พิมพ์

[Armin]

เกิดอะไรขึ้นอาถรรพ์แตกซะแล้ว "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่ออุตส่าห์คงสถิติไม่แพ้ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มาเอาไว้ได้ถึง 23 ปีแต่สุดท้ายก็ยิงไล่กลับมาไม่ทันแพ้ไป 3-2



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
สนาม โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด
วันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2555
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

เกมนี้เจ้าบ้านได้หมูผี "รูนี่ย์" กลับมาแล้วแต่ยังเป็นแค่สำรองทำให้แดนหน้ายังเป็น "ฟาน เพอร์ซี่" ที่มี "คากาวะ" ซัพพอร์ตด้านหลัง ส่วน "กิ๊กส์" ก็จะได้ลงสนามมาเพราะ "วาเลนเซีย" เจ็บ ด้านทีมเยือนถือว่าสมบูรณ์ดีทุกตำแหน่งให้ "แฟร์ทองเก้น" ขยับมาเล่นแบ็คซ้าย ส่วนกองหน้าก็เป็น "เดโฟ" กับ "เด็มป์ซี่ย์"

               เปิดฉากเริ่มมาในเกมแรกเพียงแค่ 2 นาที "ผีแดง" ก็ต้องสะอึกซะแล้วเพราะทีมเยือนดันได้ประตูออกนำก่อนอย่างรวดเร็วจากการทำชิ่ง 1-2 แล้วพาบอลตะลุยขึ้นมาเองเลย แหวกผ่านไปได้ทั้งราฟาเอลกับริโอก่อนจะได้ยิงแล้วบอลไปแฉลบแขนของอีแวนส์ที่พุ่งมาสไลด์เปลี่ยนทางเข้าประตู สเปอร์สออกนำอย่างไว 1-0

แมนฯ ยูไนเต็ดยังทำเกมบุกไม่ขึ้นแล้วเจอสเปอร์สได้สวนกลับมาอีกแล้วบอลโดนฝากมาที่เด็มป์ซี่ย์หน้าเขตโทษก่อนจะได้ลองยิงดูแต่บอลหลุดเสาซ้ายมือออกหลังไป

โอกาสของ"ปิศาจแดง"มากันบ้างจากจังหวะบอลเปิดจากขวาเข้าไปข้างใน บอลโดนโหม่งสกัดไว้แต่ยังไม่ไปไหนเข้าทางฟาน เพอร์ซี่เอาบอลลงไกลตัวไปนิดก่อนวิ่งไปยิงเจอกัลลาสพุ่งเข้ามาสกัดโดนไปเต็มๆต้องเช็คอาการกันพักนึงเลยแต่ก็ไม่เป็นไรลุกมาเล่นได้ต่อ

ผ่านมา 27 นาทีแล้วแต่"ปิศาจแดง"ยังทำอะไร"ไก่เดือยทอง"ไม่ค่อยจะได้แม้จะได้ต่อบอลไปป้วนเปี้ยนแถวเขตโทษบ่อยแต่ก็ยังหาช่องยิงไม่เจอ ส่วนทีมเยือนนั้นก็รอโอกาสสวนกันไป

แล้วอีก 5 นาทีให้หลัง"ไก่เดือยทอง"ก็มาบวกประตูเพิ่มจนได้จากจังหวะโต้กลับที่เด็มเบเล่ไปแย่งบอลมาได้จากฟาน เพอร์ซี่ก่อนจะพามาถึงกลางสนามแล้วฝากต่อไปที่เบลกด R1 ค้างยาวๆพาบอลกระชากหนีริโอเข้าเขตโทษแล้วยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัดส่งบอลเข้าเสาไกล สเปอร์สทิ้งห่างเป็น 2-0แล้ว

โอกาสของแมนฯ ยูไนเต็ดที่จะมีจุดโทษเกิดขึ้นอีกครั้งจากราฟาเอลจ่ายบอลเข้าเขตโทษให้กับสโคลส์กระดกข้ามหัวต่อไปให้กับนานี่วิ่งไปจะเล่นเจอแฟร์ทองเก้นเบียดไว้แล้วล้มลงไปแต่กรรมการไม่เป่านกหวีดปล่อยให้เป็นแค่ลูกเตะมุม

เข้าช่วงท้ายครึ่งแรกแล้วแมนฯ ยูไนเต็ดกดดันหนักจะทวงประตูไล่มาให้ได้จากจังหวะเปิดบอลติดแล้วมาเข้าทางของนานี่หน้าเขตโทษตั้งป้อมกดเข้าไปเลยแต่ก็ยังตรงตัวของฟรีเดลอยู่ ทำให้ครึ่งแรกยังเป็นสเปอร์สที่นำอยู่ 2-0

               ต่อมาในช่วงของครึ่งหลังแค่ 6 นาที "ทัพผีแดง" ก็บดจนทำประตูไล่มาได้แล้วจากบอลที่ออกไปทางริมเส้นขวาให้กับรูนี่ย์ที่ลงมาใหม่ได้ตั้งป้อมเปิดเข้ามาในเขตโทษ มีนานี่โฉบแทรกแนวรับมาที่เสาแรกแปเน้นๆไม่มีเหลือ แมนฯ ยูไนเต็ดไล่มาเป็น 1-2

แต่แล้วอีกไม่ถึงนาทีทำเอาเงียบทั้งโอลด์ แทร๊ฟฟอร์ดเพราะทีมเยือนดันมายิงเพิ่มได้อีกลูกจากบอลฝากไปริมเส้นซ้ายที่เดโฟเลี้ยงวนเข้ามาด้านใน ก่อนจะจ่ายทะลุเข้าเขตโทษให้กับเบลวิ่งมายิงด้วยซ้ายติดเซฟลินเดการ์ดแต่ดันไปเข้าทางของเด็มป์ซี่ย์มายิงซ้ำเข้าไปไม่เหลือ สเปอร์สทิ้งห่างออกไปเป็น 3-1

บดจะซัดกันก็มาต่อเนื่องหลัง"ปิศาจแดง"ยังไล่ตามคืนมาได้อีกครั้งอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับจากบอลมาขึงหน้าเขตโทษที่คาร์ริคมองในเขตโทษแล้วจ่ายให้กับคากาวะที่ยืนไม่ล้ำหน้าหมุนหนีมาสวยก่อนจะยิงด้วยซ้ายส่งบอลค่อยๆกลิ้งเสียบเสาไกล แมนฯ ยูไนเต็ดไล่มาอีกครั้งเป็น 3-2

นาที 61 ยิดอาร์มี่ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลยหลังเกือบจะโดนตีเสมอซะแล้วจากจังหวะฟรีคิดระยะประมาณ 28 หลาเกือบๆกลางประตูของ"ปิศาจแดง"ที่รับหน้าที่โดยรูนี่ย์วิ่งเข้ามายิงบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่บอลโค้งเกินดันชนเสาเข้าอย่างจัง

ช่วงนี้เจ้าบ้านมาหนักเลยได้โอกาสลองส่องอีกแล้วจากการพาบอลขึ้นมาของราฟาเอลเข้าเขตโทษก่อนจะจ่ายให้กับรูนี่ย์หันหลังให้ประตูแต่ก็เลือกพลิกเข้าขวาแล้วจัดการสับทันทีแต่บอลยังหลุดเสาออกหลังไป

แมนฯ ยูไนเต็ดมาเรื่อยๆได้ลุ้นกันอีกครั้งจากบอลทะลุช่องไปทางซ้ายให้กับฟาน เพอร์ซี่ที่ไม่ล้ำหน้าได้พาบอลเข้าไปเขตโทษเดี่ยวๆเลยก่อนจะจัดการส่องทันทีแต่บอลหลุดเสาไกลออกไปแบบพอสมควร

เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้ว"ปิศาจแดง"ได้ขึงเกมรุกยกใหญ่และก็พอมีโอกาสได้ลุ้นเรื่อยๆแต่แนวรับของสเปอร์สยังช่วยกันสกัดไว้ได้ โดยมีจังหวะได้โหม่งของฟาน เพอร์ซี่กับส่องไกลของนานี่แต่ก็ยังไม่เป็นประตู

เจ้าบ้านยังบุกไม่ลดละได้โอกาสส่องอีกแล้วจากสโคลส์ที่สบโอกาสวิ่งเข้ามายิงซ้ำบอลบอลโดนสกัดดูบ้างแต่บอลมันก็ยังเจอฟรีเดลเซฟเอาไว้ได้อยู่

จังหวะเตะมุมช่วง 6 นาทีสุดท้ายก็หวิดจะเป็นประตูเช่นกันสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ดจากเตะมุมทางขวาเข้ามาที่เสาแรกให้คาร์ริคถอยมาโหม่งเสียไปเสาไกลแต่บอลไปชนคานเข้าอีก

จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ดก็ทำไม่สำเร็จไล่สเปอร์สไม่ทันพ่ายไป 3-2 ทำให้พ่ายคาบ้านต่อพวกเขาครั้งแรกในรอบ 23 ปีแถมด้วยหล่นมาอยู่อันดับ 3 ส่วน"ไก่เดือยทอง"ขยับมาอยู่ที่ 5