กลับมาแล้วสำหรับดาวเตะสุดหล่อ "กาก้า" ที่คัมแบ็กทีมชาติ "บราซิล" อย่างสวยหรูทั้งยิงทั้งจ่ายนำทัพ "แซมบ้า" กระหน่ำยิง "อิรัก" อย่างไม่ไว้หน้า 6-0 โดย "ออสการ์" รับหน้าที่ซัดเบิ้ลคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ด้วย
กระชับมิตร
วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555
บราซิล 6-0 อิรัก
สนาม สเวดแบ็งค์ สตาดิออน, มัลโม่, สวีเดน
"มาโน่ เมเนเซส" ตัดสินใจส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามลองทีมแม้ต้องเจอกับ "อิรัก" ที่ดูจะเป็นรองอยู่เยอะโดยในเกมนี้มีดาวเตะสุดหล่ออย่าง "กาก้า" ที่กลับมาอยู่ในทีมอีกครั้ง ลงผสานงานเล่นเกมรุกกับสามแข้งสุดฮ็อท "ออสการ์,เนย์มาร์และฮัลค์" ในแดนหน้า เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงครึ่งแรกผ่านมา 10 นาทีแรกเป็นฝ่ายบราซิลที่ได้รองบอลบุกเป็นส่วนใหญ่ตามความคาดหมายโดยมีกาก้าที่กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งเป็นหัวใจในเกมรุกซึ่งพวกเขามีจังหวะได้จบอยู่หลายครั้งทั้งลูกโขกของออสการ์และลูกปั่นไกลจากอาเดรียโน่แต่บอลยังไม่ผ่านมือของนอร์ ซาบรี้
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 22 บราซิลก็ออกนำจนได้จากจังหวะโต้กลับที่เนย์มาร์ได้บอลกลางสนามบริเวณริมเส้นฝั่งขวาก่อนลากบอลตัดมากลางสนามแล้วจ่ายทะลุช่องสุดสวยให้ออสการ์หลุดเข้าไปดวลเดียวกับซาบรี้ก่อนแปบอลง่ายๆผ่านเข้าไปกองในก้นตาข่าย
ถัดมานาทีเดียว"แซมบ้า"เกือบได้ขึ้นนำเป็น 2-0 จากจังหวะที่กองหลังอิรักสกัดลูกโยนยาวไม่ขาดบอลมาตกเข้าเท้าเปาลินโญ่ที่เติมขึ้นมาเล่นเกมบุกกระชากเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาก่อนปาดบอลหลุดเสาสองออกไปเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
บราซิลได้ลูกที่ 2 จนได้เมื่อเนย์มาร์ได้บอลกลางสนามก่อนจ่ายบอลไปให้กาก้าที่วิ่งตัดหลังเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งดาวเตะจากเรอัล มาดริดลากบอลไปจนสุดเส้นหลังก่อนบรรจงปาดเข้ามากลางประตูให้ออสการ์วิ่งเข้ามาแปเข้าประตูโล่งๆเป็นสกอร์ที่ 2 ของเจ้าตัวในนาทีที่ 27
เกมมาถึงช่วง 5นาทีสุดท้ายบราซิลได้เปิดฟรีคิกริมเส้นด้านขวาเข้าไปหน้าปากประตูและเป็นดาวิด ลูอิซทะยานขึ้นโหม่งเต็มแรงแต่ซาบรี้ยังพุ่งสุดตัวไปปัดบอลพ้นอันตรายได้หวุดหวิดถัดมาอีกอึดใจเดียวกาก้าใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงหลบกองหลังอิรักไปดวลเดี่ยวกับซาบรี้แต่ก็ยังยิงไปติดเซฟอีกครั้ง
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบราซิลน่าจะได้ประตูออกนำห่างเป็น 3 ลูกจริงๆในจังหวะที่เปาลินโญ่ได้สับไกบอลไปชนคานกระเด้งลงมาแต่ยังไม่ข้ามเส้นประตูก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ต่อมาลงสนามมาเจอกันในครึ่งหลังได้ไม่ทันไรอาเดรียโน่ได้หลุดขึ้นมานอกเขตโทษด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ออสการ์โถมขึ้นโขกเต็มหัวแต่ซาบรี้ยังทุบทิ้งไปได้อีกครั้ง
ถัดมาอีกเพียงนาทีเดียวเท่านั้น"เซเลเซา"ก็ได้ประตูที่ 3 จนได้จากจังหวะที่กาก้าโชว์เดี่ยวได้บอลลากเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายจากกลางสนามก่อนสับขาหลอกกองหลังของอิรัก 1 จังหวะแล้วหวดด้วยซ้ายบอลพุ่งแสกหน้าซาบรี้เข้าประตูไป
กลายเป็นฮัลค์ที่ได้มีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดก่อนเนย์มาร์เมื่อเขาเก็บตกบอลจากนอกเขตโทษก่อนเลี้ยงดุ่ยๆเข้ามาในกรอบด้านขวาแล้วจัดการล็อกบอลกลับหลังสลัดตัวประกบทิ้งไปได้แล้วซัดด้ายซ้ายบอลไปแฉลบกองหลังลอยผ่านมือของซาบรี้เข้าไปเป็นประตู 4-0 ในนาทีที่ 55
เกมยังคงเป็นของบราซิลอย่างต่อเนื่องและเนย์มาร์ก็มาซัดประตูของตัวเองจนได้ เมื่อได้บอลยาวจากกลางสนามหลุดมาริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนเจ้าตัวจะล็อคเข้าขวาข้างถนัดพร้อมอัดบอลผ่านมือของซาบรี้ไปทางเสาไกลเป็นประตูที่ 5 ของ"แซมบ้า" ในนาทีที่ 75
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายบราซิลยิงครบครึ่งโหลจนได้ในจังหวะที่ลูคัส มูร่าเลี้ยงบอลอยู่บริเวณริมเส้นด้านซ้ายก่อนฝากบอลมาให้เนย์มาร์ที่ยืนทำชิ่งอยู่หน้ากรอบเขตโทษก่อนเบิ้ลบอลกลับมาให้ลูคัสที่วิ่งเข้ามาอัดด้วยขวาบอลพุ่งเลียดเข้าไปกองก้นตาข่าย
ช่วงท้ายเมเนเซสพยายามเปลี่ยนนักเตะหน้าใหม่ลงมาสัมผัสเกมบ้างแต่ก็ไม่สามารถยิงประตูได้เพิ่มก่อนจบเกมด้วยการชนะขาดลอย 6-0