"ปีศาจแดง" กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งในเกมลีก เปิดรังผีเอาชนะ "ช่างปั้นหม้อ" ไป 2-0 ประตูจาก 2 จุดโทษของ "เบอร์บาตอฟ" และ "ชิชาริโต้" ส่งทีมทำ 54 แต้มเท่ากับ "เรือใบ" ที่บุกแพ้ "ท็อฟฟี่" ไปด้วยสกอร์ 0-1 ประตู
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดกลางสัปดาห์
คืนวันอังคารที่ 31 มกราคม 2555
พบกันระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง มีอยู่ 51 คะแนน เปิดบ้านผีสิง "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" รับการมาเยือนของ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ทีมจอมแกร่งอันดับ 8 ของลีก โดยการพบกันนัดแรกของฤดูกาล แบ่งไปทีมละแต้ม จากผลเสมอ 1-1 ที่ "บริทานเนีย สเตเดี้ยม" เปิดฉากมาในเกมแรก 5 นาที เป็นทางฝั่งทีมเยือน "สโต๊ค" ที่เป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ "โจนาธาน วอลเตอร์ส" ลากบอลจากกลางสนามไปยิงระยะร่วม 30 หลา บอลโค้งหลุดเสาแรกไปแบบได้ลุ้น
นาทีที่ 7 เจ้าถิ่น "ปีศาจแดง" ตอบโต้ขึ้นมาทันควัน จากจังหวะที่ "ไมเคิ่ล คาร์ริค" นั้นลากบอลเข้าไปยิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ โดนแนวรับ "สโต๊ค" เข้ามาบล็อกไว้ได้ทัน
นาทีที่ 21 นั้นรูปเกมเป็นของทาง "ผีแดง" แมนฯ ยูฯ ที่เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่แบบไม่ยั้ง จนมาได้ลูกเตะมุม "วาเลนเซีย" เล่นสั้นกับ "พาร์ค ชี-ซอง" ก่อนที่จะเปิดเข้าเขตโทษ บอลขลุกขลิกหน้าปากประตู "จอนนี่ อีแวนส์" ติดลูกส้นมาให้ "พอล สโคลส์" ซัดไปเต็มๆข้อ บอลพุ่งแฉลบแนวรับ "สโต๊ค" เฉี่ยวเสาไปอย่างน่าเสียดาย
ในนาทีที่ 29 เป็นจังหวะบุกของ "กองทัพปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง เมื่อ "เบอร์บาตอฟ" ป้ายบอลออกด้านขวาให้ "อันโตนิโอ วาเลนเซีย" หลุดเดี่ยวไปทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะพาบอลเข้าเขตโทษ แล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ากลาง แต่เป็น "โทมัส โซเรนเซ่น" ที่พุ่งออกมาตัดบอลได้ทันควัน
นาทีที่ 33 "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกหนัก เกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะเล่นชิ่งสามเหลี่ยม จาก "ไมเคิ่ล คาร์ริค" ต่อให้ "พาร์ค" แล้วเป็น "เบอร์บาตอฟ" ไหลเข้าช่องให้ "คาร์ริค" หลุดเข้าเขตโทษไปยิงด้วยซ้าย บอลผ่านมือ "โซเรนเซ่น" ก่อนที่จะหลุดเสาไปนิดเดียว
นาทีที่ 38 แฟนบอล "ผีแดง" ได้เฮลั่นสนาม เมื่อ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ "เจอร์เมน เพนเเนนท์" ไปเสียบ "พาร์ค ชี-ซอง" ล้มในเขตโทษ แล้วเป็นทาง "ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ" รับหน้าที่สังหารเข้าไปเสียบมุมอย่างเฉียบขาด ให้ "กองทัพปีศาตแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปด้วยสกอร์ 1-0 ประตู
จบครึ่งแรก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำไปด้วยสกอร์ 1-0 ประตู
ครึ่งหลัง ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นทั้งสองทีม จนมาถึงนาทีที่ 53 "แมนฯ ยูฯ" นั้นมาได้อีกหนึ่งจุดโทษ จากจังหวะที่ "โจนาธาน วอลเตอร์ส" ไปดึง "วาเลนเซีย" ล้มในเขตโทษ แล้วเปลี่ยนมือสังหารมาเป็น "เบอร์บาตอฟ" ก็ยิงเข้าไปไม่พลาด ให้ "กองทัพปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็น 2-0 ประตู
นาทีที่ 57 "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ขยับตัวผู้เล่นสำรองด้วยการส่ง "คาเมรอน เจอโรม" ลงสนามมาแทน "ปีเตอร์ เคร้าช์" ที่เริ่มไม่มีบทบาทกับเกม
นาทีที่ 63 เจ้าถิ่นผ่อนเกมลงมาบ้าง ปล่อยให้ "สโต๊ค" ได้มีโอกาสบุกเข้าใส่ ก่อนที่จะมาได้ลุ้น จากจังหวะที่ "เจอร์เมน เพนเเนนท์" ครอสบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ "คาเมรอน เจอโรม" ได้โขกเต็มๆ แต่ "เบน เอมอส" พุ่งเซฟไว้ได้
นาทีที่ 73 นั้น "แมนฯ ยูฯ" ส่งเจ้าหนู "ปอล ป็อกบา" ลงสนามมาแทน "ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ" ก่อนที่จะมาได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้าเขตโทษ "ไมเคิ่ล คาร์ริค" เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ "พอล สโคลส์" อัดเต็มแรง แต่บอลพุ่งไปชนกำแพงหลุดกรอบ
นาทีที่ 74 เป็นโอกาสบุกของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง เมื่อ "อันโตนิโอ วาเลนเซีย" ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมนี้ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตโทษมาให้ "พาร์ค ชี-ซอง" วิ่งเข้ามายิงด้วยขวา ติดบล็อก
นาทีที่ 78 อีกครั้งที่จังหวะทำเกมริมเส้นฝั่งขวาของ "วาเลนเซีย" เกือบนำมาซึ่งประตู เมื่อได้โอกาสเปิดเรียดเข้าเขตโทษมาให้กับ "ปอล ป็อกบา" ได้แปเน้นๆ ด้วยขวา บอลพุ่งไปแฉลบขาแนวรับทีมเยือนออกหลังนิดเดียว
จบเกม 90 นาที "แมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด" เปิดบ้านผีสิง เอาชนะ "สโต๊ค" ไปอย่างสบายๆด้วยสกอร์ 2-0 ทำแต้มเท่ากับ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ที่ 54 คะแนน หลังจากทีม "เรือใบสีฟ้า" บุกไปแพ้ให้กับ "เอเวอร์ตัน" 0-1