร์สไป 4-2 คว้า 3 คะแนนได้เรื่อยๆ แกร่งจริงอะไรจริง
ผู้เขียน
หัวข้อ: "มาต้า" ซัดเบิ้ล~!! ทั้งยิงทั้งจ่ายพา "สิงห์ไฮโซ" เชือดคอ "ไก่" มันส์หยด 4-2 (อ่าน 1146 ครั้ง)
