ในเกมนี้ทีมรองแชมป์ยุโรปอย่าง "อิตาลี" ต้องเหนื่อยกันไม่ใช่น้อยเมื่อออกแรงไปเยอะก่อนที่จะบุกสยบเจ้าถิ่น "อาร์เมเนีย" กว่าจะสบายใจได้ก็ต้องรอกันจนถึงช่วงท้ายเกม 3-1 พร้อมนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม บี
ผลฟุตบอลเวิลด์ คัพ 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มบี
วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2555
อาร์เมเนีย 1-3 อิตาลี ลงสนามมาเจอกันในครึ่งแรก "อัซซูรี่" อิตาลี โหมบุกเข้าใส่ทันทีแค่ 5 นาทีเกือบได้ประตูจากจังหวะฟรีคิกระยะ 25 หลากลางประตู ปิร์โล่ ปั่นไซด์โค้งบอลกำลังจะเสียบใต้คาน เบเรซอฟสกี้ นายทวารเหินปัดออกไปอย่างเฉียดฉิว
อีก 2 นาทีถัดมา อิตาลี ปล่อยโอกาสทองหลุดลอง ปิร์โล่ วางบอลยาวทะลุแนวรับทั้งแผงให้ มอนเตลิโว่ สอดทะลุหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวาดวลเดี่ยวๆกับผู้รักษาประตูกลับยิงหลุดเสาสองออกไปเอง
เกมรุกของรองแชมป์ยูโรปั่นป่วนกองหลังเจ้าถิ่นหัวหมุนจนนาที 10 ได้ลูกโทษที่จุดโทษ ออสวัลโด้ ตอกส้นไปถูกมือ เอ็มโคยาน ผู้ตัดสินเห็นพอดีเป่านกหวีดชี้เป็นจุดโทษ ปิร์โล่ รับหน้าที่เพชฌฆาตสังหารไม่เหลือ อิตาลี นำ 1-0
โดนเร็วแบบนี้ทำให้ อาร์เมเนีย ในฐานะเจ้าถิ่นต้องเอาคืนอีก 5 นาทีถัดมาได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะ 25 หลาเยื้องทางขวา ออซบิลิซ ปั่นแฉลบกำแพงเหินข้ามคานสร้างความหวาดเสียวได้เหมือนกัน
จากนั้นเกมตกเป็นของ อาร์เมเนีย ได้บุกกดดัน อิตาลี ที่เริ่มถอยมาตั้งรับรอสนกลับจนกระทั่งนาที 27 กองเชียร์เจ้าถิ่นเฮลั่นสนามตามตีเสมอสำเร็จ 1-1 จากความสามารถเฉพาะตัวของ คิตาร์ยาน ลากโซโล่เกือบครึ่งสนามกระชากหลบ บาร์ซายี่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนกดเรียดผ่านมือ บุฟฟ่อน เสียบเสาสอง
หลังถูกตีเสมอ "อัซซูรี่" ต้องหันมาเปิดเกมบุกอีกครั้งผ่านครึ่งชั่วโมงไปแล้วได้ฟรีคิกระยะหวังผล 20 หลา ปิร์โล่ ไม่ยิงเหลือทางให้ โจวินโก้ ปั่นหนีกำแพงเข้าซองผู้รักษาประตู
เวลาที่เหลือ อิตาลี ครองเกมได้หมดเป็นฝ่ายพาบอลป้วนเปี้ยนหน้าปากประตู ขณะที่ อาร์เมเนีย ตั้งรับสวนกลับได้ลุ้นเหมือนกัน ออซบิลิซ กระชากมาทางขวาก่อนสับไกระยะ 20 หลาเดือดร้อน บุฟฟ่อน นายทวารต้องพุ่งเซฟจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มจบครึ่งแรกแบ่งกันไปฝั่งละประตู
ออกสตาร์ทกันมาในช่วงเกมหลังผ่านไปไม่ถึง 5 นาที อิตาลี พยายามฉวยโอกาสโจมตีแบบไม่ทันให้ตั้งตัว โจวินโก้ ลากเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนอัดเต็มหลังเท้าบอลเหินข้ามคานแบบมีเสียว
นาที 56 อาร์เมเนีย น่าจะได้ประตูพลิกแซงนำสุดๆ ออซบิลิซ กระชากลากเลื้อยมาทางขวาก่อนเปิดไปยังเสาสอง มาโนยาน ล้มตัววอลเลย์บอลกำลังจะตุงตาข่ายอยู่แล้วแต่ บุฟฟ่อน ซูเปอร์เซฟปัดจากเส้นประตู อิตาลี รอดไป
นัดนี้เจ้าถิ่นแม้ชื่อชั้นเป็นรองแต่สามารถสู้กับยอดทีมอิตาลีได้อย่างคู่คี่สูสีกระทั่งนาที 64 อิตาลี กลับมาได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 2-1 มัจโจ้ เติมเกมบุกกระชากมาทางขวาก่อนจ่ายย้อนคืนหลังให้ ปิร์โล่ บรรจงโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษมาถึง เด รอสซี่ สอดขึ้นมาโขกเช็ดคานตุงตาข่าย
หลังปลดล็อคกลับขึ้นมานำอีกครั้ง "อัซซูรี่" เริ่มคุมสถานการณ์ได้บ้างขณะที่เจ้าถิ่นไม่มีอะไรจะเสียต้องลุยเพื่อเอาคืนจนกระทั่งนาที 74 เกือบตามตีเสมอจากความผิดพลาดของ โบนุชชี่ ปล่อยให้ คิตาร์ยาน ฉกบอลจากเท้ากระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวาก่อนผ่านเข้ากลาง มอฟซิสยาน ล้มตัวชาร์จจ่อๆไม่ถึงสิบหลาต้องชม มัจโจ้ พุ่งสไลด์ช่วยบล็อคเพียงเสี้ยววินาที
ยิ่งเวลาผ่านไป อิตาลี คุมสถานการณ์ไว้ได้หมดกระทั่งเหลือสิบนาทีจะหมดเวลาเกือบพังประตูที่สาม มัจโจ้ กระชากลากเลื้อยหลบแนวรับหลุดเข้าไปถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนผ่านเข้ากลาง เอล ชาราวี ยิงจ่อๆไม่กี่หลาบอลโดนกองหลังเจ้าถิ่นสกัดออกมาจากหน้าปากประตู
แต่แล้วนาที 81 "อัซซูรี่" พังประตูตอกย้ำชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเมื่อได้ฟรีคิกใกล้เส้นเขตโทษทางซ้าย เด รอสซี่ เงยหน้ามองก่อนบรรจงโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษถึง ออสวัลโด้ โหม่งเสยเสียบตาข่ายเสาไกล อิตาลี นำ 2-1 ก่อนรักษาสกอร์จนจบเกมการแข่งขัน