พิมพ์

[Armin]

เป็นชัยชนะที่เหนือความคาดหมายของ "ตราหมี" แอตเลติโก้ มาดริด เลยจริงๆ เมื่อพวกเขาไล่บด กระหน่ำซัดประตูจากฝีเท้าอันสุดยอดของ "ราดาเมล ฟัลเกา" ซึ่งเป็นฮีโร่ซัดแฮทริกพา "ตราหมี" ยำใหญ่ "สิงห์บลูส์"  เจ้าของถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ ลีกไปถึง 4-1 คว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพไปครองอย่างงดงาม



ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ
เชลซี 1 - 4 แอตเลติโก้ มาดริด
สนาม สตาด หลุยส์

              เปิดฉากเริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาทีเท่านั้น แอตเลติโก้ก็เกือบจะทำประตูนำรวดเร็ว จากจังหวะสวนเร็วที่ขึ้นไปทางหุยส์ ตวัดกลับเข้ากรอบเขตโทษ แม้ว่าจะโดนโคลเบียดอยู่แต่ฟัลเกาก็เข้าชาร์จถึงบอล แต่ติดนิดเดียวตรงวิถีมันดันพุ่งไปชนคาน ไม่งั้นล่ะสนุกแน่

อีก 2 นาทีต่อมา เป็นลูกยิงระดับโลกจริงๆสำหรับฟัลเกา เมื่อแอตเลติโก้ใช้จังหวะสวนกลับจากความผิดพลาดในแดนกลางของเชลซีที่ทำบอลหลุด จนทำให้ฟัลเกาทะลุถึงเขตโทษ ก่อนที่จะชิพบอลข้ามตัวเช็ก แม้ว่าลูอีซพยายามจะไปดัก แต่โดนยิงดัดหลัง บอลข้มตัวเด้งไปชนเสาสองเข้าประตูอย่างเฉียบขาดสุดๆ "ตราหมี" นำ 1-0 จากประตูคุณภาพจริงๆ
 
นาทีที่ 19 ด้วยเกมรับสุดรั่วของเชลซี ทำให้แอตเลติโก้มาได้ประตูที่สองจากการยิงสุดสวยของฟัลเกา ในจังหวะที่กองกลางเชลซีหลวมก่อนที่ลูอีซจะไปดักบอลพลาด ปล่อยให้ผ่านไปถึงฟัลเกาที่แจ่งบอลก่อนจะหาเหลี่ยมแล้วบรรจงปั่นบอลผ่านตัวบล็อกกับมือของเช็กที่พยายามบินสุดชีวิตแต่ไม่ไหว บอลพุ่งเข้าไปเสียบเสาไกลงามหยดย้อยสุดจะบรรยาย ตอนนี้แอตเลติโก้ มาดริดทิ้งไปแล้ว 2-0

เกมกำลังจะเข้าช่วงครึ่งชั่วโมง ตอนนี้เชลซีพยายามเร่งเครื่องของพวกเขาขึ้นมาอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทวงประตูคืนให้ได้ แต่นั่นก็เหมือนเข้าทางของแอตเลติโก้ที่ตอนนี้แพ็คเกมแน่นไว้ก่อนจากประตูนำห่าง แล้วค่อยสวนกลับอีกที ทุกอย่างมันเลยอึดอัดไปซะหมดสำหรับทีมดังจากแดนผู้ดี

นาทีที่ 36 จังหวะนี้กองหลังของเชลซีแทบจะหยุดเกมรุกของ 'ตราหมี" ไม่ได้เลย เพราะเจอลุยทีหนึงถึงกับยวบ จากจังหวะที่แอตเลติโก้ลุยขึ้นไปทางด้านขวาแม้ว่าดูจากภาพช้าแล้วจะล้ำ แต่ไลน์แมนไม่ยก ตูรานเลยจ่ายเข้ากลางไปให้กับโลเปซได้แปที่เสาสองเน้นๆแต่กลับยิงแป้ก ถึงอย่างนั้นก็ยังมีฟัลเกาตามเข้ามาซ้ำดาบสอง แต่ลูกโหม่งของเขาก็ดังไปชนเสาเหลี่ยมนอกเด้งออกซะนี่

พอได้ประตูนำห่างแบบนี้มันเข้าทางไปหมดซะจริงๆ เมื่อแอตเลติโก้ทำลายเกมของเชลซีแบบจังๆ ด้วยการตัดเกมตั้งแต่ครึ่งสนามไม่ให้กดดันถึงแนวรับของพวกเขามาก มีตอดนิดเตะหน่อยทำให้จนถึงตอนนี้ "สิงห์ไฮโซ" ก็ยังเซ็ตเกมของพวกเขาไม่ได้เลย

