ยังคงเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล อยู่เสมอเลยสำหรับ "โรบิน ฟาน เพอร์ซี่" ที่ทีมนั้นดันไปพลาดเสียประตูตั้งแต่นาทีที่ 9 แต่หอกเลือดดัตช์ก็มาตีเสมอให้กับทีมได้อย่างทันควัน ก่อนที่จะเล่นกันแบบหนืดๆจบที่สกอร์ 1-1 ถือว่ายังเสียวอยู่สำหรับอันดับ 3 ของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555
สนาม บริทาเนีย สเตเดี๊ยม
สโต๊ค ซิตี้ 1 - 1 อาร์เซนอล
"เจ้าปืนโต" อาร์เซน่อล ยกพลมาเยือนรัง "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ด้วยหวังที่จะเก็บชัยชนะอกไปให้ได้ เพื่อการันตีอันดับที่ 3 ของพวกเขาในลีก เปิดฉากมาได้แค่ 3 นาที "เพอร์ซี่" ก็เดือดปุดๆ เมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมอย่าง "ซง" โดนไวท์เฮดพุ่งเสียบเปิดปุ่มชัดเจน จนต้องเข้าไปโวยกับกรรมการ ก่อนที่กรรมการจะแจกใบเหลืองให้มิดฟิลด์สโต๊คไปตามระเบียบ
นาทีที่ 6 โอกาสแรกของ "ปืนใหญ่" สวยน่าดู ในจังหวะที่ชิงจ่ายเร็วทะลุขึ้นหน้าไปให้กับ "เบนายูน" ที่หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่น่าเสียดายที่จังหวะยิงเท้าหลักไม่ดี บอลเลยไม่แรง ติดเซฟของ "เบโกวิช"
อีก 2 นาทีต่อมา เกมนี้มีจังหวะให้ลุ้นกันตั้งแต่แรกๆเลย เมื่อ "เพอร์ซี่" สอดขึ้นไปเสาสอง โหม่งลูกเปิดของเพื่อนแบบเน้นๆ แต่ "เบโกวิช" ก็โชว์จังหวะเซฟเยี่ยมปัดทิ้งออกหลังได้ทัน
นาทีที่ 9 โดนเข้าให้แล้วสำหรับ "ปืนโต" เมื่อเจอลูกเก่งของ "สโต๊ค" ที่ถ่ายบอลออกข้าง ก่อนที่จะโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ "เคร้าซ์" กระโดดขึ้นอย่างสูง ก่อนที่จะโหม่งสะบัดส่งบอลพุ่งเสียบเสา "สโต๊ค" ชิงขึ้นนำไปแบบเร็วสุดๆ 1-0
นาทีที่ 15 ถือว่าพลาดเลยสำหรับ "สโต๊ค" ในจังหวะที่ "ช๊อตตัน" ไปโชว์เก๋าจะบังบอล แต่เสียเหลี่ยมให้ "เบนายูน" พุ่งมาฉกบอลไปจ่ายต่อให้กับ "โรซิคกี้" ที่ดึงบอลรอจังหวะ ก่อนที่จะบอลตัดกองหลังยาวไปเสาสองให้ "เพอร์ซี่" เข้าฮอสแปสวน "เบโกวิช" เข้าประตูไป ส่งผลให้ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ตีเสมอไวเหมือนกัน 1-1
เข้าสู่ชั่วครึ่งชั่วโมงแรกของเกม หลังจากทำประตูตีเสมอได้ เกมของ "อาร์เซน่อล" ก็ดูสม่ำเสมอขึ้น ถ่ายบอล ครองบอลกันได้เป็นอย่างดี ติดอยู่อย่างคือไม่สามารถขึงกดดันแนวรับของ "สโต๊ค" ให้ยวบได้ แต่ก็ต้องชมแผงหลังเจ้าบ้านด้วยที่เล่นกันได้เป็นอย่างดี ไม่มีรวน
ตอนแรกดูเหมือนว่าเกมนี้จะมีจังหวะให้ได้ลุ้นเยอะ แต่ไปๆมาๆเกมมันชักจะตันๆกันอยู่บริเวณกลางสนาม เพราะ "สโต๊ค" ไม่ได้เร่งร้อนบุก เน้นแพ็คเกมแน่นต้านแนวรุกของ "อาร์เซน่อล" ที่มาจนถึงตอนนี้มิติในการเข้าทำยังไม่ใสไม่เท่าไหร่
หลังจากทำประตูเจ๊ากันไปได้ เกมของทั้งสองทีมก็ดูจะเล่นได้ในระดับเดียวกัน โอกาสลุ้นประตูเลยแทบไม่มีให้เห็น จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ที่ 1-1
นาทีที่ 50 เป็นจังหวะที่น่าเสียดายเอามากๆสำหรับ "ปืนใหญ่" เพราะ "เพอร์ซี่" อุตส่าห์หาตำแหน่งสอดเข้าไปยืนตั้งป้อมโหม่งจากระยะ 7-8 หลาได้แล้ว แต่เหมือนจะเน้นมากไปหน่อย บอลเลยไม่หนีตัว "เบโกวิช" ที่เซฟเอาไว้เหนียวหนึบติดมือ
เข้าสู่หนึ่งชั่วโมงเต็มของเกมในวันนี้ "ปืนใหญ่" เหมือนจะเฉื่อยลงไปเยอะมากกว่าในช่วงครึ่งแรก แม้ว่าพวกเขาจะพยายามเร่ง แต่เหมือนเครื่องมันเย็นซะจนไม่ไปไหน อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนกระตุ้นกันบ้าง
นาทีที่ 73 หลังจากดูแล้วเกมไปไหนไม่ได้แน่ๆ "เวนเกอร์" เลยจัดการเปลี่ยนเอา "ดิยาบี้" ลงไปเล่นแทนแรมซี่ย์ที่วันนี้ผลงานไม่ได้โดดเด่นอะไร ต้องดูว่าแนวโน้มของทีมจะเป็นยังไงบ้าง
อีก 5 นาทีต่อมา "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ต้องปรับทัพอีกครั้ง โดยครั้งนี้ถอดเอา "แชร์วิญโญ่" ที่มาๆหายๆออกไป แล้วส่ง "ชามัคห์" ลงสนาม ต้องดูว่าเขาจะช่วยทีมได้มากน้อยเพียงใด เพราะช่วงหลังๆฟอร์มดร็อปลงไปเยอะ
นาทีที่ 82 ทำได้เยี่ยมจริงๆสำหรับจังหวะนี้ของ "เจอโรม" ที่เขาได้บอลหน้ากรอบเจตโทษก่อนที่จะแตะข้างในแล้วตวัดกลับตัวยิงทันที แต่ก็ไม่ผ่านมือของ "เซสนี่ย์" ที่ยืนปิดเสาแรกเอาไว้ได้อยู่แล้ว
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายไม่มีทางเหลือแล้วสำหรับอาร์เซนอล เพื่อ 3 คะแนนพวกเขาต้องเร่งเกมบุกให้สุดอย่างเต็มที่ ไม่อย่างนั้นแล้วก็เสียวหลังอยู่เหมือนกันสำหรับอันดับ 3 ที่ครองอยู่
ช่วงทดเวลาเกือบพังแล้วสำหรับ "อาร์เซน่อล" เมื่อมาเจอทีเด็ดการทุ่มไกลของดีแล็ปที่พุ่งเป็นจรวดตกใส่หัวของ "เคร้าซ์" ที่ขึ้นชิงจังหวะได้ก่อน "เซสนี่ย์" แต่เป็น "ซานญ่า" ที่ไวจัดดีดตัวสกัดบอลทิ้งออกมาได้ทัน
จบ 90 นาที "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทำได้แค่เสมอกับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 66 คะแนน แต่แข่งมากกว่าชาวบ้านอยู่ 1 ถึง 2 นัด ถือว่ายังเสียวอยู่เหมือนกันสำหรับตั๋วแชมป์เปี้ยนส์ลีกที่แน่นอน