เวย์น รูนี่ย์ สวมบทเป็นฮีโร่ทำประตูสำคัญ ในการยิงจุดโทษช่วยให้ทีมไล่ตีเสมอ กุหลาบไฟ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส สำเร็จ 1-1 ทำให้กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 19 เป็นอันดับหนึ่งของอังกฤษเรียบร้อย
ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยึดผู้เล่นชุดหลักที่ใช้ลงสนามในระยะหลัง ซึ่งถือเป็นชุดเก่งนำโดย ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนี่ย์ และ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ โดยมีเป้าหมายในการคว้าอย่างน้อย 1 แต้มจาก แบล็คเบิร์น เพื่อการันตีตำแหน่งแชมป์ หลังล้มเชลซี คู่แข่งมาได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายที่เปิดฉากบุกเข้าใส่อย่างสุดมันโดย นานี่ ได้โอกาสโขกบอลจากการเปิดให้โดย รูนี่ย์ แต่บอลไปชนคานอย่างหวุดหวิด ก่อนที่ปีศาจแดงจะระดมพลเปิดตำรารุกกันขนานใหญ่
ด้าน แบล็คเบิร์น เกมนี้ก็เตรียมตัวมาดี โดยเกมรับเหนียวแน่นและพยายามหาจังหวะที่จะเล่นงานคืน ซึ่งหลังจากที่โดนโขกสับมาพักใหญ่ เจ้าบ้านก็กลับมาเป็นฝ่ายที่ได้ประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 20
โดยเป็นความผิดพลาดของ โทมัส คุสแช็ก ประตูสำรองที่ได้ลงเฝ้าเสาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เตะสกัดบอลไม่ขาด บอลมาเข้าทาง มาร์ติน โอลส์สัน เก็บบอลได้ก่อนจะหาจังหวะเปิดให้ เบร็ต เอเมอร์ตัน จบสกอร์เข้าไปให้ แบล็คเบิร์น ขึ้นนำ 1-0
หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็พยายามจะบุกเพื่อเอาคืน แต่ไม่ว่าจะบุกหนักเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จในขณะที่ แบล็คเบิร์น เกมนี้ต้องชมเพราะเตรียมตัวมาดีวางแผนละเอียดทุกเม็ด และสามารถรักษาสกอร์เอาไว้ได้จนจบครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลัง แบล็คเบิร์น ก็ยังต้องตั้งหลักรับเป็นงานหลัก แต่สุดท้ายก็ทานไม่ไหวมาพลาดเสียจุดโทษเอา ในนาทีที่ 73 โดยเป็น “ชิชาริโต้” ที่เรียกจุดโทษให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ ก่อนที่ เวย์น รูนี่ย์ จะรับอาสาทำประตูสำคัญให้ทีมตีเสมอเป็น 1-1
ช่วงเวลาที่เหลือของเกม ไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันได้ ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยการเสมอกัน แต่ทางด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สนใจแล้วเพราะได้แชมป์สมัยที่ 19 มาครองเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความสะใจที่แซงหน้า “หงส์แดง” ได้สำเร็จ