หัวหอกพ่อเลี้ยง "ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์" กลายเป็นตัวทีเด็ดเมื่อซัดระตูชัยให้ "สหราชอาณาจักร" ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับ "อุรุกวัย" 1-0 ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มเอไปเจอกับ "เกาหลีใต้" ในรอบควอเตอร์ไฟน่อล ส่วน "อุรุกวัย" ก็ต้องอกหักตกรอบถูก "เซเนกัล" ปาดหน้าชิงที่สองไปครอง
ฟุตบอลโอลิมปิกชาย นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม
วันพุธที่ 1 สิงหาคม 2555
สหราชอาณาจักร 1 - 0 อุรุกวัย เปิดฉากเริ่มเกมมาเพียงแค่ 11 นาที "สหราชอาณาจักร" ได้จังหวะทักทายก่อนเมื่อเบลลามี่รับบอลมาจากสเตอร์ริดจ์ก่อนเอาไปซัดติดเซฟของกัมปันญ่านายด่านของอุรุกวัย แต่นับเป็นการเริ่มต้นเกมที่ดีไม่น้อยสำหรับเจ้าภาพ
นาที 27 การประสานของแข้งเวลส์เกือบทำให้เจ้าภาพได้ประตูเมื่อเบลลามี่เล่นงานใส่แนวรบอุรุกวัยทางด้านขวาก่อนเปิดให้แรมซี่ย์สอดเข้าไปยัดแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านเล่นเอากัมปันญ่าขวัญผวาแต่สุดท้ายก็แค่ผ่านหน้าปากประตูไป
อีกสามนาทีถัดมาซัวเรซจึงได้ฤกษ์ปล่อยของมั้งเมื่อหาพื้นที่จนได้กระทุงในกรอบเขตโทษทว่าริชาร์ดส์ที่ไหวตัวกลับมาทันจึงล้มตัวบล็อกได้ดีทำให้บอลหลุดไปเข้าทางบัตแลนด์รับสบายไม่มีพลาด
รูปเกมส่วนใหญ่เกรตบริเทนยังทำได้ดีกว่าแล้วมีโอกาสจบสกอร์อีกครั้งในนาที 40 จากจังหวะลูกเตะมุมที่เคลฟเวอร์ลี่ย์ครอสไปบริเวณหน้าเขตโทษให้แรมซี่ย์เอี้ยวตัววอลเล่ย์ส่งบอลหลุดกรอบประตูไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกซินแคลร์แทงบอลให้อัลเล่นเข้าไปโชว์สเต็ปล็อกหลบแข้งอุรุกวัยในเขตโทษด้านซ้ายถึงสองรายก่อนเปิดไปยังเสาไกลให้สเตอร์ริดจ์ชาร์จเข้าไปให้สหราชอาณาจักรขึ้นนำไปก่อน 1-0
กลับมาเล่นกันต่อในช่วงของครึ่งหลัง ในนาทีที่ 53 อุรุกวัยเกือบตีเสมอในจังหวะที่ซัวเรซแย่งบอลจากคอลเกอร์ได้ก่อนกระชากหลบกองหลังสหราชอาณาจักรเข้าไปยิงด้วยอีซ้ายทว่าบัตแลนด์ไม่อยู่เฉยปรี่ออกมาบล็อกคาเท้าได้ทัน
เท่านั้นไม่พอเพราะอุรุกวัยยังลุยแหลกเต็มหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง นาที 65 บัตแลนด์สบโอกาสกระทุ้งบอลไปที่เสาขวาแต่บัตแลนด์ป้องกันเอาไว้ได้แล้วทางคาวานี่พยายามเข้าซ้ำแต่มุมที่เหลือน้อยทำให้เขากดไปเข้าข้างตาข่าย
แต่นาทีถัดมาจังหวะสวนกลับของเกรตบริเทนเกือบได้เรื่องเมื่อบอลเริ่มต้นจากเบลลามี่ไปเคลฟเวอร์ลี่ย์, แรมซี่ย์และออกข้างไปยังซินแคลร์ ก่อนที่เทย์เลอร์จะลากบอลจากด้านขวาตัดเข้าในมาปั่นด้วยซ้ายหลุดกรอบไปนิดนึง
นาที 87 สหราชอาณาจักรได้สวนกลับจากจังหวะฟรีคิกโดยเป็นสเตอร์ริดจ์ที่ลากบอลขึ้นไปทางด้านขวาแล้วมีโรสตามมาช่วยทว่าเขากลับไม่สนใจก่อนเลือกยิงเองไปโดนกัมปันญ่าบินปัดบอลออกหลังประตูไปได้
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย อุรุกวัย พยายามฮึดสู้อย่างเต็มที่จน รามิเรซ ได้โอกาสตะบันจากแถวหัวกระโหลกไปชนคานทั้งที่ บัตแลนด์ หมดสิทธิเซฟไปแล้ว จบเกม "สหราชอาณาจักร" เลยเบียดชนะไป 1-0 ผ่านเข้าไปชนกับ "เกาหลีใต้" ในรอบควอเตอร์ไฟน่อล ส่วน "จอมโหด" อุรุกวัย ต้องอกหักตกรอบเมื่อถูก "เซเนกัล" ปาดหน้าคว้าที่สองของกลุ่มไปกิน
ผู้เขียน
หัวข้อ: "สเตอร์ริดจ์" ซัดโทน~!! พา "GB" พิชิตชัยเหนือ "อุรุกวัย" ซิวแชมป์กลุ่ม~!! (อ่าน 831 ครั้ง)
