พิมพ์

[Armin]

"สหราชอาณาจักร" ประเดิมเกมโอลิมปิคในฐานะเจ้าภาพ ชักจะดูแหม่งๆซะแล้วหลังจากที่อุตส่าห์พยายามขึ้นนำไปก่อนจากประตูของ "เคร็ก เบลลามี่" แต่ก็ดันไปผ่อนเกมเน้นรับจนพลาดท่าไปเองเจอ "เซเนกัล" ที่ไล่ตีเสมอท้ายเกมไป 1-1 แบ่งคนละแต้ม



ฟุตบอลโอลิมปิคกลุ่มเอ
สนาม  โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด
วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2555
สหราชอาณาจักร 1 - 1 เซเนกัล

"สหราชอาณาจักร" ประเดิมฟุตบอลชายในโอลิมปิคเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1962 โดยเกมนี้เลือกให้ "บัตแลนด์" เป็นโกล์มือหนึ่งและส่งแข้งอายุเกินทั้ง "ริชาร์ด, กิ๊กส์ และ เบลลามี่" ลงหมด รวมถึง "อัลเลน" เป้าหมายของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลด้วย

ส่วนทางด้านของ "เ้ซเนกัล" มาลุยโอลิมปิคเป็นครั้งแรกของพวกเขาและผลงานสองนัดหลังของพวกเขาที่อุ่นเครื่องมาก็ใช้ได้เลย เอาชนะ "สวิตเซอร์แลนด์" ไป 1-0 ตามด้วยการปราบ "กระทิงดุ" สเปน 2-0

             เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงครึ่งแรกทั้งสองฝ่ายผลัดกันครองบอลแต่ดูว่าทาง "เซเนกัลมา" แบบร้อนแรงกว่าแอบมีลุ้นให้เสียวเล่นๆจากจังหวะเปิดจากซ้ายเข้าไปที่เสาสองให้ "บาลเด้" โหม่งแต่ก็ไปติดตัวบล็อก

ผ่านไป 15 นาทีเกมก็ยังไม่ได้เร่งจังหวะอะไรกันมากคราวนี้ฝั่งสหราชอาณาจักรได้ครองบอลมากกว่าเดิมแล้วพยายามหาช่องเจาะเข้าไปทำใประตูแต่โอกาสจะๆก็ยังไม่มีเท่าไหร่นัก

แต่แล้วอีก 5 นาทีถัดมาเจ้าภาพก็ได้สิ่งที่ต้องการเรียบร้อยจากจังหวะมาได้ฟรีคิกทางริมเส้นขวา กิ๊กส์อาสารับหน้าที่เปิดเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ บอลลอยไปที่เสาสองให้กับเคาล์เกอร์โหม่งบอลแฉลบแต่ยังมาเข้าทางเบลลามี่ได้วอลเล่ย์สวนทางส่งบอลเข้าประตูไป สหราชอาณาจักรออกนำแล้ว 1-0

ถัดมามีใจหายกันยกเกาะหลังบัตแลนด์เกือบทำเพื่อนงานเข้าจากจังหวะที่จะไปเตะเคลียร์หน้าประตูแล้วเตะไม่ดีไปเข้าทางของมาเน่เต็มๆ จับบอลไกลไปนิดก่อนตามมากระดกบอลข้ามตัวบัตแลนด์ไปแต่ก็ไม่ตรงกรอบ

ผ่านมาครึ่งชั่วโมงเซเนกัลก็มีช่วงที่ได้โอกาสบุกต่อเนื่องเช่นกันใช้ความเร็วและความคล่องตัวลุยเข้าใส่แนวรับ GB ซึ่งพอทำอันตรายได้เหมือนกันแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่ได้โอกาสมากนัก บาลเด้ส่องไกลไปทีก็ข้ามคาน

เกมมาถึงช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 40 สหราชอาณาจักรมีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้งนึงจากจังหวะฟาวล์กลางสนามและกิ๊กส์เล่นเร็วเปิดบอลยาวขึ้นหน้ามาเลย แนวรับเซเนกัลสกัดพลาดมาเข้าทางเบลลามี่ยิงสวนมาเน่ที่วิ่งออกมาจะตัดบอลไปแต่ก็ไม่ตรงกรอบอยู่ดี

