กลายเป็นฮีโร่ให้กับ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซีเลยทีเดียวสำหรับ "แอชลี่ย์ โคล" หลังจากที่อึดอัดทั้งเกมบุกยังไงก็ไม่ได้ประตูจนมานาที 85 ของเกม "โคลคล้ำ" ซัดลูกโทนเฉือนเอาชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ไปได้แบบหืดขึ้นคอ 1-0
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2555
เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้
เจ้าบ้าน "สิงห์โตน้ำเงินคราม" มีดร็อปนักเตะสองตำแหน่งให้ "เทอร์รี่" กับ "แลมพาร์ด" ออกไปนั่งสำรองโดยมี "เคฮิลล์" กับ "ออสการ์" ที่เพิ่งยิงสองประตูมาได้ลงเป็นตัวจริง ส่วน "มิเกล" ยังอยู่ให้แฟนสิงห์ได้บ่นต่อไป เปิดฉากเริ่มมาในเกมแรกเจ้าบ้าน "สิงห์บลูส์" ก็บุกแหลกกันเลยได้โอกาสพาบอลไปป้วนเปี้ยนในเขตโทษของ"ช่างปั้นหม้อ"หลายต่อหลายครั้งแต่โอกาสได้ลุ้นจริงๆครั้งแรก็มาจากลูกเตะมุมโขกโดยตอร์เรสแต่ก็ข้ามคาน
นาที 19 แม้สโต๊คไม่ค่อยจะมีโอกาสมากนักแต่เกือบพลิกขึ้นนำซะแล้วจากลูกฟรีคิกริมเส้นขวารับหน้าที่เปิดเข้ามาโดยวีแลน ก่อนจะเป็นวอลเตอร์สสอดมาโหม่งเต็มๆที่เสาแรกแต่บอลก็ไปชนคานจังๆเช่นเดียวกัน
แม้เชลซีจะได้ครองบอลเยอะกว่ามีโอกาสเข้าทำที่มากกว่าแต่จะหาจังหวะได้ลุ้นจริงๆยังไม่ค่อยเจอเท่าไหร่และมีจังหวะล้มในเขตโทษด้วยจากอิวาโนวิชแต่กรรมการก็ไม่แจกเพราะเป็นจังหวะตั้งใจล้ม
นาที 25 น่าจะเป็นจังหวะที่"สิงห์บลูส์"ได้ขึ้นนำไปแล้วเริ่มต้นจากอาซาร์ที่เลี้อยมาถึงหน้าเขตโทษก่อนจะฝากไปที่มาต้ากลางประตูแล้วยกบอลข้ามแนวรับให้กับตอร์เรสวิ่งไปพักอกเอาบอลลงก่อนจะแปตามน้ำแต่ดันวืดเลยทำให้เบโกวิชออกมาคว้าบอลได้ทัน
เจ้าบ้านยังได้ลุ้นตอเนื่องคราวนี้เป็นจังหวะฟรีคิกกันบ้างระยะเกือบ 35 หลากลางประตูก่อนเป็นลูอิซวิ่งเข้ามาอัดเต็มๆแม้บอลจะพุ่งผ่านกำแพงไปแล้วแต่ก็ยังตรงตัวเบโกวิชรับได้ไม่มีปัญหา
เกมกลับมาเป็นของ"ช่างปั้นหม้อ"ได้ลองบุกดูบ้างและเกือบจะได้ประตูเช่นเดียวกันจากบอลฝากให้กับเคราช์ก่อนจะดีดให้กับคาเมร่อนเติมมาพาบอลเข้าเขตโทษแล้วเปิดเต็มแรงไปเสาสองเข้าหัวของไคท์ลี่ย์โหม่ง เช็ครับหลุดมือนิดหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เข้าช่วงท้ายครึ่งแรกแล้วเจ้าบ้านพยายามจะหาช่องเจาะด้วยการแทงทะลุช่องอยู่เรื่อยแต่ก็เจอเกมรับอันเหนียวแน่นของสโต๊คช่วยกันดักสกัดไว้ได้หมด ทำให้จบครึ่งแรกยังไม่เกิดสกอร์ขึ้นเจ๊ากันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังมา 5 นาทีสิงห์ก็มีช็อตให้ลุ้นกันก่อนเลยหลังมีจังหวะลุ้นจุดโทษแต่ก็ไม่ได้เป็นออสการ์ที่พาบอลจะพริ้วเข้าเขตโทษแตะหลบชอว์ครอสไปแล้วก่อนจะทิ้งตัวล้มลงก่อนกรรมการมองเป็นว่าจังหวะพุ่งเลือกแจกเหลืองให้ออสการ์ไป
แต่"สิงห์บลูส์"ยังมาต่อเนื่องและก็ได้โจมตีเข้าใส่อีกแล้วจากบอลเปิดสุดเส้นหลังเข้ามาข้างในตัวดันวืดไปหมดก่อนจะคืนบอลมาหน้าเขตโทษที่มาต้าวิ่งมายิงด้วยซ้ายแต่บอลก็ข้ามไปไม่ใกล้เคียงเลย
นาที 54 สโต๊คเองก็มีโอกาสมาบ้างเหมือนกันเป็นเตะมุมฝั่งขวาโดยอดัม เปิดลึกมาเสาไกลให้กับเคราช์ที่โดนลูอิซประกบต้องล้มตัวเหยียดขายิงแต่โดนบางเฉียบบอลเลยหลุดเสาออกไป
เชลซีลุยต่อเนื่องและน่าได้ยิงเหลือเกินจากจังหวะที่ทำชิ่งกันสวยเริ่มต้นที่รามิเรสฝากบอลมาหน้าเขตโทษให้กับโมเซสบังบอลอยู่ก่อนจะจ่ายให้กับตอร์เรสเบิ้ลจังหวะเดียวให้กับมาต้าหลุดไปทางเสาขวามือจะล่อเป้าแล้วแต่ชอว์ครอวยัมาสกัดได้ทัน
นาที 70 แล้วแต่ประตูยังไม่เกิดขึ้นและรูปเกมก็ยังไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่เจ้าบ้านยังบุกอย่างไม่ลดละมาได้โอกาสอีกครั้จากรามิเรสที่ออกบอลให้กับออสการหน้าเขตโทษแตะบอลทีนึงแล้วยิงแต่บอลบดหลุดเสาซ้ายมือ
โอกาสของหม้อก็มาเช่นกันบอลออกไปทางขวามีคาเมร่อนวิ่งเติมขึ้นมาเปิดบอลโด่งไปเสาไกลนู่นเลยให้กับโจนส์โขกชงกลับมาและเป็นเอเธอริงตันได้ซัดเปรี้ยงบอลหลุดเสาไกลนิดเดียว
แต่แล้วนาที 85 "สิงห์บลูส์"ก็มาได้ประตูที่ต้องการเสียทีในจะงหวะโคลพาบอลมาเองก่อนจะฝากไปแลมพาร์ดแล้วถ่ายบอลออกไปทางขวาที่อิวาโนวิชก่อนจะเปิดบอลเข้ามาด้านในให้มาต้าเหมือนจะจับบอลไม่ดีหรือโดนแหย่ไม่รู้แต่บอลมันก็หลุดไปถึงโคลที่เติมมายิงผ่านตัวเบโกวิชเข้าซะที เชลซียิงนำแล้ว 1-0
จบเกมเชลซีก็ได้โล่งอกยกใหญ่เอาชนะสโต๊ค ซิตี้ไปได้ 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญโดยยังเป็นจ่าฝูงต่อไปไม่ต้องกังวลว่าจะโดนทีมไหนแซงอีกอาทิตย์นึง