พิมพ์

[Armin]

แก้อาถรรพ์ที่เฝ้ารอยคอยมายาวนานถึง 17 ปีได้สำเร็จแล้วสำหรับ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส เมื่อพวกเขาบุกไปเอาชนะ "โบลตัน" ในสนามรีบ็อค สเตเดี๊ยมได้เป็นครั้งแรก "อเดบายอร์" เหมาสองประตู ถล่มไปขาดลอย 4-1 ลุ้นตั๋วไปเล่นแชมป์เปี้ยนส์ ลีกแบบสุดมัน ส่วนเจ้าบ้านส่อแววตกชั้นเข้าให้แล้ว



พรีเมียร์ ลีก
วันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2555
สนาม รีบ็อก สเตเดี๊ยม
โบลตัน 1 - 4 ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส

ก่อนเริ่มเกมมีภาพซึ้งสุดกินใจเกิดขึ้น เมื่อ "ฟาบริซ มูอัมบ้า" กลับมาเยือนสนามรีบ็อก สเตเดี๊ยมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เขาเกิดหัวใจวายขึ้น โดยเขาโบกมือทักทายกับแฟนบอลในสนาม พร้อมเสียงปรบมือต้อนรับที่ดังกึกก้องจนเจ้าตัวถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

              เปิดฉากมาในนาทีที่ 12 หลังจากสเปอร์สใช้เกมเร็วบุกเข้าใส่โบลตัน ปาดไปปาดมาอยู่นานก็มาได้จังหวะลุ้นยิงแบบจะๆในจังหวะที่เบลขึ้นไปทางขวา ก่อนที่จะตะบันด้วยซ้าย บ็อกดานเอาอยู่ไม่อยู่ในจังหวะแรก ฟาน เดอร์ ฟาร์ตเลยพุ่งเข้าไปตามซ้ำ แต่หลักไม่ค่อยดี บอลเลยไม่ห่างตัวของนายทวารโบลตันที่เซฟเอาไว้ได้อีกรอบ

ผ่านช่วง 20 นาทีแรกไป เกมของสเปอร์สก็ถือว่าประสานงานกันได้ดีอยู่ในแดนกลาง ถ่ายบอลคล่องน่าดู แต่ไอ้จังหวะที่จะทะลุพื้นที่สุดท้ายเข้าไปเนี่ย โบลตันวางโซนกันไว้หนาแน่น โอกาสมันเลยยังไม่มีให้เห็นเท่าไหร่ ส่วนเจ้าบ้านแม้ว่าจะได้บุกสวนอยู่บ้าง แต่ความแม่นยำยังน้อย

เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ก็ยังคงเป็นสเปอร์สที่ได้บุกมากกว่าอยู่ตามสเต็ปและก็ยังเหมือนเดิมที่พวกเขายังทะลวงแนวรับของโบลตันไม่ได้ จะมีอยู่จังหวะก็ตอนที่เบลกระชากขึ้นทางซ้ายจนแนวรับของโบลตันหลุดลุ่ย แต่จังหวะเปิดดันไม่ตรงเพื่อนซะนี่

นาทีที่ 35 บุกจนเพลินจนเกือบเสียประตูเลยสำหรับสเปอร์ส เมื่อเจอโบลตันเล่นเกมสวนกลับ จนบอลทะลักไปถึงอีเกิ้ลส์ที่ควบตามไปไม่ให้บอลออกหลัง ก่อนที่จะจ่ายกลับมาให้เอ็นก๊อกที่เสาแรก แล้วหมุนตัวตวัดยิงทันที แต่ต้องชมฟรีเดลที่ออกมาเร็ว บล็อกเอาไว้ได้ทัน

อีก 2 นาทีต่อมา หวิดๆจะเสียประตู สุดท้ายมาได้ก่อนซะอย่างนั้นสำหรับสเปอร์ส เมื่อพวกเขาสวนกลับขึ้นมาจากความผิดพลาดของโคเกอร์ในแดนกลา งก่อนที่จะได้เตะมุม บอลโยนมาเข้าทางของโมดริชที่รออยู่นอกกรอบเขตโทษ แตะบอลเด้งขึ้นมาแล้วซัดตูมเดียวจังหวะแรก บอลพุ่งไซด์แหวกอากาศผ่านมือของบ็อกดานเข้าไปเสียบสามเหลี่ยมสวยงามจริงๆ "ไก่เดือยทอง" ได้ประตูที่ต้องการนำไปแล้ว 1-0

ก่อนจบครึ่งแรก โบยาต้าทำเอากองแช่งเข่าอ่อน เพราะจังหวะเซ็ตพีซของโบลตันกองหลังของสเปอร์สพยายามจะขึ้นโหมกันสกัด ทำให้บอลเลยไปถึงโบยาต้าที่ซ่อนตัวอยู่เสาสอง ได้โอกาสวอลเล่ย์เหน่งๆจากระยะไม่ถึง 10 หลา แต่เขากับหวดใต้บอลส่งโด่งข้ามคานไปไกล ทำเอาคอยล์ถึงกับร้องจ๊ากด้วยความเสียดาย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบครึ่งแรก

             กลับมาต่อในช่วงของครึ่งหลัง ในนาทีที่ 51 หรือเพียงแค่ 6 นาทีในครึ่งหลัง โบลตันก็มาทำประตูตีเสมอสุดสำคัญ เมื่อพวกเขาบุกใส่สเปอร์สจนกดดันได้เยอะ ก่อนที่จะมาเล่นลูกทุ่มโยนเข้าใน เดวิสโหม่งก่อนที่เอ็นก๊อกจะตอกส้นต่อไปให้กับโคเกอร์ที่สอดมายิงจังหวะแรกผ่านฟรีเดลเข้าประตูไป เกมเจ๊ากันแล้วในตอนนี้

หนึ่งชั่วโมงเต็มของเกมพอดิบพอดี สเปอร์สมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ออกแนวจังหวะแรกที่พวกเขาหวิดจะเสียประตู หลังจากโดนอีเกิ้ลส์หวดในเขตโทษหลุดคานไปนิดเดียว จังหวะสวนกลับของเบลก็แผลงฤทธิ์กระชากขึ้นไปเปิดเข้ากลางให้ฟาร์ตวิ่งมาแปไปเสาสองเสียบตาข่าย สเปอร์สนำอีกครั้ง 2-1

นาทีที่ 62 เหมือนจะเสียสมาธิจนพังเลยสำหรับโบลตัน เมื่อพวกเขามาเสียประตูที่ 3 จากจังหวะอันยอดเยี่ยมของโมดริชที่หาโอกาสตรงกลางสนาม ก่อนสบช่องจ่ายบอลทะลุตัดกองหลังจนขาดเป็นรูให้เลนน่อนควบขึ้นไปทางขวา ก่อนแปบอลเข้ากลางให้อเดบายอร์ได้แปเน้นๆไม่มีเหลือ "ไก่เดือยทอง" ทิ้ง 3-1

นาทีที่ 69 จบกันเลยสำหรับโบลตัน เพราะต้องยอมรับว่าจังหวะนี้กองหลังของพวกเขาพลาดที่ยืนกันไม่ดี เปิดช่องให้เบลแทงบอลทะลุไปถึงอเดบายอร์ที่ไม่ล้ำหน้า แตะบอลเข้าในกรอบเขตโทษก่อนล็อกหนีบ็อกดานแล้วแปบอลเข้าไปสบายแฮ บายอร์เบิ้ลในขณะที่สเปอร์ทิ้งห่าง 4-1

เหมือนจะรู้ใจกันว่าประตูได้เสียมีผลอย่างมากต่ออันดับในฤดูกาลนี้ของพวกเขา ทำให้พลพรรค "ไก่เดือยทอง" ยังคงทำเกมบุกแบบไม่ผ่อนลงไปเยอะเท่าไหร่ หากมีช่องมีโอกาสก็จะพาบอลขึ้นไปลุ้นเรื่อยๆ

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดแน่นอนแล้วสำหรับสเปอร์ส เพราะพวกเขานำห่างอยู่ถึง 3 ลูก แถมเกมก็ยังเล่นกันได้แบบเรื่อยๆไม่กดดันอะไร เพราะโบลตันเองแม้จะพยายามบุก แต่ดูแล้วยากพอสมควรที่จะมีแต้มในเกมนี้

จบ 90 นาทีเป็นท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สที่สุขสมหวังบุกมาเอาชนะโบลตันได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1995 ทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 65 คะแนน ตามหลังอาร์เซนอลเหลือแต้มเดียว รั้งอันดับ 4 ไว้ต่อไป