ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาที 22 ของ "เวย์น รูนี่ย์" นั้นไร้ค่าไปเลยแม้ว่าจะยิงได้ถึงสองลูก แต่ "แอธเลติก บิลเบา" ก็เล่นดีสุดๆ บุกมาพิชิต "ผีแดง" ได้ถึงถิ่น 3-2 ในเกมยูโรป้า รอบ 16 ทีมนัดแรก ทีมจากสเปนกุมความได้เปรียบก่อนเจอกันใหม่สัปดาห์หน้า
ฟุตบอล ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 2-3 แอธเลติก บิลเบา (สเปน) ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับการมาเยือนของ "แอธเลติก บิลเบา" จากสเปน เกมนี้ "ทัพผีแดง" ปรับทัพส่งสำรองสลับลงเล่นบ้าง แต่ยังนำมาโดย "ไรอัน กิ๊กส์" และ "เวย์น รูนี่ย์" ส่วน "บิลเบา" ส่งชุดใหญ่มาลุย ขาดแค่ "เฟร์นานโด อโมเรเบียต้า" กองหลังที่ติดโทษแบน
เปิดเกมในช่วงแรกทั้งสองฝ่ายเปิดฉากรุกเข้าใส่กันทันทีโดย "ปีศาจแดง" แมนฯยู ได้โอกาสก่อนในนาที 4 จากจังหวะที่ "ชิชาริโต้" แทงบอลทะลุช่องให้ "กิ๊กส์" หลุดเข้าไปซัดทางด้านซ้ายของเขตโทษแต่ติดบล็อก "ซาน โฆเซ่" ขณะที่นาทีถัดมา "ญอเรนเต้" โชว์ความยอดเยี่ยมหน้าเขตโทษด้วยการใช้ความใหญ่ของร่างกายพาบอลพลิกหนีแนวรับเจ้าบ้านจนได้วางเท้ายิงหลุดเสาขวาออกไปนิดเดียว
ดูเหมือนแนวรับ "ปีศาจแดง" ต้องเจอกับความยากลำบากไม่น้อยเมื่อต้องรับมือกับทีมที่มีนักเตะเทคนิคสูงอย่าง "บิลเบา" แถมกองหน้าตัวเป้าอย่าง "ญอเรนเต้" ก็ใช้ความสูงใหญ่ชิงความได้เปรียบในกรอบเขตโทษได้เกือบตลอดจนหวิดเรียกจุดโทษให้กับทีมได้จากจังหวะที่ "สมอลลิ่ง" เอาเขาไม่อยู่แล้วเผลอใช้มือไปดึงเสื้อทางด้านหลังโชคยังดีที่กรรมการไม่ได้ว่าอะไร
หลังปล่อยให้ "บิลเบา" ทำเกมบุกอยู่พักใหญ่ทาง "ปีศาจแดง" ก็โชว์ความเฉียบขาดออกมาให้เห็นเมื่อในนาที 23 "กิ๊กส์" ทำชิ่งกับ "ชิชาริโต้" จนสุดท้ายหัวหอกจังโก้ได้หลุดเข้าไปล็อคหลบแนวรับทีมเยือนในเขตโทษแล้วกดด้วยซ้ายไปติดเซฟ "อิไรซอส" ทว่ายังมี "รูนี่ย์" ที่วิ่งเข้ามาซ้ำดาบสองไม่เหลือซากให้ทีมขึ้นนำ 1-0
เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมงยอดทีมแคว้นบาสก์มีโอกาสดีในการจบสกอร์อีกครั้งเมื่อ "เด มาร์กอส" โชว์ความขยันสปีดตามบอลไปสุดเส้นด้านขวาก่อนเปิดเข้ามาที่เสาแรกให้ "ญอเรนเต้" โถมตัวเข้าโหม่งแต่โชคดีสำหรับเจ้าบ้านที่ยังมี "สมอลลิ่ง" เบียดเอาไว้เลยทำให้บอลไม่ตรงกรอบ
อีกสามนาทีถัดมา "บิลเบา" เล่นเกมเร็วด้วยการเปิดบอลข้ามแนวรับ "ปีศาจแดง" ให้ "ซูซาเอต้า" ใช้ความเร็ววิ่งฉีก "อีแวนส์" อย่างไม่ไว้หน้าแล้วเข้าไปกระดกบอลข้ามตัว "เด เกอา" ที่วิ่งออกจากเส้นประตูมาป้องกันทว่าบอลถากโคนเสาซ้ายไปอย่างน่าเสียวไส้สำหรับชาว "เร้ดอาร์มี่"
แต่ "บิลเบา" ก็ยังโหมบุกไม่หยุดเมื่อในนาที 37 "อิราโอล่า" กระชากบอลขึ้นมาสุดเส้นด้านขวาก่อนล็อคหลบ "จี-ซอง" ที่วิ่งเข้ามาสกัดแล้วสับไกยิงด้วยอีซ้ายไปที่โคนเสาแรกแต่ "เด เกอา" ไม่หลงรีบล้มตัวปัดบอลออกหลังประตูไปได้อย่างหวุดหวิด
