"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องเหนื่อยกันเลยทีเดียว เมื่อเกือบจะต้องสลดทำสถิติสยองแพ้ 3 จาก 4 นัดแรกหลังเล่นดีกว่าแต่ต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ โดยได้ "ซัวเรซ" ที่เป็นคนซัดโทนตีเจ๊าให้กับ "ทัพหงส์" ในนาที 71 รอดพ้นหายนะแต่ยังรั้งอันดับ 17 เพิ่งมี 2 แต้มเท่านั้น
พรีเมียร์ ลีก
ซันเดอร์แลนด์ 1-1 ลิเวอร์พูล
สนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เริ่มกันมาในช่วงครึ่งแรกฝั่ง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมเยือนนั้นเป็นฝ่ายครองบอลหาจังหวะยิงได้ดีกว่า มาถึงนาที 10 หลุยส์ ซัวเรซกองหน้าตัวเก่งของลิเวอร์พูลได้จังหวะล็อกหลบกองหลังตามถนัดก่อนซัดเต็มข้อแต่บอลไม่เข้ากรอบพุ่งออกหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย
เป็นอีกครั้งที่ลิเวอร์พูลน่าจะได้โอกาสขึ้นนำใน 19 จากจังหวะที่เจ้าถิ่นส่งคืนลังไม่ดีฟาบิโอ บอรินี่วิ่งเข้าไปยิงติดตัวของมิกโนเล็ต บอลกระเด้งออกมาเข้าทางจอนโจ้ เชลวี่ที่กะยิงสวนจังหวะแรกแต่บอลปิ้นออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 23 สตีเว่น เจอร์ราร์ดได้เปิดฟรีคิกจากด้านขวาไปในกรอบประตู แต่กองหลังของซันเดอร์แลนด์ยังเคลียร์ออกมาได้ แม้"หงส์แดง"จะโหมบุกอย่างต่อเนื่องแต่ยังหาจังหวะพาบอลทำเกมบุกไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร ซึ่งจังหวะต่อมานั้นซัวเรซได้ลากบอลไปทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนทิ้งตัวล้มลงไปกองกับพื้นแต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้จุดโทษเป็นเพียงบอลออกหลังไปทำให้"หม่อมเหยิน"นั่งหน้าเซ็งตามระเบียบ
น.29 เคร็ก การ์ดเนอร์ฟูลแบ็กของซันเดอร์แลนด์ลากบอลฝ่าแนวรับของลิเวอร์พูลก่อนตวัดเข้ามาหน้าปากประตูก่อนที่สตีเฟ่น เฟล็ทเชอร์ที่รอโอกาสอยู่หลังมาร์ติน สเตอร์เทลจะพุ่งชาร์จด้วยซ้ายเข้าประตูไปทำให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 จากการยิงครั้งแรกของพวกเขา
เข้าสู่ท้ายครึ่งแรกเป็นจังหวะของดาวยิงอุรุกวัยอีกครั้งที่มีจังหวะล็อกหลบกองหลังของเจ้าถิ่นก่อนตวัดยิงด้วยขวานอกกรอบเขคโทษแต่โชคไม่ช่วยกองหลังทีมเยือนพุ่งเข้ามาบล็อกบอลออกหลังประตูไปอีกครั้ง
ท้ายครึ่งแรก"หงส์แดง"เปิดเกมบุกหวังทวงประตูคืนแต่ก็ยังไร้ความคมเหมือนหลายนัดที่ผ่านมาทำให้ยังไม่สามารถส่งบอลผ่านมือของมิกโนเล็ตไปได้ก่อนที่ผูัตัดสินจะเป่าหมดครึ่งแรก
ต่อมาในช่วงของครึ่งหลัง "เดอะ เร้ดส์" ยังดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง และเป็นเกล็น จอห์นสันที่ลากบอลตัดเข้ากลางก่อนสับด้วยขวาข้างถนัด แต่บอลเจ้ากรรมดันโด่งเกินไปชนคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 61 ทีมเยือนน่าจะตีเสมอได้หลังลูกเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษของสเตอร์ลิ่งเป็นมิกโนเล็ตบินตัดบอลตกมาเข้าทางเชลวีย์ที่เก็บแล้วแปตั้งไหลให้เจอร์ราร์ดวิ่งมาแปตรงเส้นเขตโทษพอดีแต่ดันเฉี่ยวเสาออกไปชนิดที่ว่าแฟนเสียดายกันทั้งนั้น
ตอนนี้ลิเวอร์พูลขึงเกมอยู่ข้างเดียวโดยที่ร็อดเจอร์สส่งสจ๊วต ดาวนิ่งลงมาแทนฟาบิโอ บอรินี่และนาที 65 เจอร์ราร์ดเก็บตกบอลนอกเขตแล้วยิงเลียดยัดบอลแฉลบโด่งเป็นสเตอร์เทลที่โขกเช็ดจะให้เข้ามุมแต่มิกโนเล็ตล้มตัวรับบนเส้นหวุดหวิด
หลังพยายามอยู่นานอีก 5 นาทีต่อมาลิเวอร์พูลมาตีเสมอจนได้และต้องบอกว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัวของสเตอร์ลิ่งที่วิ่งไปเอาบอลที่เจอร์ราร์ดจ่ายย้อนหลังจนเกือบออกข้างก่อนพลิกฉีกหนีตัวประกบแล้วครอสเข้ามาให้ซัวเรซวิ่งโฉบแปว่าวบอลไปกระเด้งถูกบัมเบิ้ลกองหลังตัวสำรองมาเข้าทาง"หม่อมเหยิน"ที่คราวนี้กดตูมเผาขนไม่มีเหลือ 1-1 แล้ว
จอนโจ้ เชลวี่ย์ รับบอลจากซัวเรซเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนล็อกบอลหาจังหวะยิงแบบถนัดถนี่ด้วยซ้ายกลางประตูแต่มิกโนเล็ตยังทุบออกมาได้ซึ่งซัวเรซพยายามโหม่งซ้ำแต่โด่งข้ามคานออกไป
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมทีมเยือนยังบุกอย่างหนักแต่ไม่สามารถยิงประตูเพิ่มได้ก่อนที่ทั้ง 2 ทีมจะแบ่งแต้มกันไปแบบสนุก