โหดจนไม่รู้จะว่ายังไงสำหรับ "คริสติอาโน่ โรนัลโด้" ยังไงแล้วหลังกดเพิ่มทุบสถิติดาวซัลโวลาลีก้าอีกครั้งที่ 41 ลูกช่วยให้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด แซงเอาชนะ "สปอร์ติ่ง กิฆ่อน" ไปได้ 3-1 ทิ้ง "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ออกไปเป็น 7 แต้ม
ลาลีกา
วันเสาร์ที่ 14 เมษายน 2555
เรอัล มาดริด 3 - 1 สปอร์ติ้ง กิฆอน เริ่มเกมมาเป็นราชันชุดขาวที่ได้ครองเกมบุกกดดันใส่กิฆอนตามระเบียบแต่ยังหาช่องเจาะแนวรับทีมเยือนไม่ได้ นาทีที่ 9 โรนัลโด้ก็ได้ลองซัดลูกฟรีคิกระยะประมาณ 35 หลาแต่ก็กดไปติดกองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์ทิ้งไปได้ ยังไม่ได้แสดงพลังขาวันนี้สำหรับจอมสับโปรตุกีส
นาทีที่ 13 เกมสวนกลับของกิฆอนเริ่มทำงานจังหวัเสียเตะมุมกองหลังทีมเยือนโหม่งสกัดออกมาและก็สวนกลับเร็วทันทีก่อนที่เตรโฆ่จะใช้ความแข็งแกร่งเบียดแย่งบอลมาจากอาร์เบลัวได้และตัดสินใจซัดด้วยขวาทันทีแต่ก็ติดเซฟของกาซิญาสออกหลังไป จังหวะนี้อาร์เบลัวบังบอลพลาดเกือบทำทีมเสียประตู
มาดริดยังหาช่องเจาะไม่ค่อยได้ ต้องชมเกมรับกิฆอนด้วยที่เล่นกันได้ดีมาก นาทีที่ 21 มาร์เซโล่ทนไม่ไหวกระชากลุยเข้าไปก่อนจะซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลไม่แรงมากโคลินาสล้มตัวรับไว้ได้สบาย
นาทีที่ 28 มาดริดก็ส่งบอลเข้าตาข่ายจนได้เมื่อซาฮินเปิดลูกฟรีคิกไปให้กับอิกวาอินได้โหม่งสะบัดบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไปแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าซะก่อนพลาดไปจังหวะนี้สำหรับเจ้าถิ่น
แต่แล้วนาทีที่ 30 มาดริดก็มาเสียจุดโทษจากจังหวะที่รามอสล้มตัวสไลด์บอลแต่กลับไปแฮนด์บอลซะได้กรรมการเป่าให้เป็นจุดโทษทันทีพร้อมแจกใบเหลืองให้กับรามอสด้วย และก็เป็นเด ลาส กูเอบาสรับหน้าที่สังหารซัดเข้ากลางประตูไป สปอร์ติ้งขึ้นนำ 1-0 แบบสุดช็อก
เกมเริ่มหนักขึ้นผู้เล่นทีมเยือนโดนใบเหลืองติดๆกันไป 2 รายและนาทีที่ 37 เจ้าถิ่นก็ตีเสมอได้สำเร็จหลังจากนวดอยู่นานรามอสเก็บบอลได้ทางขวาก่อนจะเปิดมาหน้าประตูและก็เป็นอิกวาอินวิ่งสอดขึ้นมาโหม่งเข้าไปง่ายๆ สกอร์เสมอกันแล้ว 1-1
ช่วงท้ายครึ่งแรก"โลส บลังโกส"พยายามบุกอย่างหนักหวังทำประตูขึ้นนำให้ได้และนาทีที่ 44 ซาฮินก็ได้ลองปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลาบอลโค้งตกลงบนคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรกสกอร์เสมอกันอยู่ 1-1 ระหว่างเกมมูรินโญ่ออกมาโวยวายกรรมการอยู่หลายครั้งรวมไปถึงมีฮึดฮัดกันข้างสนามด้วยแต่ก็ไม่มีอะไร
ครึ่งหลังมูรินโญ่ต้องเปลี่ยนเอาเบนเซม่าและดิ มาเรียลงมาแล้วถอดซาฮินกับกาเยฆ่อนออกไป ส่วนทีมเยือนก็มีการปรับเช่นเดียวกันถอดเอร์นานเดซออกแล้วส่งริคาร์ดินโญ่ลงไปแทน
เริ่มมาในช่วงครึ่งหลัง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เร่งเกมอย่างหนักหวังทำประตูแซงให้ได้ นาทีที่ 48 ดิ มาเรียก็เปิดฟรีคิกพุ่งเข้ามาหน้าประตูแต่บอลไม่โดนใครเลยโคลินาสรับเข้าซองไว้ได้ เสียวเล็กๆจังหวะนี้
เกมนี้ต้องชมเตรโฆ่ดาวเตะของกิฆอนที่วันนี้เล่นได้เด่นเหลือเกินเป็นคนเก็บบอลไว้ได้ตลอดและพาบอลแหวกผู้เล่นมาดริดได้เรื่อยๆ นาทีที่ 56 ก็พาบอลเลี้ยงผ่านนักเตะเจ้าถิ่น 2-3 คนก่อนจะถูกเปเป้สกัดคว่ำไป จังหวะนี้ปราการหลังจอมโหดโดนใบเหลืองไปด้วย
นาทีที่ 61 โรนัลโด้ก็ทำชิ่งกับเบนเซม่าแต้ถูกเตะคว่ำไปเสียก่อนและเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมายิงฟริคิกระยะประมาณ 25 หลาเองแต่บอลก็ยังฮุกลงมาไม่พอข้ามคานไป ลองส่องมา 2-3 หนแล้วสำหรับดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกแต่ก็ยังพังสกอร์ไม่ได้
มาดริดยังเป็นฝ่ายปูพรมบุกอย่างต่อเนื่องนาทีที่ 65 โอซิลจ่ายยัดไปให้กับโรนัลโด้หน้าเขตโทษก่อนที่โรนัลโด้จะพลิกบอลเข้าขวาแล้วยิงเรียดทันทีแต่บอลก็หลุดเสาออกไปอีก
นานทีปีหนได้ยิงแบบนี้จะพลาดซักครั้งสำหรับอิกวาอินในนาทีที่ 71 เมื่อโรนัลโด้กระดกบอลมาให้ได้พลิกตัวยิงโล่งๆแต่ดันซัดหลุดเสาไปแบบเหลือเชื่อ น่าเสียดายมากๆจังหวะนี้สำหรับอิกวาอินและเรอัล มาดริด
ในที่สุดก็ทำมาดริดก็ทำสำเร็จในนาทีที่ 74 เมื่อดิ มาเรียล็อกบอลเข้าซ้ายก่อนจะเปิดมาให้กับโรนัลโด้ได้เทคตัวขึ้นเหนือฆวน ปาโบลโหม่งเสียบมุมเข้าไปไม่เหลือ ราชันชุดขาวแซงนำ 2-1 ได้สำเร็จ ลูกนี้เป็นลูกที่ 41 ของเจ้าตัวในลาลีกาฤดูกาลนี้แล้วและนับเป็นการทำลายสถิติยิงประตูมากที่สุดต่อ 1 ฤดูกาลในลาลีกาที่เจ้าตัวทำไว้เมือปีที่แล้วด้วย
นาทีที่ 78 หลังจากรอดตัวมาในครึ่งแรกในที่สุดกาเนญ่าก็ไม่รอดโดนใบเหลืองที่สองจนได้จากจังหวะที่ไปทำฟาล์วใส่อังเคล ดิ มาเรียกรรมการไม่มีทางเลือกต้องไล่ออกจากสนามไป เสียเปรียบตัวผู้เล่นแล้วแถมสกอร์ยังโดนนำอีกต่างหาก
เจ้าถิ่นมาได้ประตูทิ้งห่างในนาทีที่ 82 โอซิลไหลบอลน้ำหนักพอดีไปให้กับเบนเซม่าในเขตโทษก่อนที่ดาวยิงเฟร้นช์แมนจะยิงด้วยขวาเสียบเสาไกลสุดคม สกอร์ขยับเป็น 3-1 แล้ว ประตูนี้นับเป็นลูกที่ 107 ที่ราชันชุดขาวซัดในลาลีกาฤดูกาลนี้เทียบเท่ากับสถิติสูงสุดที่ทีมเคยทำได้ในยุคของจอห์น โตแช็ค
จบเกม เรอัล มาดริด ทำได้ตามเป้าเอาชนะสปอร์ติ้ง กิฆอนไป 3-1 ทำแต้มทิ้งห่างบาร์เซโลน่าที่จะลงเตะต่อจากนี้ไปเป็น 7 แต้มแล้วส่วนกิฆอนแย่หนักโอกาสตกชั้นมีสูง