ผู้เขียน หัวข้อ: "ดอร์ทมุนด์" ขย้ำเละ "พี่เสือ" ไส้แตก~!! 5-2 ซิวดับเบิ้ลแชมป์~!!  (อ่าน 1024 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

ประกาศศักดาเทพแห่งเมืองเบียร์เลยทีเดียวสำหรับ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หลังจากที่ไล่ต้อนตือ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิคเละเทะ 5-2 คว้าแชมป์ "เดเอฟเบ โพคาล" กดดับเบิ้ลแชมป์ยิ่งใหญ่และอาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ "ชินจิ คากาวะ" สตาร์ยุ่นที่ "เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" มานั่งดูฟอร์มหวังเอามาตัดอ้อยซัมเมอร์นี้



เดเอฟเบ โพคาล รอบชิงชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2555
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 5 - 2 บาเยิร์น มิวนิค 

นัดชิงเดเอฟเบ โพคาลเป็นการโคจรมาเจอกันของ 2 โคตรทีมบุนเดสลีกาแห่งยุค โดย "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์เกมนี้ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มสูบเพราะเป็นเกมสุดท้ายแล้วทีเด็ดอยู่ที่เกมรุกประสานงานกันระหว่าง "ชินจิ คากาวะ, ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, เควิน โกรสครอยซ์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้"

                   เปิดฉากเริ่มเกมมาแค่ 3 นาทีดอร์ทมุนด์ก็มาได้ประตูนำไปก่อนจากจังหวะที่ขึ้นเกมขึ้นมาแล้วเป็นหลุยส์ กุสตาโว่ที่สกัดบอลไปแต่ส่งคืนหลังไม่ดีคูบาถึงบอลก่อนนอยเออร์ที่พยายามจะออกมากันก่อนตบเข้ากลางให้กับคากาวะแปเข้าประตูโล่งๆ เสือเหลืองนำ 1-0

นาทีที่ 8 เป็นโอกาสของบาเยิร์นบ้างเมื่อร็อบเบนพาบอลขึ้นมาก่อนจะไหลทะลุช่องไปให้กับโกเมซหลุดเข้าไปแต่จังหวะยิงมีไวเดนเฟลเลอร์ถลาออกมาบล็อกได้ทันบอลออกหลังไป จังหวะนี้ไวเดนเฟลเลอร์เหมือนจะโดนขาของโกเมซเข้าที่ท้องในจังหวะสุดท้ายต้องปฐมพยาบาลกันซักพักก่อนจะกลับมาเล่นต่อได้

หลังเสียประตูเกมส่วนใหญ่ก็เป็นเสือใต้ที่ได้ครองบอลมากกว่าแต่ก็ยังเจาะเกมรับเสือใต้ไม่ได้ เกมนี้การโจมตีทางริมเส้นที่เป็นจุดเด่นของบาเยิร์นยังไม่ค่อยได้สร้างความหนักใจให้กับดอร์ทมุนด์ซักเท่าไหร่นักทั้งร็อบเบนและริเบรี่ยังเงียบๆทั้งคู่

ความเคลื่อนไหวบนที่นั่งเกมนี้มีเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาชมเกมนี้ด้วยไม่รู้ว่าเป้าหมายจะเป็นชินจิ คากาวะหรือเปล่า

นาทีที่ 24 บาเยิร์นก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ครูสแทงบอลทะลุไปให้กับโกเมซแตะบอลได้ก่อนไวเดนเฟลเลอร์ที่พยายามออกมากันแต่ดันไปเป็นการรวบหัวหอกร่างใหญ่เข้าให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษแต่โชคดีที่ให้แค่ใบเหลืองกับโกล์ดอร์ทมุนด์ และก็เป็นร็อบเบนที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาดยิงเสียบมุมขวาเข้าไป เสือใต้ตีเสมอเป็น 1-1 แล้ว

นาทีที่ 32 ริเบรี่ก็หลอกพิสซ์เซ็คจนหลังหักก่อนจะตวัดมาหน้าประตูให้กับลาห์มเติมขึ้นมาก่อนจะได้จังหวะยิงแต่ฮุมเมิลส์ก็ยังบล็อกไว้ได้ เกือบไปดอกนี้สำหรับดอร์ทมุนด์ 2 นาทีต่อมาไวเดนเฟลเลอร์ก็เล่นต่อไม่ไหวเจอร์เก้น คล็อปป์เลยต้องเปลี่ยนมิทเชลล์ ลังเกรัคลงมาเฝ้าเสาแทน

นาทีที่ 40 ดอร์ทมุนด์ก็มาได้ลูกจุดโทษเหมือนกันเมื่อบาดสตูเบอร์ไปโดนโกรสครอยซ์ล็อกหลบแล้วไปเกี่ยวขาล้มลง ฮุมเมิลส์รับหน้าที่ยิงแปไปทางขวาของตัวเองนอยเออร์พุ่งปัดไว้ได้แต่โดนไม่เต็มบอลเข้าประตูไป แชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาลล่าสุดออกนำอีกครั้ง 2-1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 เลวานดอฟสกี้ก็โหม่งเช็ดให้กับคากาวะก่อนที่เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติญี่ปุ่นจะแทงทะลุช่องกลับไปให้กับเลวานดอฟสกี้ที่วิ่งสอดขึ้นมายิงสวนตัวนอยเออร์เข้าประตูไป จบครึ่งแรกดอร์ทมุนด์เล่นกันอย่างมั่นใจขึ้นนำบาเยิร์น มิวนิคไป 3-1 ต้องรอดูครึ่งหลังว่าเสือใต้จะแก้เกมอย่างไร

                    ครึ่งหลัง "บาเยิร์น" เปลี่ยนตัวส่ง มุลเลอร์ ลงมาแทน กุสตาโว่ หวังเปิดเกมรุกเต็มที่ เกมในครึ่งหลังไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงทั้ง 2 ทีมเปิดเกมรุกแลกกันนาทีที่ 50 ลังเกรัคก็ออกมาตัดบอลไกลมากบอลไปเข้าเท้าของร็อบเบนแต่ดีที่ลูกจ่ายไปให้กับโกเมซโดนฮุมเมิลส์สกัดไว้ได้ก่อนไม่งั้นมีเสียวกว่านี้แน่ๆ

นาทีที่ 58 ดอร์ทมุนด์ ก็มาได้ประตูทิ้งห่างออกไปอีกจากจังหวะทีเกมเปิดเหลือเกินแล้วกองหลังเสือใต้ดันขึ้นมาสูงโกรสครอยซ์ได้บอลก่อนจะหักเข้าขวาแล้วจ่ายทะลุไปให้กับเลวานดอฟสกี้ยิงด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าไป สกอร์ขยับเป็น 4-1 แล้ว

หลังนำห่างเกมของบาเยิร์นก็ยังไม่ดีขึ้นและเป็นดอร์ทมุนด์ที่เป็นฝ่ายผ่านบอลกันไปมาให้ผู้เล่นเสือใต้วิ่งหาบอลกันไม่เจอทีเดียวต้องบอกว่าเกมนี้ดอร์ทมุนด์เล่นได้โหดมาก ให้บอลทีมเวิร์กเนียนตาสุดๆ

แม้สกอร์จะขาดแต่เกมยังสนุกเหมือนเดิมนาทีที่ 67 เลวานดอฟสกี้ก็ได้โอกาสยิงอีกครั้งแต่ครั้งนี้นอยเออร์เซฟไว้ได้ก่อนจะสวนกลับเร็วทันทีและก็เป็นริเบรี่ลากบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะเปิดให้กับโกเมซได้โหม่งเต็มๆแต่บอลดันไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

นาที่ที่ 74 แฟนบอลบาเยิร์นก็เริ่มมีความหวังอีกครั้งเมื่อริเบรี่ได้ยึกยักอยู่หน้ากรอบเขตโทษกองหลังดอร์ทมุนด์ไม่ยอมมาบล็อกสตาร์เฟร้นช์แมนเลยตัดสินใจซัดทันทีบอลพุ่งเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม เสือใต้ไล่มาห่าง 4-2

นาทีที่ 82 ดอร์ทมุนด์ก็มาได้ประตูย้ำชัยชนะเมื่อสวนกลับขึ้นมาและก็เป็นคากาวะจ่ายบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษนอยเออร์ออกมาเร็วตะครุบบอลไว้ได้แต่บอลดันหลุดมือไปเข้าเท้าของเลวานดอฟสกี้ซัดเข้าไปง่ายๆ จบเกมดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์เดเอฟเบโพคาลสมัยที่ 3 ของสโมสรได้สำเร็จถล่มบาเยิร์น มิวนิค 5-2 และเป็นการซิวดับเบิ้ลแชมป์ด้วยหลังคว้าบุนเดสลีกามาได้แล้วก่อนหน้านี้
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา