ผู้เขียน หัวข้อ: "อินทรีเหล็ก" ผงาดง้ำ~!! ไล่อัด "กรีซ" อ่วม~!! 4-2 ลิ่วตัดเชือก~!!  (อ่าน 1501 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2012 ได้สำเร็จ หลังจากที่สามารถไล่บดเอาชนะ "กรีซ" ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 4-2 แม้ต้องมีช่วงระทึกขวัญบ้างก็ตาม



ฟุตบอลยูโร 2012 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เยอรมัน 4-2 กรีซ
สนาม พีจีอี อารีน่า

                เกมที่ 2 สำหรับรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลยูโร 2012 ถึงคิวทีมเต็งแชมป์อย่าง "อินทรีเหล็ก" แชมป์กลุ่มบี พบกับ "กรีซ" อดีตแชมป์ยูโร 2004 รองแชมป์ของกลุ่ม เอ ที่ผ่านเข้ารอบมาได้แบบเซอร์ไพรซ์สุดๆ

                สำหรับนัดนี้ทางด้าน "โยอัคคิม เลิฟ" บุนเดสเทรนเนอร์ สร้างเซอร์ไพรซ์ด้วยการถอด 3 แนวรุกที่ใช้งานในรอบแรกออกหมดทั้งมาริโอ โกเมซ, ลูคัส โพดอลสกี้ และโธมัส มุลเลอร์ และมาใช้ชุด มิโรสลาฟ โคลเซ่, อันเดรีย ชูร์เล่ และมาร์โก รอยส์ แทน เรียกว่างงกันทุกฝ่าย ส่วนกรีซ ไม่มีจอร์จอส คารากูนิส กัปตันทีมที่ติดโทษแบนในนัดนี้พอดี

                เริ่มเกมมา "เยอรมัน" เป็นฝ่ายเปิดฉากลถ่มใส่ทันที และเกือบได้เฮตั้งแต่นาทีที่ 4 เมื่อ ซามี เคดิร่า สบโอกาสลองส่องไกลหน้าเขตโทษ บอลกระฉอกออกมาเข้าทาง โคลเซ่ ซ้ำเข้าไปแต่เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

"กรีซ" พยายามโต้ตอบโดย กริกอริส มากอส ยิงไกลแต่ก็เบาและตรงตัว มานูเอล นอยเออร์ ซึ่งหลังจากนั้น เยอรมัน เป็นฝ่ายปูพรมถล่มแหลกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ทิ้งขว้างโอกาสดีๆไปมากมาย

นาทีที่ 24 ทีมของโยกี้ เลิฟ น่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากการประสานงานระหว่าง โคลเซ่ ทำชิ่งให้ รอยส์ ก่อนจะแตะให้ เมซุต โอซิล ได้หลุดเข้าเขตโทษก่อนแปเน้นๆแตว่าติดตัว ซิฟาคิส มือหนึงกรีซ

ซิฟาคิส ยังต้องทำงานหนักกับลูกยิงเต็มข้อของ รอยส์ ที่แฉลบเพื่อนก่อนทำให้ต้องผวาปัดออกหลังไป ก่อนที่ โอซิล จะกระชากบอลเข้ามาแล้วไหลคืนให้เคดิร่า ซัดไม่ต้องจับ ซิฟาคิส รับไม่อยู่แต่เพื่อนยังช่วยเคลียร์ทิ้งได้

จนกระทั่งนาทีที่ 39 เยอรมัน มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมลากตัดขึ้นมาก่อนซัดไกลจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งติดไซด์หนีมือซิฟาคิส เข้าสามเหลี่ยมอย่างอลังการ และเป็นประตูโทนในครึ่งแรกด้วย

              ครึ่งหลัง "กรีซ" มีการแก้เกมโดยส่ง ธีโอฟานิส เกคาส และจอร์จอส โพตาคิส ลงมาแทน นินิส และซาเวลาส ซึ่งเกมไม่ได้ดูดีขึ้น แต่เยอรมันเองที่เล่นกันผิดพลาดเองมากขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งนาทีที่ 55 กรีซ ก็มาไล่ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะโต้กลับเร็วหลังตัดบอลได้ในแดนเยอรมัน เป็น ดิมิทริส ซัลปินกิดิส ได้บอลทางขวาก่อนเปิดใส่พานมาให้ จอร์จอส ซามาราส เข้าฮอส ณ จุดนัดพบอย่างสวยงาม

กรีซ ได้ใจสุดๆเพราะคิดว่าจะได้สร้างเทพนิยายบทใหม่เหมือนในปี 2004 แต่ว่า เยอรมัน โชว์จิตใจเข้มแข็งกลับมาครองเกมเหนือกว่าและไล่ยิงอย่างสนุกเท้า

โดยนาทีที่ 61 ประตูสำคัญของเกมมาจากจัหงวะที่ เฌอโรม บัวเต็ง ได้บอลทางขวาก่อนเปิดเข้ามาถึง เคดิเร่า กระโดดยิงด้วยขวาเสียบสามเหลี่ยมตาข่ายแทบขาด ทำให้โมเมนตัมของเกมกลับมาทางเยอรมันอีกครัง

จากนั้นนาทีที่ 68 เมซุต โอซิล เปิดลูกเตะมุมเข้ามาถึง โคลเซ่ พิสูจน์ความเก๋าในเวทีระดับชาติด้วยการทะยานโขกเข้าไปสมราคาจ้าวเวหาตัวจริง สกอร์หนีเป็น 3-1 แล้ว

เยอรมัน มายิงหนีเป็น 4-1 อีกในนาทีที่ 74 จากจังหวะที่ เคดิร่า แทงบอลให้ โคลเซ่ หลุดเข้าเขตโทษแต่จิ้มบอลติดนายทวาร ยังดีที่มาเข้าทาง รอยส์ ยิงสวนตูมเดียวเสยใต้คานเข้าไปแบบสุดมัน

สกอร์นี้ เยอรมัน มั่นใจว่าเข้ารอบแน่ทำให้ส่ง โกเมซ และ มาริโอ เกิตเซ่ ลงสนามมาโดยยังบุกเป็นระยะ แต่ก่อนหมดเวลา 2 นาที กรีซ มาได้ประตูปลอบจจากลูกจุดโทษ ซัลปินกิดิส ยิงเข้าไปให้ กรีซ แพ้ไปในเกมนี้ 4-2 ตกรอบไปตามระเบียบ ส่วนเยอรมัน ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศอีกครั้ง รอพบผู้ชนะระหว่าง อิตาลี และอังกฤษ
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา