พิมพ์

[Armin]

อยู่ๆก็โผล่มาขโมยซีนกันเฉยเลยสำหรับ "แรมซี่ย์" ที่ลงเป็นตัวสำรอง แต่ก็ไม่วายจะยิงประตูสุดสวยในช่วงทดเวลาช่วยให้ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล นั้นเอาชนะ "โอลิมเปียกอส" ไป 3-1 ลง 2 นัดจัด 6 แต้มเต็ม



แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี
อาร์เซนอล 3 - 1 โอลิมเปียกอส

"แก๊งค์ปืนโต" ลงเล่นเกมนัดที่สองในกลุ่มบีด้วยการมี 3 แต้ม ตุนเอาไว้ตั้งแต่นัดแรกแล้ว ส่วนทีมเยือนอย่าง "โอลิมเปียกอส" นัดแรกพ่ายมายังไงเกมนี้ก็หวังที่จะมีคะแนนกับเค้าบ้างเช่นกัน

                เปิดฉากมาในเกมแรกผ่านช่วง 15 นาทีแรกไป เป็นทางโอลิมเปียกอสทีมเยือนที่ไม่รู้คึกมาจากไหน แต่ก็เดินหน้าบุกใส่อาร์เซนอลเจ้าบ้านแบบไม่มีเกร็ง มีโอกาสยิงลุ้นประตูไปถึง 3 ครั้ง แม้ว่าจะไม่เข้ากรอบ แต่ก็ใช่ว่าจะนิ่งได้สำหรับ "ปืนใหญ่"

นาทีที่ 24 ถือว่าเป็นการโชว์ความขยันที่ทำให้ทีมได้เปรียบไม่น้อยเลยสำหรับกิ๊บส์ ในจังหวะที่แม้เพื่อจะวางบอลเผื่อไปลึกจนเกือบจะออกหลัง แต่เขาก็วิ่งคงบเข้าไปเปิดตัดกลับเข้ากลางได้ จนกองหลังของโอลิมเปียกอสต้องพยายามสกัดออกไป

นาทีที่ 30 โดนจดชื่อไปเลยสำหรับกอสเซียลนี่ ในจังหวะที่เขาพยายามพุ่งเข้าเสียบสกัดบอลจากเท้าของนักเตะโอลิมเปียกอส แต่เข้าแบบทั้งตัวแถมยังแอบเปิดหน้าเท้านิดๆ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์และแจกใบเหลืองให้

อีก 5 นาทีต่อมา นึกว่าจะต้องเสียประตูไปก่อนแล้วสำหรับแฟนบอลอาร์เซนอล เรพาะจังหวะนี้มันน่าโดนเหลือเกิน เมื่อมาเนียทิสเติมขึ้นไปตักบอลเข้ากรอบเขตโทษ จังหวะแรกมีผู้เล่นพยายามเบียดกันขึ้นโหม่งก่อนแต่วืด ทำให้บอลเลยไปเกือบเสาสองเป็นมาชาโด้ที่เติมขึ้นมาได้แปเน้นๆคนเดียว แต่เหมือนจะช้อนใต้บอล เลยงัดข้ามคานออกไปซะอย่างงั้น

นาทีที่ 42 เป็นประตูที่ยอดเยี่ยมสำหรับแแชร์วินโญ่เลยทีเดียวกับจังหวะที่อาร์เซนอลขึ้นบอลทางด้านซ้าย ก่อนจะเ้ปิดเข้ากลางยาวไปถึงกาซอร์ล่าซึ่งพยายามจะแต่งบอลหาจังหวะยิงแต่โดนแหย่ไว้เลย บอลเลยตกไปอยู่ที่แชร์วินโญ่ซึ่งแตะหาจังหวะแล้วตวัดยิงบอลทะแยงด้วยเท้าขวา พุ่งเลียดผ่านมือของผู้รักษาประตูที่ล้มเซฟไม่ทัน อาร์เซนอลได้เฮขึ้นนำก่อน 1-0

นาทีต่อมา เกือบจะทำให้เพื่อนเงิบซะแล้วสำหรับแฟร์มาเล่นที่จู่ๆก็ไปออกบอลพลาดเข้าเท้าของมาชาโด้หน้าประตูตัวเอง แต่ยังดีที่แข้งโปลิมเปียกอสใจร้อนไปหน่อย ลองซัดไกลเลยเสร็จมันโนเน่ที่รับเข้าซองสบาย

กำลังจะหมดครึ่งแรกอยู่แล้วแท้ๆ แต่อาร์เซนอลก็มาพลาดท่าโดนทำประตูตีเสมอ จากจังหวะที่เกรโคเปิดบอลจากด้านข้างไปที่เสาสอง มิโทรกูลขึ้นเทคตัวขึ้นบอลกองก่อนหลัง ก่อนจะโหม่งสะบัดบอลไปเสาสอง สุดปัญญาที่มันโนเน่ีจะพุ่งถึง เกมเสมอกัน 1-1 ก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดจบครึ่งแรก ทำให้เวนเกอร์หน้าเครียดจัดเลย

              กลับลงสนามมาเล่นกันต่อในนาทีที่ 49 เป็นจังหวะที่ต้องชมแชร์วินโญ่จริงๆ เมื่อเขาได้บอลในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะล็อกแตะจนหนีออกมาจากทางแคบได้ แล้วจ่ายคืนกลับไปให้กับกาซอร์ล่าซึงได้ตั้งป้อมยิงเกือบกลางประตู แต่กลับซัดออกหลังไปซะนี่

นาทีที่ 56 ฟอร์มฮอตต่อเนื่องจริงๆสำหรับโพโดลสกี้ เมื่อเขามาทำประตูช่วยให้ทีมขึ้นนำได้อีกครั้ง ในจังหวะที่ต้องชมแชรวินโญ่อีกแล้ว ที่ทะลวงบุกกดดันแนวจนแนวรับของโอลิมเปียกอสสกัดกันพลาด ก่อนที่เขาจะจ่ายเข้ากลางให้โพโดลสกี้ได้แตะหาจังหวะแล้วซัดด้วยซ้าย บอลดอกดากผู้รักษาประตูเข้าประตูไป อาร์เซนอลนำอีกคำรบ 2-1

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ตอนนี้เกมค่อนข้างจะนิ่งๆไป เพราะอาร์เซนอลเองก็น่าจะระวังมากขึ้น ยังไงก็คงไม่อยากจะซ้ำรอยเดิมแบบในครึ่งแรกที่ได้ประตูขึ้นนำไปแล้วก็เสียคืนให้เขาอย่างไว เกมมันเลยไม่ค่อยจะมีจังหวะให้ลุ้นมากเท่าไหร่

นาทีที่ 71 นี่น่าจะเป็นเกมหนึงที่แชมเบอร์เลนคงผิดหวังในตัวเขาเองน่าดู เพราะเจ้าตัวเล่นไม่ค่อยจะออก มีจังหวะพาบอลขึ้นเกมก็ติดๆขัดๆไม่เป็นอย่างใจ จนในที่สุดก็ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามและเป็นวัลค็อตต์ลงไปเล่นแทน

นาทีที่ 80 อาร์เซนอลเปลี่ยนทีเดียวสองคนรวดเลย เมื่อถอดเอาผู้ที่ทำประตูในเกมนี้ทั้งแชร์วินโญ่และโพโดลสกี้ออกไป ก่อนจะส่งชิรูด์และแรมซี่ย์ลงสนาม ท่ามกลางเสียปรบมือของบรรดากูนเนอร์ส

ก็ถ้าไม่ฮึดตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปฮึดตอนไหนแล้วสำหรับโอลิมเปียกอสที่พยายามใส่เกียร์ห้าเดินหน้าบุกกดดันอาร์เซนอลมากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ เพื่อหวังแบ่งแต้ม แม้ว่าเกมจะไม่ได้ดูน่ากลัวสักเท่าไหร่นักก็ตาม

อีก 4 นาทีต่อมา แฟนๆอุตส่าห์ลุ้นเอาใจช่วยเต็มที่เลยสำหรับชิรูด์ที่เพิ่งลงสนามและเกือบจะทำประตูได้ กับจังหวะที่วัลค็อตต์กระชากสวยขึ้นทางขวา แล้วเปิดเร็วไปเสาแรก ชิรูด์เข้าแหย่จิ้มบอลหวังให้สวนผู้รักษาประตู แต่มันไม่แรงและเบี่ยงมากพอ เลยโดนเซฟเอาไว้
 
ช่วงทดเวลานาทีที่ 4 เป็นการขโมยซีนความหล่ออย่างแท้จริงสำหรับแรมซ๊่ย์เมื่อเขารับบอลต่อมาจากเพื่อนที่โหม่งชงให้ ก่อนจะกระชากเข้ากรอบเขตโทา แล้วดีดบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบตาข่ายงามหยด อาร์เซนอลทิ้ง 3-1 พร้อมเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา 90 นาทีลงด้วยชัยชนะของพวกเขา ที่มี 6 คะแนนเต็มขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มบีแบบสบายใจ