ถึงแม้เค้าจะหายไปเกือบทั้งเกมแต่ก็โผล่มาเล่นท่ายากยิงประตูสุดสวยให้กับ อังกฤษ เอาชนะ สวีเดน ได้เป็นครั้งแรกหน้าตาเฉย สำหรับ "เวลเบ็ค" ที่ไขว้ตอกส้นทำประตูชัยในช่วงท้ายเกม ทำให้ "สิงห์โตคำราม" ซิวไปแบบสุดเสียว 3-2 เกมสุดท้ายขอแค่มีแต้มก็เข้ารอบ ส่วนทีม "ไวกิ้ง" ชอกช้ำต้องโบกมือลายูโรไปในที่สุด
ยูโร 2012 กลุ่ม ดี
วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน 2555
สนาม เคียฟ โอลิมปิก สเตเดี๊ยม
สวีเดน 2 - 3 อังกฤษ เปิดฉากเริ่มเกมมา ในนาทีที่ 7 หลังจากที่อังกฤษเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าอยู่พอสมควร พวกเขาก็มามีลุ้นโอกาสแรกกับจังหวะยิงไกลของปาร์คเกอร์ที่ซัดได้น้ำหนักน่ารักน่าชัง แต่บอลไม่หนีมือของอีแซ็คส์สันที่พุ่งทะยานปัดสองมือทิ้งออกไปได้
เข้าสู่ 15 นาทีแรกของเกม ตอนนี้กลายเป็นว่ากระแสหันหน้าไปหาทางสวีเดนที่ได้โอก่าเซ็ตเกมกันบ้าง เพียงแต่ขึ้นไปเกินครึ่งสนามได้ไม่มาก สุดท้ายก็เจอแนวรับของอังกฤษกันเอาไว้ได้หมด
นาทีที่ 20 ต้องบอกว่าเกมนี้ค่อนข้างทันกันพอสมควรสำหรับทั้งสองทีม เลยทำให้เกมมันดูค่อนข้างน่าอึดอัด จนอิบราฮิโมวิชที่วันนี้ยืนเป็นหน้าตัวต่ำต้องลองส่องไกลไปที่เสาแรกดู แต่ไม่ผ่านมือของฮาร์ทซึ่งอ่านไว้เรียบร้อย ตะครุบไม่มีพลาดแต่อย่างใด
นาทีที่ 26 เต็มหัวแบบสุดๆไปเลยสำหรับจังหวะนี้ของแคร์โรลล์ เมื่อเจอร์ราร์ดเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูลโยนบอลจากทางริมเส้นขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้แคร์โรลล์ได้ลอยตัวขึ้นโหม่งสะบัดแบบเต็มเหน่ง บอลพุ่งผ่านมือของอีแซ็คส์สันที่พุ่งยังไงก็ไม่ไหวแล้วจ้า อังกฤษขึ้นนำแบบสะใจแฟนๆ 1-0
ครึ่งชั่วโมงแรกผ่านพ้น ดูเหมือนว่าสวีเดนจะมีปัญหาในการตั้งเกมบุกหาช่องเจาะแนวรับของอังกฤษอยู่เหมือนกัน เพราะว่าพวกเขายังไม่สามารถทะลวงแนวรับของ "สิงโตคำราม" เข้าไปหาโอกาสเหมาะๆได้สักทีเลย
นาทีที่ 35 ถือว่าเป็นจังหวะที่ตัดสินใจได้ไม่ดีเท่าไหร่สำหรับยัง ในจังหวะที่เพื่อนอุตส่าห์ส่งบอลให้เขาหลุดทะลุกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษได้แล้ว แต่ด้วยการที่จับบอลจังหวะแรกไม่ดี เลยกลายเป็นว่าทำให้ต้องมาแต่งจังหวะสองและมีเพื่อนวิ่งเติมเข้าไปตรงกลาง แต่เจ้าตัวตัดสินใจหลอกยิงเสาแรก บอลพุ่งออกหลังแบบไม่ได้หลุดอะไร ทำให้แคร์โรลล์กับเวลเบ็คประสานเสียงโวยกันใหญ่ว่าทำไมไม่จ่ายแว๊
อีก 3 นาทีต่อมา แฟนบอลขำกันเบาๆ เพราะจังหวะที่ผู้เล่นของอังกฤษเบียดกับแข้งสวีเดนจนล้มไปแล้วกรรมการเปาฟาวล์ไปแล้ว แต่แคร์โรลล์เหมือนตามน้ำนิดหน่อย วิ่งมาหวดบอลไปข้างหน้า แต่กลับโดนผู้ตัดสินเข้าเต็มรัก จนต้องเข้าไปขอโทษขอโพยยกใหญ่ จบ 45 นาทีแรก เป็นอังกฤษที่ชิงขึ้นนำสวีเดนไปได้ก่อน 1-0 แต่ก็ต้องดูว่าพวกเขาจะรักษาสกอร์นี้ไปได้เรื่อยจนจบ 90 นาทีหรือไม่ เพราะเกมที่แล้วก็เฉื่อยกันไปเองจนโดนตีเสมอ
ต่อมาในช่วงของครึ่งหลัง ในนาทีที่ 50 พูดกันไม่ทันขาดคำสำหรับผู้บรรยายว่าอังกฤษอาจจะโดนตีเสมอก็มาโดนเข้าให้จริงๆเลย จากจังหวะที่สวีเดนได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ อิบราฮิโมวิชซัดไปอัดกำแพง ก่อนที่เขาจะตามเข้าซ้ำดาบสอง บอลพุ่งเข้าทางเมลเบิร์กที่ตั้งท่าซัดเน้นๆ จังหวะแรกติดเซฟของฮาร์ท แต่ดันไปโดนตัวจอห์นสันซึ่งเขายืนอยู่ต่ำสุดทำให้เมลเบิร์กไม่ล้ำหน้าเด้งเข้าประตูไป แม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามสกัดออกมาแต่ไม่สำเร็จ สวีเดนตีเสมอสำเร็จ 1-1
นาทีที่ 57 เกือบโดนอีกลูกแล้วสำหรับอังกฤษ เมื่อมาเจอการจ่ายบอลสุดเฉียบของสวีเดนที่พุ่งพรวดเดียวไปให้กับเอ็ล์มซึ่งเติมพร้อมหลุดเข้าไปล่อเป้าแบบเต็มๆ แต่เป็นจอห์นที่พุ่งมาสไลด์ตัดบอลทิ้งไปได้ก่อน
อีก 2 นาทีต่อมา ช็อกแฟนผู้ดีแบบเต็มๆ เพราะครึ่งแรกนำอยู่ดีๆ แต่พอลงมาครึ่งหลังทำอะไรเขาไม่ได้ แถมยังมาโดนยิงแซงหน้าตาเฉย จากจังหวะฟรีคิกไหลของลาร์สสันที่ปั่นบอลพุ่งโค้งสวยสุดๆ ข้ามกองหลังของ "สิงโตคำราม" ที่ประกบตัวกับหลวมโครก จนปล่อยให้เมลเบิร์กได้เทคตัวขึ้นโหม่งโล่งสุดยิด บอลพุ่งผ่านฮาร์ทซึ่งได้แน่ทำท่าสารภาพ สวีเดนพลิกนำ 2-1 จากจังหวะนี้ทำให้อังกฤษต้องปรับเกมด่วน ส่งวัลค็อตต์ที่มีความเร็วและคล่องแคล่วลงมาแทนมิลเนอร์
นาทีที่ 64 เป็นลูกยิงสุดอลังของวัลค็อตต์เลยทีเดียว เมื่อเขาเพิ่งตะลงสนามได้ไม่นาน แต่ก็มาทำประตูสุดสวยจากจังหวะที่อังกฤษน่าจะขึ้นนำจากลูกโหม่งเผาขนของเทอร์รี่ที่ไปติดอีแซ็คส์สัน ก่อนจะได้เตะมุมแล้วบอลหลุดไปถึงวัลค็อตต์ที่แต่งบอลนอกกรอบ แล้วซัดด้วยขวาเข้าข้อสุดตีน บอลพุ่งโค้งขึ้นก่อนที่จะฮุคเบี่ยงอย่างเร็ว ชนิดที่อีแซ็คส์สันได้แต่ทำท่าหงายเงิบมองบอลเข้าประตูไป อังกฤษตีเจ๊า 2-2
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ด้วยการที่ตอนนี้สกอร์เท่ากัน แถมเกมก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไร ทำให้แฟนบอลรู้สึกบีบหัวใจกันขึ้นมาพอสมควร เพราะประตูต่อไปถ้าหากฝั่งไหนทำได้ ก็อาจจะกลายเป็นประตูชัยขึ้นมาเลยก็ได้
นาทีที่ 75 หรือนาทีเดียวกันนั่นเอง สวีเดนน่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ในจังหวะที่โอลส์สันจัดการลากบอลผ่านทั้งจอห์นสันและวัลค็อตต์ไปจนถึงสุดเส้นหลัง ก่อนที่จะหักกลับเข้าไปในกรอบเขตโทษให้คาลสตรอมที่เติมขึ้นมาได้ซัด แต่บอลมันโดนไม่ดีเลยพุ่งหลุดกรอบออกไปไกลพอควร
อีก 2 นาทีต่อมา สวีเดนบุกมาเป็นชุดๆแล้ว คราวนี้เป็นอิบราฮิโมวิชที่ได้บอลนอกกรอบ ก่อนที่จะชาร์จพลังแล้วใส่ซะเต็มแรง ยิงบอลพุ่งเหมือนจะเสียบเข้าหาเสา แต่เป็นฮาร์ทที่บินไปปัดสองมือทิ้งออกหลังไปได้ทัน แต่ก็เกือบปัดไม่ออกเหมือนกัน
นาทีที่ 78 เป็นท่ายากที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาบังเกิดขึ้นในช่วงเวลาบีบหัวใจเช่นนี้ เมื่อวัลค็อตต์กระชากบอลหนีกองหลังของสวีเดนไปทางขวา แล้วจัดการตวัดกลับคืนไปหน้าประตู แม้ว่าเวลเบ็คจะโดนประกบชิดแล้วยังต้องหันหลังให้กับประตู แต่เขาก็จัดการเกี่ยวบอลตอกส้นด้วยเท้าขวา ส่งบอลผ่านมือของอีแซ็คส์สันเข้าไปเสียบเสาไกลสวยงามเหลือเชื่อ อังกฤษขึ้นนำอีกครั้ง 1-0
ช่วงท้ายเกมสวีเดนพยายามเร่งเกมของพวกเขาอย่างเต็มที่เพื่อที่จะต่อลมหายใจในการเล่นในยุโร 2012 ต่อไปให้ได้ แต่สุดท้ายไม่เป็นผล แถมอังกฤษยังเกือบได้ประตูที่ 4 จากจังหวะที่เจอร์ราร์ดได้ชาร์จยิงจ่อๆหน้าประตูติดเซฟของแีซ็คส์สันเหลือเชื่อ จบ 90 นาทีอังกฤษเป็นฝ่ายเอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-2
จากผลการแข่งขันในเกมนี้ ทำให้อังกฤษมีเพิ่มเป็น 4 คะแนน ต้องไปวัดกับยูเครนในเกมสุดท้าย ซึ่งพวกเขาขอแค่มีแต้มเดียวก็จะลอยลำผ่านเข้ารอบต่อไปได้แน่นอน ในขณะที่สวีเดนโบ๋เบ๋ต้องยอมรับสภาพตกรอบยูโร 2012 ไปแบบเศร้าใจ ไม่ต่างกับไอร์แลนด์ที่ชิงคว้าตั๋วกลับบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว