ผู้เขียน หัวข้อ: ผีหลอก~!! โดนก่อนซัด "หงส์ซิ้ง" 10 ตัว ตายคารัง 2-1~!!  (อ่าน 1358 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

ก็คงเศร้าเสียใจกันต่อไปสำหรับเหล่า "เดอะ ค็อป" ที่ต้องรอคอยชัยชนะนัดแรกต่อไปหลังจากที่เล่นดีตั้งแต่ปลายครึ่งแรกถึงแม้จะเหลือ 10 ตัว แถมกัปตันทีม "สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด" ยิงขึ้นนำแต่สุดท้ายเจอ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่แซงบุกเอาชนะถึงรังแอนฟิลด์ไปด้วยสกอร์ 2-1 รั้งอันดับ 18 ต่อไปเพิ่งมีแค่ 2 แต้มจาก 5 นัดเท่านั้น



พรีเมียร์ ลีก
ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม แอนฟิลด์

ก่อนที่จะมีการแข่งขันกัน ก็ได้มีการจัดพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่ห์ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่น่ายินดีเมื่อเห็นทั้งสองทีมร่วมใจกันจัดงานในครั้งนี้

ในเกมนี้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ส่ง "ซัวเรซ" ลงเล่นดังเดิม เช่นเดียวกับ "เจอร์ราร์ด" ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงคุมแผงกลาง และด้านข้างยังคงเป็น "สเตอร์ลิ่ง" ที่ได้รับหน้าที่แบบยาวๆไปเลย

ทางด้านของทีมเยือนอย่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าใจหายตรงที่ไม่มีแม้แต่เงาของ "วิดิช" กัปตันทีม โดยเป็น "เฟอร์ดินานด์" และ "อีแวนส์" จับคู่กันกับ "เอฟร่า" กลับมายืนแบ็คซ้ายอีกครั้ง ส่วนสองแสบอย่าง "คากาวะ" และ "ฟาน เพอร์ซี่" ก็ควงกันลงเพิ่มความอันตรายให้กับทีมเยือน พร้อมกับ "กิ๊กส์" ที่คงกระพันลงเล่นแดงเดือดอีกครั้ง

             เปิดฉากเริ่มกันมาในเกมแรกนั้นเป็นการเริ่มต้นมิตรภาพได้อย่างสวยงาม เมื่อคู่กรณีกันอย่างซัวเรซและเอฟร่าจับมือกันแบบไม่มีขัดเคือง ทำให้เรียกเสียงปรบมือจากแฟนบอลได้พอดูเหมือนกัน

นาทีที่ 7 เล่นเอาเสียวว๊าบซ๊าบเลยสำหรับจังหวะที่ซัวเรซหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะตวัดจังหวะแรกปาดกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู ลินเดการ์ดปัดได้แต่ไม่พ้น กำลังจะโดนเจอร์ราร์ดเข้าตามซ้ำ แต่เป็นราฟาเอลที่พุ่งเข้าไปเคลียร์บอลโป่งเดียวหาย

ผ่าน 15 นาทีแรก เป็นเกมของลิเวอร์พูลเน้นๆเลย มีโอกาสลุ้นเสียวหนึ่งดอกกับลูกยิงเข้าด้านข้างของเจอร์ราร์ด แต่พวกเขาก็ครองบอลต่อเนื่องได้เยี่ยม ลุยได้เยอะ แถมมิติที่จ่ายกันก็ดูหลากหลาย ผิดกับทางแมนฯยูไนเต็ดที่ขึ้นเกมไม่ได้ กองหน้าก็เก็บบอลไม่ได้อีกต่างหาก

ดูแล้วลุ้นเสียวกันแน่นอนสำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ด เพราะเฟอร์ดินานด์ดันมีอาการบาดเจ็บขึ้นมา แม้ว่าจะลงเล่นต่อได้ แต่ท่าทางดูไม่ค่อยดี ปกติไม่เจ็บก็เต่าเรียกพี่อยู่แล้ว เจ็บแบบนี้ไม่รู้ว่าจะหนืดลงไปขนาดไหนเหมือนกัน

นาทีที่ 26 แทนที่จะเปิดบอลให้เพื่อนได้ลุ้นทำประตู แต่กลับเลือกยิงเองจากระยะไกลโคตรๆซะงั้นสำหรับนานี่ที่ซัดฟรีคิกโด่งข้ามคานออกไป ก่อนทำหน้าขึงขัง สงสัยแก้เขิล