แล้ว "บิลเบา" ก็มาทวงสกอร์คืนจนได้ในนาที 44 เมื่อ "ญอเรนเต้" ใช้ความหนาของร่างกายครองบอลในกรอบเขตโทษก่อนจ่ายให้เพื่อนพาบอลไปขึ้นเกมทางด้านขวาแล้วเป็น "ซูซาเอต้า" ที่เปิดกลับเข้ามาหน้าปากประตูให้ "เอล เรย์ เลออน" โหม่งเต็มกบาลผ่านตัว "เด เกอา" เข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรกเลยเสมอกันที่ 1-1
เข้าสู่ครึ่งหลังเกมยังดำเนินไปในรูปแบบเดิมคือ "บิลเบา" บุกเข้าใส่แล้วในนาที 50 การต่อบอลสั้นหน้าเขตโทษของพวกเขาก็ไปลงเอยที่การส่องไกลของ "มูเนียอิน" ไปที่เสาขวาแต่ "เด เกอา" ก็ยังยอดเยี่ยมบินปัดออกหลังไว้ได้
อีกสองนาทีถัดมา "มูเนียอิน" ลากบอลจี้เข้าหาเขตโทษ "ปีศาจแดง" ก่อนจ่ายคืนมาให้ "เอร์เรร่า" เบิ้ลเข้าไปทางด้านซ้ายของเขตโทษให้ "ญอเรนเต้" หลุดเข้าไปกระทุ้งเข้าข้างตาข่าย ช็อตนี้เล่นเอา "เด เกอา" หัวเสียออกมาโวยเพื่อนเป็นยกใหญ่
งานยังเข้าต่อเนื่องเลยสำหรับ "เด เกอา" เมื่อในนาที 53 ก็ต้องเผชิญหน้ากับลูกยิงมหาประลัยของ "ญอเรนเต้" ที่บอลกำลังพุ่งไปที่สามเหลี่ยมบนเสาขวาแต่นายด่านหน้า "ลามะ" บินเซฟเอาไว้ได้ แล้วหลังจากนั้น "สมอลลิ่ง" ก็มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมานอกผ้าพันหัวอย่างกับใครเอาน้ำแดงเฮลลูบอยส์ไปราดจนหมดขวดทำให้ "ป๋าเฟอร์กี้" ต้องส่ง "คาร์ริค" ลงมาเล่นแทน
แต่ "บิลเบา" ยังโขยกเกมรุกไม่มียั้งเหมือนต้องการสื่อว่า "กูเอานะเฮ้ย~!!" เพราะในนาที 68 "มูเนียอิน" ก็ฝ่าแนวรับ "ปีศาจแดง" ด้วยการทำชิ่งกับ "เอร์เรร่า" จนเข้าไปกดติดเซฟ "เด เกอา" ที่เสาซ้ายซึ่งถ้าเจ้าตัวเลือกเปิดเข้าในคงได้ประตูไปแล้วเพรระมี "ซูซาเอต้า" รอชาร์จจ่อๆอยู่นั่นเอง
ในที่สุด "ปีศาจแดง" ก็ต้องสังเวยประตูที่สองจนได้ในนาที 72 เมื่อปล่อยให้ "บิลเบา" เคาะบอลเล่นหน้าเขตโทษก่อนที่ "เอร์เรร่า" งัดบิลข้ามแนวรับเจ้าบ้านให้ "เด มาร์กอส" หลุดไปซัดผ่านตัว "เด เกอา" เข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด แม้จังหวะนี้คนยิงจะล้ำหน้าแต่เมื่อไลน์แมนตาถั่วก็ต้องยกประโยชน์ให้ไปตามระเบียบ
ท้ายเกม "ปีศาจแดง" ยังโงหัวไม่ขึ้นเมื่อนาที 83 "ตอเกโร่" ได้วางเท้ายิงแบบไม่มีใครขวางหน้าเขตโทษฝั่งขวาแต่ "เด เกอาบิน" เซฟออกไปได้ แต่ก็เพียงเท่านั้นเมื่ออีก 7 นาทีถัดมา "เด มาร์กอส" เก็บบอลจากการการเคลียร์ไม่ขาดของแนวรับเจ้าบ้านจนหลุดเข้ากดทางด้านขวาของเขตโทษติดเซฟ "ลามะ" แต่ "ราฟาเอล" มัวยืนอึ้งไม่ช่วยสกัดเลยถูก "มูเนียอิน" ปรี่เข้าซ้ำไม่เหลือซากให้ "บิลเบา" ทิ้งห่าง 3-1
แต่ในช่วงทดเจ็บ"ปีศาจแดง"มาทวงประตูคืนได้จากจังหวะที่เด มาร์กอสไปทำแฮนด์บอลในจังหวะที่ชิชาริโต้เปิดเข้าไปก่อนที่รูนี่ย์ก้าวเข้ามาสังหารจุดโทษไม่พลาดให้ทีมแพ้บิลเบาไปเพียง 3-2 ต้องไปวัดกันต่อในศึกยูโรป้า ลีก เลกสองที่ซาน มาเมส
ผู้เขียน
หัวข้อ: "บิลเบา" บุกเผา!! "ผี" คาบ้าน~!! 3-2 (อ่าน 1029 ครั้ง)
