พิมพ์

[Soccer]

ทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่อคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 19 หลังเฉือนเอาชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ได้อย่างหวุดหวิด 2-1

เกมตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ ระหว่างจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการชัยชนะเพื่อการันตี โอกาสการคว้าแชมป์ลีกสมัย 19 ขณะที่ เชลซี หากชนะในเกมนี้ก็จะขยับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที

แมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้เลือกใช้ เวย์น รูนี่ย์ กับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ เป็นคู่หัวหอกเหมือนเดิมและได้ ไรอัน กิ๊กส์ กลับมาปั้นเกมให้ ขณะที่ เชลซี เลือกระบบ 4-3-3 ใช้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ยืนหัวหอกตัวเป้า ดร็อป เฟร์นานโด ตอร์เรส เอาไว้ข้างสนาม

เริ่มเกมมาแค่ 36 วินาทีเท่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เริ่มต้นได้เหมือนฝันเมื่อได้ประตูออกนำทันที จากจังหวะการเคาะบอลไม่กี่ครั้ง ก่อนที่จะเป็น พาร์ค ที่แทงทะลุช่องให้ ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ หลุดเดี่ยวทะลุกับดักล้ำหน้า ก่อนจะยิงเสียบมุมผ่านปีเตอร์ เช็ก เข้าไปอย่างสวยงาม

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเล่นได้อย่างมั่นใจมาก และเกือบจะได้อีกในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ รูนี่ย์ ได้พลิกบอลแถวระยะ 30 หลา แล้วตัดสินใจยิงไกลทันที บอลพุ่งเกือบเสียบสามเหลี่ยม แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังซูเปอร์เซฟบินปัดออกไปได้

อีก 3 นาทีถัดมา ชิชาริโต้ ก็ได้โอกาสทองอีกเมื่อ กิ๊กส์ ลากบอลเข้ามาก่อนเปิดต่อให้ วาเลนเซีย ได้ครอสเร็วโค้งเข้าไปที่เสาสองแต่ ชิชาริโต้ ซัดวืดไปแบบน่าเสียดาย

การเซ็ตบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังได้ผลตลอด โดยได้ลุ้นอีกครั้งในจังหวะที่ถ่างเกมมาทางขวา วาเลนเซีย เก็บบอลได้ก่อนจะล็อกตัดเข้าในแล้วจ่ายต่อให้ รูนี่ย์ ได้ซัดเน้นๆถากเสาออกไปแบบน่าเสียวไส้

เชลซี มาได้จังหวะลุ้นครั้งแรกของเกมในนาทีที่ 18 เมื่อ มาลูด้า กระชากไปสุดเส้นหลังก่อนจะเปิดหักกลับเข้ามา ดร็อกบา โหนโหม่งบอลเลยลอยโด่ง ฟาน เดอร์ ซาร์ พยายามชกบอลออกมาแต่ไม่พ้นอันตราย บอลมาเข้าทาง กาลู ซัดแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวเซฟได้อีก

นาทีต่อมา เชลซี มาอีกชุดโดยมาจาก มาลูด้า เหมือนเดิมที่พยายามจะลากลุยเข้ามา เลยไหลมาถึง กาลู ได้ซัดแต่ก็เบาเกินไป ฟาน เดอร์ ซาร์ เซฟได้อย่างไม่มีปัญหา

จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นฝ่ายตั้งเกมบุกอีกครั้ง และทำได้เสียวอีกครั้งในจังหวะที่ พาร์ค ได้ซัดนอกกรอบเขตโทษเยื้องไปทางซ้าย บอลพุ่งน่ากลัวแต่ เช็ก ก็บินปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

แต่จังหวะต่อเนื่องกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากการเล่นเตะมุมสั้น สุดท้ายเป็น กิ๊กส์ ที่แตะหลบอย่างเหนือชั้นก่อนจะเปิดเข้ากลาง มามี วิดิช สอดเข้ามาโหม่งลงพื้นเข้าอย่างเหนือชั้น

เชลซี ก็เกือบจะตีไข่แตกได้เหมือนกัน จากลูกเตะมุมที่เปิดมาเสาแรก เทอร์รี่ โหม่งเช็ดต่อไปที่กลางประตู กาลู ได้โขกบอลเหน่งๆแต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ซูเปอร์เซฟปัดมือเดียวได้ อิวาโนวิช พยายามตีลังกาซ้ำแต่ว่าเข้าหน้าต่างอีก

มาถึงครึ่งชั่วโมง เชลซี ได้โอกาสอีกครั้งจากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา ดร็อกบา ปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงได้สวยแล้ว แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ยังไม่ยอมให้ผ่านเข้าประตูได้ง่ายๆ พุ่งไปปัดบอลออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม

ดร็อกบา มาได้ยิงฟรีคิกอีกครั้งในอีก 2 นาทีต่อมา โดยระยะน่าลุ้นกว่าเดิม แต่ว่าครั้งนี้ยิงฉีดยาแล้วถากเสาออกไป ก่อนที่เกมจะยื้อๆกันไปและจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำห่างของ แมนฯ ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง เชลซี ส่งรามิเรส และ อเล็กซ์ ลงมาแก้เกม ขณะที่ แมนฯ ยูไเนต็ด ก็ส่ง จอนนี่ อีแวนส์ ลงมาเสริมแนวรับ แต่รูปเกมเป็นทางเจ้าถิ่นที่ยังทำได้ดีกว่า และน่าจะได้จุดโทษด้วยเมื่อ วาเลนเซีย เปิดไปโดนแขนของ แลมพาร์ด แต่ผู้ตัดสินไม่ยอมเป่าให้

จากนั้นเจ้าบ้านก็ยังเล่นได้อย่างเหนือชั้น โดยเฉพาะจังหวะสวนกลับที่ได้เสียวตลอดจาก วาเลนเซีย และ พาร์ค ที่วูบวาบน่ากลัวมาก แต่ เชลซี ที่มีการแก้เกมทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง ตอร์เรส ลงมาแทน กาลู ก็เกือบได้คืนอีกครั้งในจังหวะที่ ดร็อกบา ได้บอลในเขตโทษแล้วซัดถากเสาออกไป แต่ลูกนี้แฮนด์บอลไปก่อนแล้ว

แต่มาถึงนาทีที่ 68 เชลซี ก็มาได้ประตูตีไข่แตกในจังหวะที่ รามิเรส เปิดบอลจากกราบขวาเข้ามาบอลแฉลบลอยโด่งเข้ามา อิวาโนวิช ได้โขกต่อไปถึง แลมพาร์ด แหย่ขาส่งบอลเข้าประตูไปแบบงงๆ ให้สกอร์กลับมาเป็น 2-1

แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบจะได้อีกเหมือนกันเมื่อ วาเลนเซีย ตัดบอลได้จาก โคล บอลไปถึง ชิชาริโต้ กระชากบอลเข้าเขตโทษ ก่อนตบใส่พานมาให้ รูนี่ย์ พยายามตวัดยิงแต่ว่าโดน อเล็กซ์ ตามมาสกัดได้ก่อนบอลข้ามเส้นแบบเหลือเชื่อ

ช่วงหลังจากนั้น เชลซี ไม่สามารถกดดันแนวรับของเจ้าบ้านได้ ตรงข้ามกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เกือบจะได้ประตูที่ 3 อีกอย่างน้อย 3 ครั้งซ้อนๆจาก รูนี่ย์ ที่ได้ทั้งซัดถากเสาจากหน้าเขตโทษ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ ปีเตอร์ เช็ก แต่ตัดสินใจช้าเลยได้แต่ล็อกไม่ได้ยิง และได้ยิงอีกครั้งก็แฉลบข้ามคานออกไป

จากนั้น วาเลนเซีย ได้เปิดเข้ามาให้ ชิชาริโต้ ได้โฉบโหม่งเผาขนแค่ 6 หลาแต่ก็ข้ามคานออกไปอีก ก่อนที่ เชลซี จะสวนกลับมาและทำได้ดีทีเดียว โดย มาลูด้า เติมขึ้นไปทางซ้ายก่อนจะไหลเข้าช่องให้ ตอร์เรส ในเขตโทษได้ตั้งป้อมซัดโล่งๆ แต่บอลถากเสาออกไป

ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้ความเก๋าประคองตัวเก็บชัยชนะ 2-1 ได้สำเร็จ ทำให้จ่อคว้าแชมป์ทันทีโดยต้องการอีกแค่ 1 แต้มจาก 2 นัดที่เหลือเท่านั้น