นาทีที่ 32 ถ้าตำแหน่งมันลึกกว่านั้นอีกหน่อยล่ะจุดโทษแน่นอนเลยสำหรับจังหวะนี้ของเอฟร่าที่พยายามจะเข้าตัดสกัดจังหวะที่สเตอร์ลิ่งจะกระชากบอลพลิกเข้าเขตโทษ แต่ช้ากว่าเยอะ เลยรวบแบบเต็มๆ ยังดีที่ทีมไม่เสียหายอะไรมาก

อีก 5 นาทีต่อมา นอกจากรุกแย่แล้ว ตอนนี้ลงมาช่วยเกมรับก็ดันแจกโชคให้ฝั่งตรงข้ามอีก สำหรับนานี่ที่ลงไปสกัดบอลไปแป้กเห็นๆ พุ่งไปเข้าเท้าของสเตอร์ลิ่งที่ล็อกก่อนหนึงจังหวะแล้วซัด แต่ยังดีที่มีเพื่อนพุ่งบล็อกเอาไว้ได้

นาทีที่ 39 จริงๆจังหวะนี้เมื่อดูจากภาพช้าแล้วไม่น่าจะถึงกับใบแดงเลย เพราะจังหวะที่เชลวี่ย์เข้าตัดบอลจากกิ๊กส์ได้ ก่อนที่จะพยายามพุ่งเข้าหาบอล พร้อมๆกับอีแวนส์ที่พุ่งเข้ามา กึ่งๆจังหวะ 50-50 แต่พอดีว่าสตั๊ดของเชลวี่ย์ไปจิ้มโดนขาอีแวนส์ บวกกับท่าทางดูจะลอยๆกว่า ผู้ตัดสินมองว่าเข้าบอลอันตรายเลยแจกใบแดงให้ทันที ต้องดูว่าเกมจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ "หงส์แดง" ครองบอลวันเวย์เลย

นอกจากประเด็นในสนาม แต่ก็มีภาพให้ได้เห็นว่าเชลวี่ย์ไประเบิดอารมณ์ไม่พอใจทะเลาะมีปากเสียงกับเซอร์ อเล็กซ์ที่ข้างสนาม ห้าวน่าดูเลย

จบ 45 นาทีแรกของเกมวันเวย์เพราะเป็นลิเวอร์พูลที่ได้บุกอยู่ฝ่ายเดียว เพียงแต่ยังหาโอกาสจบสกอร์จังๆไม่ได้ แถมยังโชคร้ายมาเสียผู้เล่นไปจากใบแดงของเชลวี่ย์ที่ดูแล้วจริงๆเป็นการเข้าบอลซะด้วย ทั้งสองฝ่ายยังเสมอกันอยู่ 0-0

               ต่อมาในช่วงของครึ่งหลังกลับมาเล่นกันใหม่ "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ดต้องแก้เกมตามคาด เมื่อพวกเขาเปลี่ยนเอาสโคลส์ลงไปเล่นแทนนานี่ที่กากเหลือใจ ส่วนลิเวอร์พูลก็เปลี่ยนเช่นเดียวกัน ให้ซูโซ่ลงเล่นแทนบอรินี่ซึ่งจริงๆเกมนี้เขาก็เล่นได้ดีไม่หยอก

แค่หนึ่งนาทีของครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลก็ได้เฮกันสนามแตก เมื่อผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดยืนเหม่อกันทั้งที่มีีตัวผู้เล่นเยอะกว่า ปล่อยให้จอห์นสันกระบอลบอลผ่านเข้าเขตโทษ แม้ว่าจะโดนสะกิดแต่ก็ผ่านบอลถึงเจอร์ราร์ดที่ยืนว่างโล่งโจ้งอยู่คนเดียวตรงกลางได้พักอกแล้ววอลเล่ย์ส่งบอลพุ่งผ่านมือของลินเดการ์ดเข้าไปเสียบเสาสวยงามยิ่ง ลิเวอร์พูลขึ้นนำไปแล้ว 1-0

นาทีที่ 51 ได้ประตูตีเสมอคืนทันควันแถมยังสวยสุดๆเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อราฟาเอลพาบอลตะลุยขึ้นหน้า ก่อนที่จะจ่ายต่อให้เพื่อน แล้ววิ่งเข้าไปรอในกรอบเขตโทษ คากาวะพักอกส่งบอลต่อให้ ก่อนที่ราฟาเอลจะสบช่องเอี้ยวตัวปั่นบอลด้วยซ้ายโค้งอ้อมกองหลังก่อนที่จะผ่านมือของเรน่าเข้าไปเช็ดเสาสองสวยงามเหลือเชื่อว่าพี่หย๋อยแกจะยิงได้ เกมเจ๊ากันแล้ว 1-1