นาทีสุดท้ายของครึงแรก เป็นความสุดยอดของแอตเลติโก้ มาดริดและแน่นอนว่าของฟัลเกา เมื่อเขามาทำแฮทริกแบบสุดยอดไปเลย จากจังหวะสวนกลับของ "ตราหมี" ที่ตูรานพาบอลเข้าจี้กองหลังชอลเชลซี ก่อนที่จะจ่ายตัดไปให้กับฟัลเกาแตะกระชากเข้ากรอบเขตโทษแล้วยิงสวนเช็กโป้งเดียว ลอดดากเปิดเปิงส่งบอลเข้าไปนอนก้นตาข่าย แอตเลติโก้นำห่าง 3-0 พร้อมแฮทริกสวยๆของฟัลเกา

จบ 45 นาทีแรก อย่าเรียกว่าการบ้าน ต้องบอกว่าเป็นงานที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ของดิ มัตเตโอที่ต้องแก้เกมพยายามนำลูกทีมซึ่งแทบจะสู้แอตเลติโก้ไม่ได้เลยให้กลับมาสู่เกมให้ได้ เพราะตอนนี้แอตเลติโก้ทิ้งไปแล้วถึง 3-0

             กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง "สิงห์บลูส์" ทำการเปลี่ยนเอาออสการ์ลงไปเล่นแทนรามิเรส โดยหวังที่จะเปลี่ยนเกมให้ดีขึ้นมามากกว่าเดิมให้ได้

นาทีที่ 55 เชลซีลงมาในครึ่งหลังก็พยายามเดินเครื่องลุยหน้าอย่างเต็มที่ มาต้าทำชิ่งกับมิเกลได้สวย ก่อนที่บอลจะถ่ายต่อไปถึงอาซาร์ แต่จังหวะยิงของเขามันเบาหวิว ไม่ผ่านมือของคูร์กตัวส์

อีก 5 นาทีต่อมา นี่มันเละจริงๆสำหรับเชลซี เพราะพวกเขามาโดนประตูที่ 4 จากลูกฟรีคิกที่กองหลังยืนกันแบบเอ๋อหร๋อ ไม่มีใครเข้าไปตัดบอลจากผู้เล่นของแอตเลติโก้ที่ถ่ายบอลต่อไปให้กับมิรานด้าได้ยกผ่านเช็ก ก่อนที่จะไปแฉลบเคฮิลล์ที่พยายามเข้าสกัดบอลให้ได้ก่อนข้ามเส้นประตูเข้าไปกระทบตาข่าย ตอนนี้เกมขาดถึง 4-0 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เชลซียังคงไม่สามารถทำประตูตีไข่แตกเพื่อเพิ่มความหวังของพวกเขาขึ้นมาได้เลย เพราะเป็นทางแอตเลติโก้ที่เล่นกันได้อย่างบอลใจและครองบอลกันได้ดี แถมเกือบจะบวกลูกที่ 5 ได้ด้วยซ้ำ

นาทีที่ 74 ดูเหมือนจะช้าไปมากพอสมควรสำหรับประตูตีไข่แตกของเชลซี จากจังหวะเตะมุมของแลมพาร์ดโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลขลุกขลิกเล็กน้อย ก่อนที่จะไปหล่นตุ้บอยู่หน้าเคฮิลล์ที่จัดการซัดเร็วผ่านบล็อกเข้าไปตุงตาข่าย เชลซีตามมาเป็น 4-1 แต่ดูเวลาละไม่น่าทัน

นาทีที่ 81 อันนี้ก็ดูจะช้าไปเหมือนกันสำหรับเชลซีที่ตัดสินใจส่งสเตอร์ริดจ์ลงไปเล่นแทนมาต้าเพื่อหวังที่จะมีโอกาสลุ้นเพิ่มในแดนหน้า แต่กับอีก 10 นาทีที่เหลือนี้ดูจะยากเหมือนกันสำหรับแข้งทีมชาติอังกฤษที่ลุ้นช่วยพลิกสถานการณ์ได้

ช่วงเวลาที่เหลือแอตเลติโก้ก็เล่นไปตามรูปเกมเดิมของพวกเขาและเชลซีก็ไม่สามารถทำประตูให้ได้มีลุ้นเพิ่มแต่อย่างใด ทำให้จบ 90 นาที เป็นแอตเลติโก้ที่เอาชนะไปอย่างท่วมท้น 4-1 คว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพไปนอนกอดได้สำเร็จ

ส่วนเชลซีแม้ว่าฟอร์มในลีกของพวกเขาจะเก็บชัยรวด แต่นี่อาจจะเป็นเหมือนการโดนตั้งคำถามว่าถ้าหากเล่นในรายการแชมป์เปี้ยนส์ ลีกที่เป็นเจ้าของแชมป์อยู่นั้น พวกเขาจะยังคงทำได้ดีเหมือนเก่าหรือไม่