ส่งท้ายฤดูกาลได้แบบสุดยอดจริงๆสำหรับ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด หลังจากที่ "เมซุท โอซิล" ซัดเบิ้ลช่วยให้ถล่ม "มาญอร์ก้า" ไป 4-1 เก็บครบ 100 คะแนนเป็นทีมแรกในสเปนและยังทำสถิติยิงประตูในลีกไปทั้งหมด 121 ลูกฉลองแชมป์กันชื่นมื่น
ฟุตบอลลาลีก้านัดปิดฤดูกาล
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2555
สนาม ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว
เรอัล มาดริด 4 - 1 มาญอร์ก้า
เกมนี้ทั้งสองทีมยังถือว่ามีอะไรที่ต้องให้เต็มที่กันอยู่ โดยทางเจ้าบ้าน "ราชันชุดขาว" มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่เก็บ 100 แต้มได้หากพวกเขาชนะรวมถึงยังมีสถิติยิงประตูในฤดูกาลที่ต้องดูว่าจะจบลงที่เท่าไหร่ ส่วนทาง "มาญอร์ก้า" เองก็ยังมีลุ้นการไปเล่นยูโรป้าลีกอยู่ เริ่มเกมมา 7 นาทีทาง "ราชัน" ได้เฮกันเก้อเลยหลังพวกเขายิงเข้าประตูไปแล้วจากจังหวะบอลลอยโด่งแล้วมาร์เซโล่เลือกเตะตูมเดียวเข้าเขตโทษ บอลมาถึงอิกวาอินเบียดกับแนวรับมาญอร์ก้าไปก่อนจะจิ้มบอลเข้าประตู แต่กรรมการก็เป่าฟาวล์ไปก่อนแล้ว
"ราชัน"บุกมาอีกแล้วเป็นจังหวะที่โรนัลโด้จ่ายมาหน้าประตูให้กับโอซิลก่อนจะยกบอลเข้าเขตโทษ อิกวาอินทีแรกเหมือนจะเล่นแต่ก็เลือกปล่อยให้กับเบนเซม่าที่อยู่ด้านหลังได้ยิงแต่ก็ยังติดเซฟของดูดู้
โอกาสของมาดริดมาเพียบเลยโดยคราวนี้เป็นทีของโรนัลโด้เองบ้างพาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะลากเข้าเขตโทษ แล้วดึงจังหวะรอหน่อยก่อนจะเลือกยิงเลยแต่บอลก็หลุดออกทางเสาไกลไป
แล้วนาที 19 ก็ทำได้เสียทีเป็นจังหวะที่บอลเปิดของอาร์เบลัวเลยไปทางซ้าย ยังมีมาร์เซโล่วิ่งตามมาเก็บบอล ก่อนจะตั้งป้อมเปิดเข้าไปใหม่คราวนี้แม่นแล้วมีโรนัลโด้โดดมาแต่ไกลเอาชนะสองกองหลังของมาญอร์ก้าได้ก่อนจะโขกกดลงพื้นไม่มีเหลือ มาดริดออกนำไปแล้ว 1-0 พร้อมกับเป็นประตูที่ทำให้โรนัลโด้ยิงครบทุกทีมในลีกด้วย
ถัดมาอีก 4 นาทีพวกเขาก็ยังไม่หยุดได้ประตูเพิ่มมาอีกเป็นจังหวะที่เริ่มจากเบนเซม่าจ่ายไปให้กับโรนัลโด้ก่อนจะลากขึ้นมาเองแล้วก็ฝากไปที่อิกวาอินและเลือกแตะไปทางขวาให้เบนเซม่าวิ่งมายิงผ่านมือดูดู้เข้าไปไม่เหลือ มาดริดนำห่างเป็น 2-0
เข้าช่วงท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านก็ยังได้บุกเยอะกว่าอย่างชัดเจนแล้วก็ได้ลุ้นอีกแล้วเป็นจังหวะที่บอลจ่ายมาตรงกลางให้กับเบนเซม่าโล่งๆระยะประมาณ 30 หลาได้เลือกแต่งเข้าขวาก่อนจะยิงไกล บอลพุ่งเรียดแต่ดูดู้ยังปัด โรนัลโด้สปีดไปสุดเส้นหลังจะเปิดกลับมาหน้าประตูก็ยังติดเซฟ จบครึ่งทางมาดริดยังนำอยู่ 2-0
กลับมาเริ่มครึ่งหลังได้เพียงแค่ 4 นาที"ราชัน"ก็บวกเพิ่มได้อีกลูกเป็นจังหวะที่ทางเบนเซม่าได้บอลอยู่ทางขวาก่อนจะตั้งป้อมเปิดเข้าไปข้างในให้กับอิกวาอินพักอกบอลเข้าทางโอซิลวิ่งมาโชว์เหนือยิงชิพส่งบอลลอยข้ามหัวดูดู้ก่อนจะเข้าไปนอนซุกก้นตาข่าย มาดริดบวกเพิ่มเป็น 3-0
ทางทีมเยือนก็ไม่ยอมขอทวงประตูคืนกลับมาบ้างเป็นบิคตอร์ที่พาบอลลากตัดจากขวาเข้าในมาตรงหน้าเขตโทษก่อนจะเห็นทางซ้ายโล่งจ่ายออกไปให้กับคาสโตรวิ่งเติมขึ้นมาแล้วสับด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงเข้าเสาแรกกาซิญาสก็ปัดไม่ออก มาญอร์ก้าไล่มาห่างๆ 3-1
แค่สามมันพอที่ไหนนาที 58 "ราชัน"จัดการเพิ่มประตูขึ้นมาอีกลูกเป็นบอลที่โดนเคลียร์ออกมาแต่มาเข้าทางของมาร์เซโล่มองเข้าเขตโทษก่อนแล้วเลือกเปิดเข้าไปทางเสาไกลให้กับโอซิลไม่ล้ำหน้าวิ่งไปแปแบบไม่ต้องจับส่งบอลกลิ้งเสียบเสาซ้ายมือแบบหมดจด มาดริดพวกเพิ่มเป็น 4-1
ทางมาญอร์ก้ามีโอกาสได้ลองส่องบ้างอีกเป็นบิคตอร์ที่หลุดมาทางขวาก่อนจะได้เปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษ รามอสโหม่งสกัดไว้แต่ยังไม่ดีมาเข้าทางบิคตอร์คืนให้กับทิสโซเน่วิ่งมายิงแต่ก็ยังตรงตัวกาซิญาส เปเป้ตามมาเก็บก่อนเจอหวดล้มแต่คาสโตรแกมาช้าเตะบอลอัดใส่เปเป้เลยทำเอาศิษย์ ป.ประมุขแกยั๊วะเตะคืนไปที
มาดริดเกือบมีลูกห้าเพิ่มแล้วเช่นเดียวกับลูกสองของโรนัลโด้หลังวิ่งตัดมารับบอลหน้าเขตโทษก่อนจะลากเข้าไปแล้วพยายามจะแตะหนีดูดู้แต่ดูดู้ยังไม่ทิ้งตัวไปทั้งหมดยังตามไปปัดบอลออกจากเท้าโรนัลโด้ได้เลยยังไม่โดนเพิ่ม
"ราชัน"ยังเดินหน้าหาลูกห้าแล้วก็เกือบจะได้อีกแล้วในนาที 79 เป็นจังหวะที่รามอสหลุดขึ้นมาทางขวาก่อนจะเปิดหยอดเข้าไปที่เสาสองให้กับโรนัลโด้ได้โขกบอลย้อยข้ามดูดู้ไปแล้วแต่ยังมีตัวอยู่หน้าปากประตูเลยโหม่งทิ้งออกมาได้ทัน
ถัดมาไม่นานก็เป็นอีกครั้งที่มาดริดเกือบจะได้ลูกห้าจากดิ มาเรียที่ได้บอลกลางสนามระยะประมาณ 30 หลาได้ก่อนจะซอยเท้าแล้วสับไกส่องบอลพุ่งติดไซด์ก้อยจะเสียบเสาซ้ายมืออยู่แล้วแต่ดูดู้ยังปัดออกหลังไปได้
จบเกมมาดริดก็ปิดฉากฤดูกาลนี้ได้อย่างสุดยอดหลังเอาชนะมาญอร์ก้าไป 4-1 ทำให้พวกเขาเก็บแต้มได้ครบ 100 แต้มเป็นทีมแรกของลาลีก้าอีกทั้งทำสถิติยิงประตูในฤดูกาลมากสุดไว้สูงถึง 121 ลูกด้วยกัน ส่วน"ชาวเกาะ"ก็ต้องจบอันดับ 8 พลาดการได้ไปยูโรป้า