ผู้เขียน หัวข้อ: ท่านเปาทำพิษ~!! "สิงห์ไฮโซ" กระซวดไส้ "ไก่ต๊อก" ไส้แตกแพล๊ะ!! 5-1 ชิงเอฟเอ~!!  (อ่าน 1318 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"ไก่เดือยทอง" หัวใจสลายหลังจากที่ถูก "มาร์ติน แอ็ตกินสัน" ผู้ตัดสินให้ลูกยิงไม่ข้ามเส้นของ "ฆวน มาต้า" นั้นเป็นประตูก่อนโดนกระหน่ำไส้แตก 5-1 ส่ง "สิงห์บลูส์" เข้ารอบชิงเอฟเอ คัพพบ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลชนิดบอบช้ำกันไป



ฟุตบอลเอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศ
วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน 2555
สนาม เวมบลีย์
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1 - 5 เชลซี

เป็นการพบกันครั้งที่ 146 ของทั้งสองทีมแล้วโดยก่อนหน้านี้พวกเขาเจอกันในรายการนี้มา 8 ครั้งต่างเอาชนะผ่านกันไปได้ทีมละ 4 ครั้งด้วยกัน โดยในลีกพวกเขาเจอกันมาครบแล้วสองนัดต่างเสมอกันหมด ส่วนนัดสุดท้ายที่เจอกันในรายการนี้ย้อนไปปี 2007 เป็น "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซีเอาชนะไปได้ในรอบก่อนรองฯ นัดรีเพลย์

             เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายยังผลัดกันได้ครองบอลบุกเข้าใส่กันตลอดแต่ก็ยังไม่มีจังหวะน่าหวาดเสียวอะไรมากโดย 15 นาทีแรกมีโอกาสได้ลองกันบ้างทาง"สิงห์บลูส์"ลุ้นจากลูกโหม่งของแลมพาร์ดแต่ก็ไม่ตรงกรอบ ส่วน"ไก่เดือยทอง"ก็ได้โอกาสจบจากจังหวะโต้กลับขึ้นมาก่อนเป็นฟาร์ทยิงจากหน้าเขตโทษก็ไม่แม่น

จังหวะอาจยังไม่มีอะไรกันมากแต่ทางสเปอร์สเกือบได้ยิงจ่อๆอยู่เหมือนกันเป็นปาร์คเกอร์ที่พาบอลเข้าไปในเขตโทษเองเลยเจอลูอิซมาสกัดไว้ บอลกำลังจะไหลไปเข้าทางอเดบายอร์ได้ยิงโล่งๆแล้วแต่โคลยังวิ่งมาสกัดออกไปได้ทัน

เชลซีเองก็น่าได้ประตูเช่นกันเดียวกันเป็นจังหวะโต้กลับขึ้นมาทางซ้ายโดนกาลูโดนเบียดแต่ก็เอาไม่อยู่ลากตัดเข้าในมาก่อนจะดึงจังหวะรอแล้วแทงทะลุช่องให้กับมาต้าสอดเข้าเขตโทษไปเดี่ยวๆแล้วแต่ดันจับบอลไม่ดีเลยลึกไปเข้ามือคูดิชินี่

"สิงห์บลูส์"มีโอกาสลุ้นกันอีกซักทีเป็นกาลูที่ได้บอลทางซ้ายก่อนจะเปิดเข้าไปข้างในให้กับดร็อกบาที่อยู่ตรงเสาแรกเทคตัวดีโหม่งได้แต่น่าเสียดายบอลติดบล็อกคิงนิดนึงเลยกลายเป็นหลุดเสาแรกออกหลังไปเท่านั้น

ผ่านมาจนถึงนาที 35 "ไก่เดือยทอง"น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆจากจังหวะที่อเดบายอร์หลุดขึ้นมาทางขวามีโบซิงวามาชะลอก่อนจะเลือกเปิดเข้าไปตรงกลาง ฟาน เดอร์ ฟาร์ทโหม่งแต่บอลหลุดมาถึงเสาสองให้กับเลนน่อนเปิดกลับไปหน้าประตูให้กับฟาน เดอร์ ฟาร์ทโหม่งซ้ำอีกทีบอลผ่านมือเช็คไปแล้วแต่เทอร์รี่ยืนบนเส้นเคลียร์ออกมาได้ทัน

ช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นสเปอร์สที่น่าได้ประตูออกนำไปก่อนอีกแล้วจากฟาน เดอร์ ฟาร์ทที่ได้บอลทางขวาก่อนจะตั้งป้อมหยอดเข้าไปข้างใน มีอเดบายอร์โฉบมาเหมือนจะเล่นแต่ไม่ถึงบอลตกพื้นทีนึงก่อนจะหลุดไปเชนเสากระดอกออกมาอย่างจัง

