เส้นทางในยูโร 2012 ของเยอรมนียังไปได้สวยเมื่อเก็บชัยนัดสองด้วยการคว่ำฮอลแลนด์แบบมีเสียวในช่วงท้าย 2-1 มาริโอ โกเมซเหมาคนเดียวสองประตูทำให้เกมหน้าขอแค่มีแต้มก็การันตีการเข้ารอบควอเตอร์ไฟน่อลทันที ส่วน"อัศวินสีส้ม"สภาพดูไม่จืดจ่อม้วนเสื่อกลับบ้านอยู่รอมร่อ
ฟตบอลยูโร 2012 กลุ่มบี
วันพุธที่ 14 มิถุนายน 2555
เนเธอร์แลนด์ 1 - 2 เยอรมนี
สนาม โอบลาสนี่ สปอร์ต คอมเพล็กซ์, เมตาลิสต์ ฮอลแลนด์ต้องการสามคะแนนในเกมนี้เป็นอย่างมากหลังนัดก่อนพลิกพ่ายเดนมาร์กเฉย ข่าวดีคือโยริส มาไธจ์เซ่น สลัดคราบเดี้ยงลงมาจับคู่กับจอห์น ไฮติงก้าในแนวรับได้ ส่วนที่เหลือยืนพื้นนัดแรกมีโรบิน ฟาน เพอร์ซี่เป็นตัวความหวังส่วนคลาส-แยน ฮุนเตลาร์ยังต้องนั่งรอโอกาสต่อไป
เยอรมนียึดผู้เล่นหน้าเดิมจากเกมชนะโปรตุเกสไว้ทั้งหมด บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ผ่านการทดสอบความฟิตยืนบัญชาเกมแดนกลางร่วมกับซามี่ เคห์ดิร่าได้ตามปรกติ แนวรุกใช้เมซุต โอซิลปั้นเกมอยู่ด้านหลังมาริโอ โกเมซผู้ยิงประตูชัยในนัดที่แล้วตามเดิม
หลังผลัดกันขึ้นเกมอย่างระมัดระวังอยู่ 6 นาทีฮอลแลนด์ก็ได้ลุ้นจบสกอร์ก่อนจากจังหวะที่บอมเมลวางบอลยาวข้ามแนวรับเยอรมนีเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ฟาน เพอร์ซี่ควบตามเข้าไปยิงแต่นอยเออร์ออกมาบล็อกไว้ได้ทัน หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจโอซิลสบช่องลองยิงไกลไปชนโคนเสาก่อนที่สเตเคเลนเบิร์กเก็บบอลไว้ได้ทัน
นาที 11 "อินทรีเหล็ก"พาบอลโต้กลับเร็วขึ้นมาก่อนที่ร็อบเบนเห็นช่องสวรรค์เปิดอยู่ทางด้านขวาเลยแทงทะลุให้เพอร์ซี่สลัดหนีฮุมเมิลส์ตามเข้าไปกระหน่ำด้วยเท้าขวาแต่หักข้อมากไปจึงผ่านมือนอยเออร์หลุดเสาไกล
แต่แล้วนาที 24 กลับเป็นเยอรมนีที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในจังหวะลากบอลจากกราบขวาตัดเข้าในของมุลเลอร์ก่อนจ่ายมาให้ชไวน์สไตเกอร์แทงทะลุช่องให้โกเมซทะลุกับดักล้ำหน้าหมุนตัวพาบอลเข้าไปซัดสวนตัวสเตเคเลนเบิร์กตุงตาข่าย
พอถึงนาที 31 บัวเต็งผ่านบอลไปยังที่ว่างด้านขวาในจังหวะเดียวกับที่วิลเล่มส์หลงตำแหน่งเปิดโอกาสให้มุลเลอร์วิ่งตามไปเอาบอลมาเปิดเลียดมาที่กรอบ 6 หลาแต่โกเมซเจอไฮติงก้าบังทางไว้เลยชาร์จไม่ถึงบอล
สถานการณ์ของ"อัศวินสีส้ม"ยังไม่ดีขึ้นเมื่อนาที 36 วิลเล่มส์ไปพลาดท่าจนต้องตัดฟาวล์มุลเลอร์ทางกราบขวาแล้วก็เป็นโอซิลที่เปิดฟรีคิกเข้ามาให้บาดสตูเบอร์โหม่งเต็มกบาลไปโดนสเตเคเลนเบิร์กป้องกันออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ
อีกสองนาทีถัดมานอยเออร์เปิดบอลยาวจากหน้าประตูมาทางด้านขวาก่อนลงเอยด้วยการที่ชไวน์สไตเกอร์ไหลบอลให้โกเมซฉวยโอกาสที่วิลเล่มส์ฮุบเข้าด้านในไปกดหนีมือสเตเคเลนเบิร์กเสียบตาข่ายเสาไกลอย่างเด็ดขาดให้เยอรมนีทิ้งห่างฮอลแลนด์ 2-0 เมื่อจบครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลังฮอลแลนด์ปรับทัพด้วยการส่งฟาน เดอ ฟาร์ทกับฮุนเตลาร์ลงมาแทนบอมเมลและอเฟลลาย แต่ผ่านไป 6 นาทียังเป็น"อินทรีเหล็ก"ที่มีลุ้นประตูเมื่อฮุมเมิลส์ดอดขึ้นมากระชากแหวกแผงหลัง"อัศวินสีส้ม"จนได้ส่องไกลไปติดเซฟของสเตเคเลยเบิร์กแล้วเขายังวิ่งตามเข้าไปยิงซ้ำแต่นายด่านจากโรม่ายังลุกขึ้นมาปัดทิ้งออกหลังไปได้
นาที 58 "ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน"น่าได้ประตูตีไข่แตกแบบสุดๆเมื่อร็อบเบนเปิดบอลมาให้ฟาน เพอร์ซี่ได้วางเท้าซ้ายตะบันจากหน้ากรอบเขตโทษแบบเต็มข้อไปที่โคนเสาซ้ายแต่นอยเออร์ไวทายาทล้มตัวปัดออกหลังไปได้
อีกสี่นาทีถัดมาสไนจ์เดอร์กระชากบอลหนีบัวเต็งจากด้านซ้ายเข้าในมาปั่นบอลโค้งที่หน้ากรอบเขตโทษหนีมือสเตเคเลนเบิร์กไปได้แล้วแต่หลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้สถานการณ์ของฮอลแลนด์ยังลำบากต่อไป
แต่ฮอลแลนด์ก็ยังโหมเกมบุกอย่างหนักจนนาที 71 ร็อบเบนพาบอลทะลวงเข้ามาทางด้านขวาก่อนจ่ายมาให้สไนจ์เดอร์ที่อีกฝั่งของเขตโทษได้ซัลโวแต่"อินทรีเหล็ก"ต้องขอบคุณบัวเต็งที่พลีชีพพุ่งเข้ามาบล็อกได้ทันจนล้มลงไปกองวัดพื้น
อย่างไรก็ตามในนาที 72 หลังเยอรมนีเปลี่ยนเอาโกเมซออกแล้วส่งโคลเซ่ลงมาแทนแต่กลายเป็น"อัศวินสีส้ม"ที่ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1 เมื่อฟาน เพอร์ซี่รับบอลจากสไนจ์เดอร์ทางด้านซ้ายก่อนพลิกกระชากหนีฮุมเมิลส์ตัดเข้าในมากระทุ้งไกลด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัดลอดขาบาดสตูเบอร์ผ่านมือนอยเออร์เข้าไปตุงตาข่าย
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวสเตเคเลนเบิร์กทำเสียวเมื่อไม่ยอมเคลียร์บอลคืนหลังที่เพื่อนส่งมาทิ้งจนโดนโคลเซ่เข้ามาบีบยังดีที่บอลไม่ตรงกรอบประตูทำให้จบเกมเยอรมนีโค่นเอาชนะเนเธอร์แลนด์ 2-1 นัดหน้าขอแค่มีแต้มก็จะการันตีการเข้าไปเล่นในรอบควอเตอร์ไฟน่อลทันที ส่วน"อัศวินสีส้ม"โอกาสตกรอบสูงเหลือเกินเมื่อเตะมาสองนัดยังไม่มีสักแต้ม