ผู้เขียน หัวข้อ: อย่าดึงหนวดสิงห์~!! "เชลซี" หงุดหงิดซัด "นอริช" พังยับ 4-1 นำฝูง~!!  (อ่าน 874 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคิ้วชินจัง "โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ" ที่ฟอร์มยังร้อนแรงหลังถูก "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช กระตุกหนวดสิงห์แต่ก็ไล่เอาคืนแบบไม่ปราณี 4-1 นำโดย "เฟร์นานโด ตอร์เรส,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,เอด็อง อาซาร์และวลานิสลาฟ อิวาโนวิช" คว้าชัย 6 จาก 7 นัดนำจ่าฝูงทิ้ง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 แต้มตามเดิม



พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2555
เชลซี 4-1 นอริช
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์

"สิงห์ไฮโซ" ส่งแข้งชุดใหญ่ลงสนามเต็มที่โดยมี "จอห์น เทอร์รี่" ที่เพิ่งโดนตัดสินลงโทษแบน 4 เกมลงสนามขณะที่แดนกลาง "แฟร๊งค์ แลมพาร์ด" ได้โอกาสกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งส่วนแนวรุกเป็นหน้าที่ของ "เอด็อง อาซาร์, ออสก้าร์ และฆวน มาต้า" ที่คอยสนับสนุน "เฟอร์นานโด ตอร์เรส" ที่คอยล่าตาข่าย

            เปิดฉากลงสนามมาในเกมแรก "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี เป็นฝ่ายตั้งเกมบุกใส่ก่อนแต่แฟนเจ้าถิ่นกลับต้องช็อกตาตั้งเมื่อนอริชฉวยโอกาสโต้กลับทำประตูออกนำจากจังหวะที่ฮูลาแฮนกระชากบอลขึ้นมาริมเส้นฝั่งขวามาถึงหน้าเขตโทษก่อนเปิดไปให้ลีออน เบอร์เน็ตต์โหม่งย้อนกลับมาหน้าปากประตูให้แกรนท์ โฮลท์เอี้ยวตัววอลเล่ย์ด้วยขวาบอลพุ่งลอดตัวปีเตอร์ เช็คเสียบเสาแรกเข้าไปแบบหมดจดในนาทีที่ 11

ถัดมาไม่กี่นาทีเชลซรทวงประตูคืนได้อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่บรานิสลาฟ อิวาโนวิชเติมขึ้นมาด้านฝั่งขวาก่อนบรรจงเปิดบอลเข้ามาหน้าปากประตูและเป็นเฟอร์นานโด ตอร์เรสพุ่งเข้ามาโขกจมตาข่าย

เข้าสู่นาทีที่ 22 "สิงห์บลูส์"ได้ประตูขึ้นนำจนได้ในจังหวะที่เฟอร์นานโด ตอร์เรสตีลังกายิงไปติดบล็อกกองหลังทีมเยือนบอลปลิ้นมาหน้ากรอบเขตโทษและป็นแฟร๊งค์ แลมพาร์ดวิ่งเข้สมาสับ้วยขาต็มข้อบอลพุ่งเข้าเสาแรกอย่างสวยงามเป็นสกอร์ 2-1 ทันที

เป็นจังหวะเตะมุมและฆวน มาต้าแย่งบอลจากฮูลาแฮนได้ก่อนเลี้ยงจากแดนตัวเองขึ้นาถึงหน้าปากประตูทีมเยือนพร้อมมองหาเพื่อนก่อนไหลไปให้เอแด็น อาซาร์ที่รออยู่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งดาวเตะเบลเยี่ยมบรรจงแปเน้นๆด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือรัดดี้เสียบโคนเสาไกลอย่างสวยงามในนาทีที่ 31

หลังจากขึ้นนำห่างเชลซีก็ครองบอลบุกได้ส่วนใหญ่และเป็นจังหวะที่ออสก้าร์โชว์ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงบอลหลบกองหลังนอริช2-3คนหน้ากรอบเขตโทษก่อนหาจังหวะยิงทันทีแต่บอลไปเข้ามือของรัดดี้ทีล้มตัวเซฟได้สบาย

ก่อนหมดครึ่งแรก2 นาทีนอริชได้โต้ขึ้นมาบ้างเมื่อฮูลาแฮนได้เปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายมาให้แกรนท์ โฮลท์ที่รออยู่เสาสองโหม่งบอลย้อนกลับไปเสาแรกแต่บอลโด่งข้ามคานออกไป

            กลับมาในช่วงครึ่งหลังมาได้เพียง 2 นาทีฮูลสแฮนได้จังหวะตวัดเปิดจากริมเส้นซ้ายอีกแล้วบอลไปถึงหัวของแกรนท์ โฮลท์ที่เบียดจอห์น เทอร์รี่ขึ้นโขกแต่บอลหลุดเสาสองไปนิดเดียว

เข้าสู่นาทีที่ 53 นอริชเกือบเสียจุดโทษในจังหวะที่ลีออน บาร์เน็ตต์บังอาซาร์ในกรอบเขตโทษแบบไม่ยอมเล่นบอลก่อนที่ฝ่ายหลังจะล้มลงไปแต่กรรมการไม่เป่าให้เป็นลูกฟาวล์

หลังจากนั้น 2 นาทีออสก้าร์ฉวยจังหวะยิงไกลหน้าปากเขตโทษแต่รัดดี้ยังล้มตัวรับเอาไว้ได้

เชลซีเริ่มบุกเป็นชุดและเป็นจังหวะที่อาซาร์แทงบอลเข้าไปให้มาต้าในรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งดาวเตะสเปนจิ้มบอลเร็วทันทีแต่ยังไม่ผ่านมือของรัดดี้ที่พุ่งออกมาได้เร็ว หลังจากนั้นไม่นานอาซาร์โดนเบีบดล้มลงในกรอบเขตโทษอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ได้ลูกโทษอยู่ดี

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 74 ออสก้าร์ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนแทงทะลุช่องไปให้ตอร์เรสได้หลุดเข้าไปส่องประตูที่ 2 ของตัวเองแต่รัดดี้ยังเซฟได้อีกครั้ง ถัดจากนั้นนาทีเดียวออสก้าร์เปิดบอลจากริมเส้นซ้ายเลยมาถึงมาต้าที่บรรจงผ่านไปให้อิวาโนวิชซัดเต็มข้อด้วยขวาบอลพุ่งตุงตาข่ายอย่างสวยงามเป็นปนะตูขึ้นนำ 4-1

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายจอห์น เทอร์รี่ขึ้นมาเล่นจังหวะเตะมุมลุ้นทำประตูบ้างและเขาก็ได้โถมโหม่งบริวณเสาสองระยะเผาขนแต่บังคับทิศทางไม่ดีบอลพุ่งไม่กรองกรอบ

เชลซียังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่องหวังเอาประตูที่ 5 ให้ได้แต่ก็ยังไม่สามารถยิงเพิ่มได้ก่อนจบเกมไปด้วยสกอร์นี้ทำให้พวกเขายังรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา