เวสต์บรอมวิช - อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 13 พฤษภาคม 2555
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3, Star Sports Astro
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม
เวสต์บรอมวิช :
รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษคนใหม่ทำทีม ''เดอะ แบ็กกี้ส์'' เสมอกับ โบลตัน 2-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ในการเกมสั่งลาของ ฮ็อดจ์สัน วันอาทิตย์นี้ กัปตันทีม คริส บรันท์ มีอันต้องอดลงสนามช่วยทีมอย่างแน่นอน เพราะเพิ่งผ่าตัดต่อมทอนซิลมาหมาดๆ
กองกลางอีกรายอย่าง พอล ชาร์เนอร์ ส่อแววได้ลงสนามในเกมสุดท้ายให้ แบ็กกี้ส์ เพราะสัญญาจะหมดในซัมเมอร์นี้คงไม่ได้รับการต่อสัญญาอีกค่อนข้างแน่ ส่วนกองหน้า ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ (ขา) และปีก เจอโรม โธมัส (ป่วย) ต่างยังไม่แน่ว่าจะไหวหรือไม่ในการช่วยทีมไล่ล่าชัยชนะเพื่อลุ้นจบฤดูกาลด้วยอันดับท็อปเทน
อาร์เซน่อล :
เดอะ กันเนอร์ส ของผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส อาร์แซน เวนเกอร์ ขอแค่ชนะในนัดนี้ก็จะได้อันดับสามอย่างแน่นอนและหมายถึงตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก แบบชัวร์ๆ หลังสะดุดด้วยการถูก นอริช ยัน 3-3 ในนัดก่อน เวนเกอร์ มีลุ้นได้ตัว ธีโอ วัลค็อตต์ ปีกความเร็วสูงทีมชาติอังกฤษหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาช่วยทีมได้ แต่ฟูลแบ็ก บาการี่ ซาญ่า วืดแน่เพราะขาหักจนต้องเข้ารับการผ่าตัด และต้องอดช่วยทีมชาติฝรั่งเศสในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2012 รอบสุดท้ายด้วย กองหลังเยอรมัน แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ (ข้อเท้า) ตอบสนองได้ดีกับการรักษา ขณะที่กองกลาง อาบู ดิยาบี้ (น่อง), มิเกล อาร์เตต้า (ข้อเท้า) และ แจ็ค วิลเชียร์ (ข้อเท้า) ชวดแน่ ส่วนดาวซัลโวประจำทีม โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ พร้อมออกสตาร์ตเช่นเดิม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวสต์บรอมวิช :
(4-4-2) : เบน ฟอสเตอร์, บิลลี่ โจนส์, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, โยนาส โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์, เกรแฮม ดอร์แรนส์, พอล ชาร์เนอร์, ยุสซูฟ มูลัมบู, เจอโรม โธมัส, มาร์ก อองตวน ฟอร์กตูเน่, ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ (เชน ลอง)
อาร์เซน่อล :
(4-2-3-1) : วอยเชียค เชสนี่, ฟรานซิส โกเกอแล็ง, โธมัส แฟร์มาเล่น, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, อเล็กซ์ ซง, อารอน แรมซี่ย์, ธีโอ วัลค็อตต์, โทมัส โรซิชกี้, ยอสซี่ เบนายูน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
เวสต์บรอมฯ ฝืดในบ้าน โดยยิงได้แค่ 19 ลูกจาก 18 เกม แถมแพ้ประจำ ขณะที่ ปืนใหญ่ ต้องเน้นและชอบเกมที่เน้นโต้กลับแบบนี้ นอกจากนี้ สถิติไม่เลวนักโดยแพ้ครั้งเดียวที่ ฮอว์ธอร์นส์ นับตั้งแต่ปี 1973 เป็นต้นมา ความจี๊ดจ๊าดและเฉียบคมของ ฟาน เพอร์ซี่ คงพาปืนใหญ่เข้าป้ายที่สามได้ไม่ยาก