นาทีที่ 58 สองเด้งสองต่อเลยสำหรับลิเวอร์พูลที่ร้องจะเอาจุดโทษจากจังหวะแรกที่ซัวเรซพยายามพุ่งเข้าหาบอล แต่โดนอีแวนส์จิ้มเอาไว้ล้มลงไป แต่ท่าสวยไปหน่อย ผู้ตัดสินเลยเฉย ก่อนที่สเตอร์ลิ่งจะโดนสโคลส์พุ่งเข้าสกัดจนกลิ้งไปอีกคน ผู้ตัดสินก็ยังเฉยอยู่เหมือนเดิม

อีก 3 นาทีต่อมา เด เกอา นั่งหนาวขี้อยู่ข้างสนามเลย เมื่อเจอช็อตเซฟลูกนี้ของลินเดการ์ดเข้าไป กับจังหวะที่ซัวเรซยึกหาจังหวะยิงหน้าประตู ก่อนจะแตะสบช่องปั่นบอลพุ่งเลียด แถมมีแฉลบเพิ่มความยากในการรับไปอีก แต่ลินเดการ์ดก็ไม่พลาด ดีดตัวปัดมือเดียวเอาไว้ได้ทัน

นาทีที่ 66 เกือบจะได้ลุ้นทำประตูในเกมแดงเดือดกับเขาแล้วสำหรับซูโซ่ ในจังหวะที่เขาค่อยๆขยับเติมขึ้นไปในจังหวะที่ซัวเรซยืนฟันจอบสับขาหลอกเฟอร์ดินานด์อยู่ ก่อนที่จะป้ายคืนให้แข้งดาวรุ่งวิ่งซัดเต็มๆ แต่ไม่ผ่านมือของลินเดการ์ดที่ปัดป้องไว้ได้

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แม้ว่าจะมีตัวผู้เล่นมากกว่าอยู่ตั้งนานสองนาน แต่เกมของแมนฯยูไนเต็ดไม่ได้เหนือกว่าเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนใหญ่จะมีแต่จ่ายกันผิดพลาด ไม่ก็โดนลิเวอร์พูลดักกันจนขึ้นเกมรุกไม่ได้เลย

นาทีที่ 77 ออกอาการมึนงงกันทั้งสนามและคนดู เมื่อวาเลนเซียแตะบอลกระชากหนีผู้เล่นของลิเวอร์พูลที่เข้าสกัดบอลกันช้าได้ ก่อนจะควบจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ แม้ว่าจะมีตัวให้จ่ายแต่เขาเลือกเล่นเอง พยายามง้างจะยิง แต่มีจอห์นสันพุ่งเข้าไปข้างหลัง แล้วล้มลงไป ผู้ตัดสินเลยเป่าเป็นจุดโทษทันที แต่พอมาดูจากภาพช้า ไม่ได้ใกล้เคียงกับการสกัดแท็คเกิ้ลเลยแม้แต่นิด เพราะจอห์นสันพุ่งอ้อมไปพยายามแหย่บอลจนชนกับเรน่า ส่วนวาเลนเซียง้างจะยิงแล้วเหมือนลื่นล้มไปเอง แต่ได้จุดโทษ ก่อนที่ฟาน เพอร์ซี่จะรับหน้าที่สังหาร แม้ว่าเรน่าจะพุ่งถูกทาง แต่บอลมันแรงเกินเลยเอาไม่อยู่ แมนฯยูไนเต็ดพลิกขึ้นนำ 2-1

จากจังหวะก่อนหน้านี้ทำให้แอกเกอร์ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปเรพาะเจ็บเล่นไม่ไหว ก่อนที่คาร์ราเกอร์จะลงไปเล่นแทน

นาทีที่ 84 ลิเวอร์พูลร้องขอจะเอาใบแดงบ้าง เมื่อฟาน เพอร์ซี่ไปเสียบสกัดใส่ผู้เล่นลิเวอร์พูลแบบเหมือนจะเปิดปุ่มด้วย แต่ผู้ตัดสินปล่อยให้เกมเล่นกันต่อก่อนจะกลับไปแจกใบเหลืองหใ้กับแข้งเลือดดัตช์

ช่วงท้ายเกมแมนฯยูไนเต็ดดึงเกมกระจาย ไม่ว่าจะเล่นช้าหรือชิงเปลี่ยนตัว ก่อนที่จะยื้อจนจบลงที่สกอร์ 2-1 เป็นชัยชนะของพวกเขาเหนือลิเวอร์พูลชนิดที่เรียกได้เลยว่าแฟนบอลเจ้าบ้านคงจะหงุดหงิดกับผลการแข่งน่าดูแน่นอน
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา