พิมพ์

[Soccer]

ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ต้องอกหักอีกเป็นรายการที่ 3 เมื่อโดน ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่วางตัวผู้เล่นมาแบบช็อกคนดู ไล่อัดแบบสบายๆ 2-0 ส่งผลให้จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศแล้ว

เกมบิ๊กแมตช์ เอฟเอ คัพ รอบที่ 6 เป็นการพบกันระหว่างทีมจ่าฝูงและรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกทั้ง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล โดยเกมนี้ทางฝ่ายผีแดง ปรับผู้เล่นเยอะจนตะลึงเมื่อใช้กองหลัง 7 คนลงสนามพร้อมกัน โดยดัน จอห์น โอเช ยืนกองกลางตัวรับ และให้ ราฟาเอล กับ ฟาบิโอ ดาซิลวา สองแฝดยืนปีกริมเส้น ขณะที่ อาร์เซนอล ที่เพิ่งตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังใช้ชุดใหญ่เท่าที่มี โดยขาดแค่ เซสก์ ฟาเบรกาส กัปตันทีมที่บาดเจ็บเท่านั้น

ด้วยความเป็นเกมใหญ่ทำให้ช่วงออกสตาร์ทเกม ยังไม่มีฝ่ายใดที่เปิดหน้าแลกกัน เป็นการเล่นดูเชิงชิงไหวชิงพริบกันก่อน แต่ความผิดพลาดของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ประตูจอมเก๋าที่ขว้างบอลให้ เวย์น รูนี่ย์ แล้วโดนตัดไปก็เกือบทำให้งานเข้าเมื่อ ซาเมียร์ นาสรี่ ตัดได้ก่อนจะไหลให้ แจ็ค วิลเชียร์ แตะคืน อังเดร อาร์ชาวิน ซัดหลุดกรอบออกไป

แต่ถึงนาทีที่ 15 เจ้าบ้านก็มีโอกาสที่ดีกว่าเมื่อ ดาร์รอบ กิ๊บสัน ครองบอลได้บริเวณกลางสนามก่อนจะไหลออกทางซ้ายให้ ฟาบิโอ ตบด้วยซ้ายกลับเข้ามาถึงแฝดน้อง ราฟาเอล ที่เติมมาได้โหม่งโล่งๆคนเดียว แต่กลับทำข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ

อาร์เซนอล มาได้ลุ้นอีกทีก็ในนาทีที่ 24 เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ สบโอกาสได้ยิงจากระยะ 25 หลาแต่ว่าบอลตรงตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ต้องรับ 2 จังหวะถึงจะเข้าซอง ซึ่งหลังจากนั้นโดยรูปเกมแล้วทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังประคองตัวได้สบายๆ

และถึงนาทีที่ 28 แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ดูจะสดกว่าเพราะได้พักมาเต็มๆ หลังแพ้ในเกมแดงเดือดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 เมื่อ ฟาบิโอ ตัดบอลได้ก่อนจะจ่ายออกขวาให้ ราฟาเอล กระชากพาบอลขึ้นไปก่อนจะไหลคืนให้แฝดพี่ ฟาบิโอ เลือกจ่ายต่อให้ รูนี่ย์ ก่อนที่กองหน้าเลือดเดือดจะเปิดให้ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ พุ่งโหม่ง ลูกนี้ มานูเอล อัลมูเนีย รับได้ในจังหวะแรกแต่ว่่าโดน ฟาบิโอ มาตามซ้ำเข้าไปอย่างสุดสะใจ

ถัดมาอีก 2 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบหนีไปอีกเมื่อ รูนี่ย์ ฉีกตัวไปทางซ้ายก่อนจะเปิดเข้ามาให้ ฟาบิโอ ได้เติมมาลุ้นอีกครั้งแต่ว่าโหม่งไม่ดีบอลหลุดกรอบออกไป ก่อนที่ อาร์เซนอล จะได้ลุ้นตีเสมอถึง 2 ครั้งติดต่อกันในเวลาไม่ห่างกันนัก

โดยจังหวะแรกเป็นการทำเกมให้โดย นาสรี่ ไหลเข้ามาให้ ฟาน เพอร์ซี่ พลิกตัวหลบ เนมันย่า วิดิช ก่อนจะซัดด้วยขวาบอลพุ่งเรียดไปเสาไกลแต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ เซฟได้หวุดหวิด ก่อนที่ นาสรี่ จะไปเปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ ฟาน เพอร์ซี่ ได้โหม่งที่เสาแรกก็ข้ามคานออกไปนิดเดียว

ช่วงท้ายครึ่งแรก อาร์เซนอล บี้จนเกือบจะเอาคืนได้เหมือนกันจากจังหวะที่ นาสรี่ กระชากบอลเข้าเขตโทษก่อนจะซัดลอดขา เวส บราวน์ แต่ว่า ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ยังไวล้มตัวเซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่นำอยู่ 1-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีการส่งตัว อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงสนามมาแทน ฟาบิโอ ที่มีอาการบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการคืนสนามครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ขาหักไปในช่วงต้นฤดูกาลเลยทีเดียว

แต่ อาร์เซนอล ก็เกือบจะตีเสมอได้อีกแล้วเมื่อ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ เติมมาซัดในเขตโทษไปติด เซฟ ฟาน เดอร์ ซาร์ ก่อนบอลจะกระเด้งมาเข้าทางอีกครั้ง ซัดอีกหนก็ยังไม่ผ่านความเหนียวของนายทวารชาวดัตช์เหมือนเดิม

และถึงนาทีที่ 49 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ฉวยจังหวะยิงหนีเป็น 2-0 ได้อีกเมื่อ ราฟาเอล กระชากหนี คีแรน กิ๊บบ์ส โดยพาบอลมาถึงเขตโทษก่อนจะไหลเข้ามาให้ ชิชาริโต้ ยิงไปติดบล็อก แต่ว่าบอลก็ยังลอยมาเข้าศรีษะ รูนี่ย์ ได้ยืนโหม่งสบายๆเข้าไป

เจอไป 2 ดอก อาร์เซนอล ถึงกับหน้ามืดและพยายามที่จะเอาคืนให้ได้ โดย นาสรี่ ได้ลองยิงสวนในจังหวะที่ เวส บราวน์ สกัดบอลออกมาไม่ดีแต่ว่าโดน ฟาน เดอร์ ซาร์ เซฟได้ ขณะที่ ฟาน เพอร์ซี่ ก็ได้ลองปั่นด้วยอีซ้ายเน้นๆแต่ก็เฉี่ยวคานออกไป

เกมเป็นทางทีมเยือนที่บุกเอาๆ แต่ก็เกือบจะโดนทีเด็ดเกมสวนกลับในนาทีที่ 66 จากจังหวะที่ วาเลนเซีย ครอสบอลเข้ามาให้ คริส สมอลลิง โหม่งชงให้ ไรอัน กิ๊กส์ ที่น่าจะได้จบแต่ว่าเกี่ยวบอลลงมาได้แล้วก็ไม่ได้ยิง

จากนั้นเกมก็เป็นลักษณะว่า อาร์เซนอล เดินเกมบุกต่อแต่จะโดนโต้กลับมาเรื่อยๆ และเกือบจะโดนเม็ดสามไปอีกครั้งในนาทีที่ 79 เมื่อ รูนี่ย์ เปิดบอลไปแฉลบ โยฮัน ฌูรู บอลเปลี่ยนทางกำลังจะเข้าประตูตัวเองแต่ว่า อัลมูเนีย ยังตามมาพุ่งรับบอลได้ทัน

หลังจากนั้นเจ้าบ้านส่ง พอล สโคลส์ ลงมาช่วยคุมเกม ขณะที่ทีมเยือนต้องเสีย ฌูรู ที่เจ็บหนักโดยที่ไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้แล้วก็ต้องเล่น 10 คนไป ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นสบายใจและเกือบจะยิงได้เพิ่มด้วยจาก รูนี่ย์ ที่ได้ซัดอีกถึง 2 ครั้ง ชิชาริโต้ 1 ครั้ง ขณะที่ อาร์เซนอล มีโอกาสตีไข่แตกของ โทมัส โรซิคกี้ ที่ได้เข้าฮอสการเปิดของ ซาญ่า แต่ก็พลาดไปอีก

จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม อาร์เซนอล 2-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นทีมที่ 2 หลังคู่แรก โบลตัน เอาชนะ เบอร์มิงแฮมไป 3-2 ส่วน อาร์เซนอล อกหักเป็นรายการที่ 3 ติดต่อกันในระยะเวลาห่างกันแค่ 2 สัปดาห์เศษ จากได้ลุ้น 4 แชมป์ก็เหลือแค่ลุ้น พรีเมียร์ลีก รายการเดียวเท่านั้น