"มุสซ่า เด็มเบเล่" ที่อุตส่าห์เจิมประตูแรกหลังจากที่ได้ลงสนามมาเป็นสำรองในครึ่งหลังถึงกับต้องเซ็ง เมื่อได้ทำประตูให้กับ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ขึ้นนำไปก่อนแต่ก็ดันมาเจอ "นกขมิ้น" นอริช ซิตี้ ไล่ตีเจ๊าสำเร็จในนาที 85 เจ๊าไป 1-1 ทำให้ยังหาชัยชนะแรกไม่เจอ
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน
วันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2555
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1 - 1 นอริช ซิตี้
เจ้าบ้าน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ยังตามหาชัยชนะนัดแรกอยู่หลังสองเกมที่ผ่านมายังทำไม่ได้ทำให้กุนซือนั่งยองอย่าง ฎอันเดร วิลลาส โบอาส" กดดันไม่น้อย เกมนี้ "เด็มเบเล่" แข้งใหม่มีชื่ออยู่ในม้านั่งสำรองด้วย นอกนั้นยังใช้ตัวเดิมๆไม่ได้เปลี่ยนอะไร แต่สถิติในการเจอกับนอริช 10 ครั้งหลังในลีกพวกเขาเอาชนะไปได้ 6 เกม เปิดฉากมาในช่วงครึ่งแรกเจ้าบ้านดูคึกคักพอสมควรมีโอกาสลุ้นกันไปแล้วเป็นจังหวะบอลจากหน้าปากประตูฝากไปให้กับเลนน่อนพาควบจากกลางสนามขึ้นมาเองเลยก่อนจะปาดเข้ามาข้างในให้ซิกเกิร์ดสันจับก่อนทีนึงแล้วยิงแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบ
แต่ฝั่งที่น่าได้นำก่อนก็คือ"นกขมิ้น"นั่นเอง มาได้จังหวะลูกฟรีคิกจากสนอร์ดกราสเปิดเข้าไปข้างใน มีมาร์ตินโดดโล่งๆขึ้นโขกได้ก่อนเจอฟรีเดลปัดนิดนึงจนบอลไปชนคานเจ้าบ้านรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ผ่านมา 20 นาทีเกมเจ้าบ้านยังต่อกันไม่ค่อยจะติดเท่าไหร่ได้โอกาสครองบอลมากกว่านิดหน่อยแต่โอกาสสุดท้ายนั้นไม่ได้ลุ้นอะไรเลย เกมดูตื้อพอสมควร
ฝั่งทีมเยือนเหมือนจะเงียบๆเช่นกันแต่ก็มาได้โอกาสให้ได้ลุ้นกันเลยจากบอลที่มาทางขวาที่ฮาวสันได้ตั้งป้อมเปิดเข้าไปเลย แฟรทองเก้นยังโหม่งเคลียร์ออกมาได้แต่ก็มาเข้าจอห์นสันวิ่งมากดเต็มข้อแต่บอลพุ่งหลุดคานไปนิดเดียว
ครบครึ่งชั่วโมง"ไก่เดือยทอง"ยังเจาะเข้าเขตโทษไม่ได้เลยต้องหันมาอาศัยลูกยิงไกลบ้างจากเบลพาบอลมาเองก่อนได้ยิงหน้าเขตโทษยังเจอรัดดี้เซฟ ถัดมาอีกจังหวะก็เป็นซานโดรลองดูบ้างยังไม่ผ่านรัดดี้อยู่ดี
ท้ายครึ่งนาที 42 เจ้าบ้านทำไปทำมาเจาะไม่เข้าแถมเกือบจะโดนนำก่อนด้วยจากบอลฝากไปที่พิลคิงตันริมเส้นซ้าย ก่อนได้ตั้งป้อมเปิดเข้าไปข้างในให้สนอร์ดกราสวิ่งเข้ามาพุ่งโหม่งสวนทางฟรีเดลแต่ฟรีเดลลืมแก่ผวาปัดไว้ได้ แจ๊คสันจะเข้ามาซ้ำแต่บอลก็คลุกคลิกจนโดนเคลียร์ ทำให้ยังเสมอกันอยู่ 0-0
ต่อเวลาครึ่งหลังโบอาสแก้เกมให้เด็มเบเล่ลงมาแทนซานโดรและเปิดฉากมา"ไก่เดือยทอง"ก็ได้ลุ้นซะเลยจากเอกอตโต้ที่หลุดเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนจะเปิดมาเสาแรกจะให้เดโฟเจอบาสซงมาตามเบียด บอลยังลอยออกมาหน้าเขตโทษให้ซิกเกิร์ดสันวิ่งมายิงแต่ยังตรงตัวของรัดดี้
ถัดมาทีมเยือนก็ได้ลุ้นกันบ้างเช่นเดียวกันจากจังหวะที่ไปกดดันอยู่แถวหน้าเขตโทษเจ้าบ้านก่อนจะเป็นมาร์ตินที่ได้ครอสจากทางขวาเข้าไปในเขตโทษให้กับโฮลท์ขึ้นโขกคนเดียวแต่ก็ไม่ดีพอหลุดกรอบออกไป
โอกาสของทีมเยือนมาอีกแล้วในนาที 63 จากจังหวะจ่ายเข้ามาในเขตโทษแล้วเป็นพิลคิงตันวิ่งมายิงด้วยขวาแต่ก็ต้องชมฟรีเดลที่ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้อีกครั้งนึง
แต่แล้วอีก 6 นาทีให้หลัง"ไก่เดือยทอง"ก็ได้เฮกันเสียทีหลังมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในจังหวะที่เด็มเบเล่เก็บบอลได้ก่อนจะไหลออกไปทางซ้ายให้กับเดโฟวิ่งไปรับแล้วเลี้ยงจี้จะเข้าเขตโทษก่อนเลือกจ่ายกลับไปให้เด็มเบเล่หน้าเขตโทษแต่งบอลเข้าเท้าขวาก่อนจะล็อกไขว้เข้าเท้าซ้ายแล้วกดเต็มเหนี่ยวบอลเรียดพุ่งหายเข้าประตูไปเลย สเปอร์สออกนำแล้ว 1-0
หลังจากนั้นเกมเปิดกันมากขึ้นนอริชเริ่มไม่อยู่นิ่งจะเอาประตูตีเสมอให้ได้แล้วมีจังหวะที่พวกเขาโวยกันหลังเอกอตโต้ไปดึงเสื้อมอร์ริสันในเขตโทษจนล้มลงแต่กรรมการไม่ได้เป่าอะไรซึ่งจริงๆก็ดึงกันทั้งคู่
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายนอริชได้กดดันหนักเลยแล้วก็มาทำประตูได้ด้วยในนาที 85 จากจังหวะบอลเปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษหลุดมาเสาไกลให้มาร์ตินโหม่งตั้งไปถึงหัวโฮลท์โหม่งเช็ดอีกทีมาเข้าทางสนอร์ดกราสวิ่งมายิง คราวนี้ฟรีเดลก็ช่วยไม่ไหวแล้วบอลเลี้ยวหนีมือเข้าประตูไปนอนก้นตาข่าย นอริชไล่ตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ
ก่อนจะจบเกมสถานการณ์"ไก่เดือยทอง"ย่ำแย่กกว่าเดิมอีกหลังฮัดเดิลสตันที่ลงมาเป็นสำรองแต่ก็ต้องมาโดนไล่ออกในจังหวะที่สไลด์ใส่ฮาวสันแล้วกรรมการไม่ลังเลแจกแดงไปเลย
ทดเจ็บแฟนเจ้าบ้านเกือบหัวใจวายหลังจู่ๆมอร์ริสันหลุดมาได้เฉยเข้าเขตโทษจะตามมาเล่นบอลเจอสกัดเข้าทางโฮลท์เลือกตอกส้นให้ตัววิ่งมากดแต่ฟรีเดลยังเซฟไว้ได้ซ้ำอีกทีก็ไปไกลเลย
จบเกมสเปอร์สก็เสมอไปกับนอริชที่ 1-1 ทำให้ผ่านมาสามเกมในลีกโบอาสยังหาชัยชนะเกมแรกไม่เจอ เช่นเดียวกับฝั่ง"ขมิ้น"ที่ก็ยังเก็บชัยชนะไม่ได้เช่นกัน