             กลับมาต่อกันในช่วงของครึ่งหลัง "เซเนกัล" น่าจะได้ประตูตีเสมอจริงๆจากการจ่ายบอลแทงทะลุช่องเข้าเขตโทษไป มีบาลเด้เจ้าเก่าโฉบมายิงยัดเสาแรกแต่ต้องยกนิ้วให้บัตแลนด์ปฏิกิริยาไวล้มตัวเซฟไว้ได้

นาที 55 เกมฝั่งเจ้าบ้านตื้อไปแล้วทำเกมบุกไม่ค่อยไปถึงกรอบเขตโทษเซเนกัลเท่าไหร่ กลับกันด้านเซเนกัลยังทำเกมบุกเข้าใส่ได้เรื่อยๆและก็เกือบได้ประตูอีกจากบอลออกไปทางซ้ายให้ซิสซ์ลากขึ้นมาแล้วตัดเข้าในก่อนสับไกแต่บัตแลนด์ทุบไว้ได้เช่นเคย

มานาที 64 ครึ่งหลังนานๆทีถึงจะเป็นสหราชอาณาจักรได้ลุ้นกับเขาบ้างเป็นบอลที่ออกมาทางซ้ายให้กับโรส ก่อนจะดวลเดี่ยวกับแนวรับกระชากไปเส้นหลังแล้วเปิดเข้าไปตรงกลาง มาเน่บินปัดไว้ได้นิดนึง เบลลามี่ที่เสาสองเลยเสียจังหวะถอยยิงไม่ถนัดบอลเบาก่อนโดนเตะทิ้งออกมา

เกมมีจังหวะหนักกันค่อนข้างเยอะคราวนี้เบลลามี่โดนอัดเต็มๆ จนเทย์เลอร์ไม่พอใจมีโวยจนฝั่งเซเนกัลเองก็ไม่ใช่ย่อยเดินเข้ามาเถียงกันยกใหญ่จนมีชุลมุนเล็กน้อยก่อนจะแยกๆกันออกไป

เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้ายสหราชอาณาจักรมัวแต่จะครองบอลสุดท้ายเจอบอลวิ่งสู้ฟัดเซเนกัลเอาคืนจนได้จากเกมขึ้นทางริมเส้นขวาให้กับมาเน่ก่อนจะโชว์คิลเลอร์พาส จ่ายจากระยะ 30 กว่าหลาแหวกแนวรับเจ้าภาพเข้าเขตโทษไปให้โคนาเต้โฉบมายิงชิพผ่านตัวบัตแลนด์ส่งบอลนอนก้นตาข่าย เซเนกัลไล่ตีเสมอเป็น 1-1

ก่อนจะหมดเวลา 2 นาทีสหราชอาณาจักรเกือบทำได้กลับมานำแล้วเป็นการขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายที่แรมซี่ย์ก่อนจะปาดเข้าไปตรงกลางให้กับซอร์เดลล์วิ่งมายิงเน้นๆแต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างบอลชนคานเต็มๆ

แฟนเจ้าภาพเสียววาบกันทั้งสนามอีกแล้วหลังเกือบจะโดนเซเนกัลพลิกนำจากบอลเปิดเข้าไปที่หน้าเขตโทษให้มาเน่ตวัดออกออกไปทางขวาให้โคนาเต้เปิดกลับมาที่จุดนัดพบมาเน่โหม่งแต่ก็คุมทางไม่ได้บอลหลุดกรอบ

จบเกม "สหราชอาญาจักร" นั้นประเดิมเกมแรกไปแบบไม่สวยเลยเสมอกับ "เซเนกัล" ไป 1-1 เกมหน้าทางเจ้าภาพจะได้เจอกับ "ยูเออี" ที่เพิ่งแพ้มา ส่วน "เซเนกัล" จะต้องไปดวลกับ "อุรุกวัย"