แต่ก่อนจะหมดครึ่งแต่ 2 นาทีกลับเป็นฝั่ง"สิงห์บลูส์"ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนเลยจากบอลวางยาวขึ้นมาข้างหน้าก่อนจะเป็นดร็อกบาที่เอาบอลลงได้พิงกับกัลลาสอยู่ก่อนจะพลิกหนีมาเองแม้กัลลาสจะยิงตามเบียดแต่ก็ยังได้กดเต็มข้อด้วยซ้าย บอลพุ่งเต็มแรงผ่านมือคูดิชินี่เข้าไปไม่มีเหลือ เชลซีออกนำไปก่อน 1-0 ก่อนจะจบครึ่งไปด้วยสกอร์นี้

           กลับมาเริ่มครึ่งหลังเชลซียังคงได้บุกแบบต่อเนื่องแล้วก็เกือบจะได้ประตูที่สองด้วยจากแลมพาร์ดที่แทงบอลขึ้นหน้าให้กับดร็อกบาวิ่งไปแต่งบอลหนีตัวประกบแต่ก็เข้าทางของมาต้าด้วยมาต้าเลยจัดการยิงให้แต่คูดิชินี่ยังปัดเอาไว้ได้เฉียดฉิว

แต่ถัดมา"สิงห์บลูส์"ก็มีลูกสองจนได้เริ่มจากเตะมุมไปที่เสาแรกมีตัวโฉบมาโหม่งเต็มๆแต่คูดิชินี่ยังไวปัดไว้ บอลลอยโด่งเทอร์รี่จะซ้ำไม่ถนัด มาเข้าทางมาต้าได้ซ้ำแต่บอลไปนัวเนียอยู่หน้าประตูก่อนจะโดนเตะทิ้งออกมา สุดท้ายผู้ตัดสินเป่าให้เป็นประตูของเชลซีไปทำเอาแข้งสเปอร์สประท้วงกันเพียบเพราะเชื่่อว่าบอลยังไม่ข้ามเส้นและภาพช้าก็แสดงให้เห็นว่าบอลยังไม่ข้ามเส้น

แล้วนาที 56 "ไก่เดือยทอง"ก็มาได้ประตูไล่ตีตื้นตามมาแล้วเป็นจังหวะที่โมดริชแทงบอลขึ้นมาตรงๆให้กับอเดบายอร์สบัดหนีลูอิซมาได้แล้วก่อนจะแตะหลบทางเช็คไปแล้วโดนกวาดล้ม แต่บอลยังเลยมาถึงเบลได้ยิงง่ายๆเข้าไปเลย สเปอร์สไล่มาเป็น 2-1 แถมเชลซีต้องสังเวยลูอิซไปด้วย

หลังจากนั้นเกมก็เริ่มกลับมาเพลาลงแต่เชลซีก็ได้ลุ้นอีกแล้วเป็นลูกเตะมุมเข้ามาแต่บอลโดนสกัดก่อนจะมาเข้าทางเคฮิลล์ที่อยู่ตรงแถวกรอบ 6 หลาได้กลับตัวยิงแต่บอลก็ยังข้ามคานออกไปนิดเดียว

ทางสเปอร์สเองก็เกือบได้ตีเสมอเช่นกันจากจังหวะที่ได้ขึ้นมาเล่นลูกเตะมุมต่อเนื่องและเป็นฟาน เดอร์ ฟาร์ทที่เปิดเข้าไปเสาแรกถึงหัวของคิงแต่ก็ยังมีแฉลบก่อนบอลจะหลุดเสาแรกออกหลัง

แล้วนาที 77 "สิงห์บลูส์"ก็ได้เฮกันอีกครั้งหลังได้ประตูทิ้งห่างเพิ่มออกไปอีกเริ่มจากมาต้าที่ฝากบอลไปให้กับแลมพาร์ดก่อนจะคืนไปที่มาต้าแล้วเลือกชิปข้ามแนวรับสเปอร์สไปให้กับรามิเรสที่สอดขึ้นไปดวลเดี่ยวกับคูดิชินี่ก่อนจะจิ้มบอลผ่านตัวไปแบบง่ายๆ เชลซีเริ่มโล่งแล้วนำห่าง 3-1

แค่นั้นยังไม่หมดอีก 4 นาทีถัดมา"สิงห์บลูส์"ได้ประตูปิดกล่องเรียบร้อยแล้วเป็นจังหวะฟรีคิกแล้วแลมพาร์ดจัดการสังหารกดเ้ต็มเท้าบอลพุ่งโค้งผ่านกำแพงก่อนจะมุดลง คาร์โลชินี่พุ่งมาสุดตัวแล้วก็ยังไม่ทันบอลลอยเสียบเสาเข้าไปแบบสวยงาม เชลซีทิ้งห่างสบายใจได้นำ 4-1

ช่วงทดเจ็บท้ายเกม"สิงห์บลูส์"ได้ประตูให้เฮกันอีกจากยอลเปิดึ้นมาให้กับมาลูด้าแต่บอลโดนสกัดมาเข้าทางมาต้ากระดกบอลข้ามแนวรับให้กับมาลูด้าวิ่งไปเอาบอลก่อนจะยิงลอดขาคูดิชินี่เข้าไปไม่เหลือ เชลซีได้เพิ่มอีกเป็น 5-1

จบเกมก็เป็นฝั่งเชลซีที่เอาชนะสเปอร์สไปได้ 5-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพกับลิเวอร์พูลที่เข้าไปรอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา