คดีพลิกกันเลยทีเดียวสำหรับ "สิงห์ไฮโซ" อย่าง เชลซี ที่ได้ประตูนำไปก่อนแต่ "อีวาโนวิช" ดันมาโดนใบแดง เพื่อนๆเลยน่วมถูกไล่ยิง 3 ลูกรวดแม้ว่าจะได้ตีตื้นในช่วงท้ายเกม แต่ไม่ทันกลายเป็นชัยชนะขอ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ได้ครั้งแรกในรอบ 40 ปี
ศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์
เชลซี 2 - 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม วิลล่า ปาร์ค
เกมคอมมูนิตี้ ชิลด์หรือจะเรียกว่าโอกาสแห่งการได้เป็นแชมป์ถ้วยใบแรกก่อนประเดิมพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลใหม่เป็นการลุ้นกันระหว่างทีมแชมป์พรีเมียร์ ลีกอย่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี เจ้าของถ้วยเอฟเอ คัพที่วันนี้พยายามจัดทัพที่ดีที่สุดของพวกเขาลงสนาม เปิดฉากมาในครึ่งแรกผ่านช่วง 10 กว่านาทีแรกไป เกมถือว่ายังทันกันอยู่ แต่เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ดูจะวูบวาบน่ากลัวกว่าเวลาที่พวกเขาเซ็ตเกมรุกกันขึ้นไปข้างหน้า โดยเฉพาะการออกตัวของเตเบซและอเกวโร่ที่ต้องบอกเลยว่ากองหลังพลาดเมื่อไล่ก็เตรียมมองตูดได้ตามสบาย
นาทีที่ 16 นึกว่าจะได้ง้างตีนอัดบอลแบบเต็มเหนี่ยวซะหน่อยสำหรับนาสรี่ที่ฉีกตัวเข้าไปในกรอบเขตโทษ หวังว่าอเกวโร่จะจ่ายไปที่ตัวให้เขาได้ชาร์จพลังยิง แต่หอกอาร์เจนไตน์กลับแทงบอลไปข้างหน้า ทำให้นาสรี่เสียจังหวะ แม้จะตามเข้าไปยิงได้แต่บอลมันไร้พิษสงเหลือเกิน
ก่ะจะหล่อสักหน่อย แต่กลายเป็นเงิบเองซะงั้นเลยสำหรับอาซาร์ในจังหวะที่เขาพาบอลขึ้นไปถึงหน้าเขตโทษของแมนฯซิตี้ เห็นเพื่อนเติมขึ้นด้านซ้ายเลยจัดการหลอกตัดเข้ากลาง แล้วสลับหวังตอกส้นจ่ายให้เพื่อนเล่นต่อไป แต่กดสูตรผิด ไปตอกโดนขาตัวเองสะดุดล้มหน้าคะมำ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและเฮแซวของแฟน "เรือใบ" ในสนาม
ผ่านครึ่งชั่วโมงไป ตอนนี้เชลซีมีโอกาสที่จะทำเกมขึ้นไปกดดันกองหลังแมนฯซิตี้ได้บ้างแล้ว มีทั้งจังหวะยิงของแลมพาร์ดที่ติดเซฟของปันติลิมง รวมทั้งลูกยิงไกลหนักแน่นของอาซาร์ที่ยังไม่ผ่านมือของนายทวารมือสองของแมนฯซิตี้อยู่ดี
นาทีที่ 40 แมนฯซิตี้มีเงิบเลย เพราะพวกเขากำลังกลับมาครองเกมได้อย่างใจคิด แต่ดันไปสกัดกันพลาดเคลียร์ไม่ขาด จนบอลไปอยู่ที่รามิเรส หลอกจะยิงนอกกรอบ ก่อนยึกแล้วแทงบอลจ่ายทะลุไปถึงตอร์เรสที่จิ้มบอลสวนปันติลิมงเข้าไปอย่างเฉียบขาด เชลซีขึ้นนำแล้ว 1-0
อีก 2 นาทีต่อมา เกมมันพลิกชนิดที่แฟนบอลในสนามยังเคี้ยวฟิช แอนด์ ชิพในปากยังไม่หมด เชลซีก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คงจะเหนื่อยหนักในครึ่งหลังแน่ เมื่ออีวาโนวิชไปเข้าบอลโคตรดุใส่ผู้เล่นแมนฯซิตี้ ขาคู่ยันลอยแม้ว่าจะไม่สูงมาก แต่ดูแล้วอันตาย ผู้ตัดสินเลยควักใบแดงให้ทันที เชลซีแม้จะนำอยู่แต่เหลือ 10 คนแล้วในตอนนี้
จบ 45 นาทีแรก เกมนี้ยังอีกยาวนานนักสำหรับเชลซี เพราะแม้ว่าพวกเขาจะนำอยุ่ แต่คงต้องวิ่งกินตับแล่บในครึ่งหลังเพราะมีผู้เล่นน้อยกว่าและมันชินี่คงไม่พลาดที่จะฉวยโอกาสนี้ในการทำให้ลูกทีมได้เปรียบเป็นที่สุดอย่างแน่นอน
ต่อมาในครึ่งหลัง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ มีการปรับทัพกันนิดหน่อยด้วยการถอดซาวิซซึ่งมีใบเหลืองติดอยู่แล้วออกไปและส่งกลิชี่ลงไปเล่นแทน ดูแล้วคงจะใช้จังหวะการเติมจากแนวรับลุยขึ้นไปสองข้างเลย
นาทีที่ 53 เป็นฮีโร่ของทีมไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหนจริงๆสำหรับยาย่า เมื่อเขามาเป็นคนทำประตูตีเสมอได้ จากจังหวะที่เทอร์รี่สกัดออกมาไม่ขาด เข้าทางของอดีตแข้งบาร์เซโลน/า จัดการแต่งก่อนหนึ่งจังหวะแล้วซัดเน้นๆ ส่งบอลผ่านบล็อกสองตัว รวมถึงมือของเช็กเข้าไปเสียบเสาแรก เกมเสมอกัน 1-1 โมเมนตั้มเปลี่ยนไปทั้งหน้าแล้ว
อีก 6 นาทีต่อมา ในที่สุดเกมก็พลิกสมบูรณ์แบบแล้ว เมื่อแมนฯซิตี้มาได้ประตูขึ้นนำ จากความยอดเยี่ยมของเตเบซที่แตะบอลหาจังหวะยิงหนีกองหลังของเชลซีไปได้ ก่อนที่จะหวดบอลติดไซด์พุ่งเสียบเข้าไปที่สามเหลี่ยม ชนิดที่เช็กได้แต่ยืนมองตาละห้อย แมนฯซิตี้นำ 2-1
นาทีที่ 65 กลายเป็นเกมขาดไปแล้วในตอนนี้ เพราะเชลซีตั้งขบวนกันไม่ทัน เลยเจอแมนฯซิตี้โหมเข้าใส่ ก่อนที่โคลารอฟจะเติมขึ้นไปเปิดจากทางข้าง นาสรี่พุ่งเข้าชาร์จแบบกังฟูนิดๆ แต่ก็ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่าย เป็นอีกครั้งที่เช็กหมดสิทธิ์รับ สกอร์ยาวไป 3-1 เหลือเวลาอีกเยอะซะด้วย
นาทีที่ 71 ถือว่าได้เจอของจริงกับชีวิตในการค้าแข้งบนเกาะอังกฤษไปเลยสำหรับอาซาร์วันนี้ที่ต้องยอมรับเลยว่าเขาคงต้องปรับตัวอีกมากหากจะเปรี้ยงในพรีเมียร์ ลีกและถูกถอดออกไป โดยเชลซีส่งเบอร์ทรานด์ลงไปเล่นแทน
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เป็นงานที่เกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเชลซีที่จะกลับมาในเกมนี้ เพราะแมนฯซิตี้เป็นฝ่ายครองบอลได้อยู่ตลอดและพวกเขาได้แค่ลงไปแพ็คเกมรับให้แน่นเท่านั้น เรื่องเกมรุกนี่แทบไม่ต้องพูดถึงเลยก็ว่าได้
จะตัวไหนก็โหดไม่แพ้กันจริงๆสำหรับแมนฯซิตี้ที่ถอดเอานาสรี่ผู้ทำประตูในเกมนี้ออกไปและส่งซิลบาลงไปเล่นแทน ดีกรีไม่ได้ต่างกันเลยสำหรับฝีเท้าของทั้งคู่
นาทีที่ 80 ความผิดพลาดเกิดขึ้นทำให้เชลซีมีลุ้นที่จะยื้อต่อแล้ว เมื่อปันติลิมงไปรับลูกยิงไกลแบบเอื้อยๆของสเตอร์ริดจ์กระฉอกออกมา แถมยังลุกช้าเป็นเต่า เลยโดนเบอร์ทรานด์พุ่งเข้าชาร์จส่งบอลเข้าประตูไป เชลซีมีหวังขึ้นมา 3-2 แล้ว
จังหวะนี้เบอร์ทรานด์โดนใบเหลืองไปด้วย เพราะไปผลักอกปันติลิมงที่เล่นแง่ไม่ยอมคืนบอลให้ไปเล่นเร็วๆ รวมทั้งนายด่านของ "เรือใบ" ก็โดนด้วยเหมือนกัน
แต่ช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่มีการทำประตูกันได้เพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้สุดท้ายเป็น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกเกม เอาชนะ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ไปด้วยสกอร์ 3-2 ประตู เดิมยิ้มแฉ่งคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ได้ในรอบ 40 ปี ถือว่าเป็นการเปิดฤดูกาลที่ดีสำหรับพวกเขาเลย