"โธมัส แฟร์มาเล่น" กลายเป็นตัวซวยของ "แก๊งค์ปืนโต" อาร์เซน่อล ในเกมนี้ หลังเป็นต้นเหตุเสียสองประตูทำให้ทีมหยุดสถิติชนะ 7 นัดรวดพ่ายให้ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ ปาร์ก เรนเจอร์ส์ ไป 2-1 มีโอกาสโดน "ไก่" สเปอร์ส ไล่มาแต้มเท่ากันแล้ว
พรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2555
ควีนส์ ปาร์ก เรนเจอร์ส 2 - 1 อาร์เซน่อล
ศึกลอนดอนดาร์บี้แม็ตช์ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่ชนะมา 7 นัดรวด เกมนี้ได้ "โลร็องต์ กอสเซียลนี่" ที่หายเจ็บกลับมาอีกครั้งขณะที่ตัวอื่นๆยังอยู่กันครบนำทีมมาโดย "โรบิน ฟาน เพอร์ซี่" ดาวยิงฟอร์มแรงโดยมี "อารอน แรมซี่", "มิเคล อาร์เตต้า" และ "อเล็กซ์ ซง" คุมแดนกลาง
ด้านเจ้าถิ่นฟอร์มย่ำแย่สะกดคำว่าชนะได้เพียงครั้งเดียวจาก 9 นัดที่ผ่านมานัดนี้ไม่มี "ฌิบริล ซิสเซ่" ที่โดนแบนเลยส่ง "บ๊อบบี้ ซาโมร่า" ลงเป็นองหน้าตัวเป้าคนเดียว เกมในช่วงแรกทั้งคู่ผลัดกันครองบอลและนาทีที่ 8 อาร์เซน่อลก็ได้โอกาสก่อนเมื่อคลิ้นท์ ฮิลล์ไปทำฟาวล์ใส่วัลคอตต์บริเวณนอกกรอบเขตโทษมุมขวาและก็เป็นฟาน เพอร์ซี่รับอาสาปั่นด้วยซ้ายบอลข้ามกำแพงเกือบมุดเสียบเสาแรกแต่เคนนี่ก็ยังพุ่งปัดไว้ได้ก่อนตามรับจังหวะ 2 ได้อีกครั้ง
4 นาทีต่อมาอาร์เตต้าไปยกเท้าสูงใส่บาร์ตัน เจ้าถิ่นได้เปิดลูกฟรีคิกเข้ามาและก็เป็นซาโมร่าได้ขึ้นโขกเต็มๆแต่กดไม่ลงข้ามคานไป จังหวะนี้เซสนี่โวยเพื่อนใหญ่เลยทีเดียว เกมในช่วงนี้ควีนส์ปาร์กทำได้ดีกว่า"ปืนใหญ่"แล้ว
ทหารเสือราชินียังมีโอกาสได้จบมากกว่านาทีที่ 21 ซาโมร่าก็ได้ลองส่องจากระยะ 20 หลาแต่บอลก็ไปเข้ามือของเซสนี่รับไว้สบาย และนาทีต่อมาเจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เมื่อเดอร์รี่จ่ายบอลให้กับทารับต์จับบอลแล้วพลิกหลบแฟร์มาเล่นอย่างสวยก่อนจะลากไปซัดเสียบมุมหมดสิทธิ์ป้องกันสำหรับเซสนี่ ควีนส์ปาร์กฯขึ้นนำ 1-0
เกมส่วนใหญ่เป็นอาร์เซน่อลที่ได้ครองบอลมากกว่าแต่ยังหาทางเจาะเกมรับเจ้าถิ่นไม่ได้ ขณะที่รูปเกมของควีนส์ปาร์กฯเน้นการโยนบอลไปให้กับซาโมร่าเก็บบอลในแดนหน้าก่อนจะจ่ายบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ตลอด
แต่แล้วในนาทีที่ 37 อาร์เซน่อลก็มาได้ประตูตีเสมอเมื่อฟาน เพอร์ซี่ได้บอลริมกรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายต่อไปให้กับวัลคอตต์ได้ยิงเต็มแต่บอลไปชนเสาเด้งกลับมาและก็เป็นวัลคอตต์คนเดิมตามซ้ำไม่เหลือ สกอร์เสมอกันแล้ว 1-1 ได้ลุ้นน้อยกว่าแต่มาทีก็เป็นประตูเลยจังหวะนี้สำหรับลูกทีมของอาร์เเซน เวนเกอร์
ปืนใหญ่ดูจะมั่นใจกันมากขึ้น 2 นาทีต่อมาอาร์เตต้าก็จ่ายบอลให้กับขวัญใจแฟนบอลอย่างแรมซี่ย์ได้กดเรียดระยะประมาณ 20 หลาบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น จบครึ่งแรกทั้งคู่เสมอกันอยู่ 1-1
เกมในครึ่งหลังเป็นอาร์เซน่อลที่ยังได้ครองบอลมากกว่าอยู่เหมือนเดิมแต่จังหวะยิงยังหาไม่ได้และนาทีที่ 48 นักเตะเจ้าถิ่นก็พยายามฟ้องว่ากอสเซียลนี่จ่ายบอลให้เซสนี่รับแต่กรรมการก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งจากภาพช้าก็ดูเหมือนว่ากองหลังชาวฝรั่งเศสจะไม่ได้โดนบอลจริงๆ
นาทีที่ 58 เพอร์ซี่ก็ได้บอลทะลุเข้าไปในเขตโทษก่อนจะตัดสินใจซัดมุมแคบทันทีแต่เคนนี่ก็บังมุมไว้ได้แล้วปัดออกไป นาทีต่อมาเพอร์ซี่คนเดิมก็หมุนหลบฮิลล์แล้วตัดสินใจยิงทันทีแต่เคนนี่ก็โชว์เซฟปัดข้ามคานไปอีกครั้ง 2 ตังหวะเซฟต่อเนื่องของเคนนี่เลย
เกมเริ่มเปิดแลกแล้วจากจังหวะเตะมุมของเพอร์ซี่กองหลังควีนส์ปาร์กเคลียร์ออกมาแม็คกีย์จ่ายต่อให้กับทารับต์ก่อนที่เพลย์เมคเกอร์ฝรั่งเศสจะตัดสินใจซัดไกลระยะประมาณ 35 หลาแต่ก็ไปเข้ามือของเซสนี่รับไว้ได้สบาย
นาทีที่ 66 อาร์เซน่อลก็มาเสียประตูอีกครั้งบาร์ตันวางบอลยาวมาให้กับแม็คกีย์ทางขวาก่อนที่แฟร์มาเล่นที่พยายามตามมากันก็ดันไปลื่นล้มบริเวณริมกรอบเขตโทษทำให้แม็คกีย์ฉตบกลับมาให้กับเดียกิเต้วิ่งเข้ามาซัดเข้าไปไม่เหลือ ควีนส์ปาร์กขึ้นนำอีกครั้ง 2-1
ครองบอลได้เยอะกว่าแต่หาโอกาสยิงไม่ได้เลยทำให้เวนเกอร์ไม่มีทางเลือกแล้วต้องส่งมารูยาน ชามัคห์และอ็อกเหล็ด แชมเบอร์เลนลงมาแล้วโดยถอดคีแรน กิ๊บส์และมิเคล อาร์เตต้าออก
ช่วงท้ายเกมเป็นอาร์เซน่อลที่พยายามบุกอย่างหนักแต่ก็เกือบเสียประตูเมื่อบาร์ตันจ่ายออกไปทางขวาให้กับแม็คกีย์ก่อนจะไหลคืนมาให้กับบาร์ตันซัดเต็มๆแต่เซสนี่ก็ยังเซฟออกไปได้
หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบเกมอาร์เซน่อลหยุดสถิติชนะ 7 นัดรวดบุกมาพ่ายควีนส์ ปาร์ก เรนเจอร์ 2-1 ยังอยู่ที่ 3 มีแต้มมากกว่าสเปอร์ส 3 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัดขณะที่เจ้าถิ่นเก็บ 3 แต้มสำคัญถีบตัวเองขึ้นมาจากโซนตกชั้นสำเร็จด้วยแต้มได้เสียที่ดีกว่าแบล็กเบิร์นแต่แข่งมากกว่า 1 นัดเช่นกัน