กองทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไล่ล่าตามจ่าฝูงต่อเมื่อบุกไปย้ำแค้น “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่เคยถล่มตอนต้นฤดูกาลได้อีกครั้งด้วยสกอร์ 2-1 ตามหลัง "เรือใบ" แมนฯ ซิตี้ แค่ 3 แต้มเท่าเดิม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (22 ม.ค.55)
"เดอะกันเนอร์ส" อาร์เซนอล 2-1 "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ศึกบิ๊กแมตช์ประจำพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์นี้เป็นเกมระหว่าง “เจ้าปืนโต” อาร์เซนอล ทีมอันดับ 5 ที่จะได้พบกับคู่ปรับเก่าเก๋าโจ๋อย่าง กองทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าที่จำเป็นที่จะต้องได้ 3 คะแนนเพื่อไล่ตาม "แมนฯ ซิตี้" ที่เพิ่งปาดคอไก่เดือยทอง "สเปอร์ส" ไปได้ก่อนหน้านี้ เกมนี้อาร์เซนอล ไม่มีชื่อ "เธียร์รี่ อองรี" ดาวยิงพระกาฬตัวเก๋าที่ได้รับบาดเจ็บ เช่นกันกับทีมเยือนที่ "พอล สโคลส์" ก็โดนดร็อปเป็นตัวสำรองเท่านั้น แต่นอกนั้นถือว่าทั้งสองทีมใส่ชุดใหญ่กันมาแบบเต็มที่เท่าที่จะมีเลยทีเดียว
เปิดตัวมาในช่วงต้นเกม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ดูท่าทีว่าทำได้ดีกว่าเล็กน้อยและมาได้ยิงทักทายก่อนในนาทีที่ 8 จากการพาบอลขึ้นมาของ "โรบิน ฟาน เพอร์ซี่" ก่อนจะไหลให้กับ "อารอน แรมซีย์" ยิงด้วยแข้งซ้ายแต่เบาไปและดันไปตรงตัวกับ "อันเดรส ลินเดการ์ด"
จากนั้นในนาทีที่ 15 ทีมเยือนเจอข่าวเศร้าเมื่อ "ฟิล โจนส์" ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องให้ "ราฟาเอล ดา ซิลวา" ลงสนามมาแทน แต่เกมของ "ผีแดง" แมนฯ ยูไเนต็ด นั้นก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะเกมริมเส้นของ "อันโตนิโอ วาเลนเซีย" ที่เปิดแบบได้ลุ้นหลายครั้ง
นาทีที่ 33 "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ขู่ได้น่ากลัวจากจังหวะการโอเวอร์แลปของ "ปาทริซ เอวร่า" รับบอลเปิดจาก "นานี่" ก่อนครอสเข้ากลางให้ "แดนนี่ เวลเบ็ค" เข้าฮอส แต่โดน "โลร็องต์ กอสเซียลนี่" สกัดบอลออกไปได้อย่างหวุดหวิด
ทีมเยือนยังต้องรับบทหนักเมื่อ "เอวร่า" กระชากพาบอลหนี "อเล็กซ์ ซง" ไปก่อนจะเปิดหักมาให้ "นานี่" แปเน้นๆด้วยขวาแต่ว่า "วอยเซียค เชสนี่" ยังเซฟเอาไว้ได้ ก่อนที่เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกัน ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก "แมนฯ ยูไนเต็ด" ก็มาได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะการเติมทางซ้ายของ "ไรอัน กิ๊กส์" ก่อนเปิดมาให้ "วาเลนเซีย" สอดมาโขกย้อนศรที่เสาไกลเข้าไป เป็นประตูนำ 1-0 ในครึ่งแรกด้วย
เข้าสู่ครึ่งหลัง "ปืนโต" "อาร์เซนอล พยายามจะเร่งเกมพยายามตีเสมอให้ได้และมีโอกาสเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งหลังเมื่อ "คริส สมอลลิง" พลาดโดน "โทมัส โรซิคกี้" ฉกบอลไปได้ก่อนที่จะจ่ายให้ "ฟาน เพอร์ซี่" เกี่ยวบอลลงหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยอีซ้ายข้างถนัดจากระยะแค่ 6 หลา แต่บอลหลุดกรอบเหลือเชื่อ
"เดอะกันเนอร์ส" ยังเดินหน้าต่อเนื่อง "อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน" ปีกดาวรุ่งก็มีจังหวะได้ซัดตรงหัวกระโหลกบอลเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเขกกระโหลก แต่ในนาทีถัดมาก็เกือบจะงานเข้าเมื่อ "เวลเบ็ค" นั้นได้หลุดไปแตะหลบ "เชสนี่" ได้แล้วแต่ว่าจังหวะสุดท้ายยิงไปโดน "แพร์ แมร์แตซัคเกอร์" ตามมาช่วยสกัดไว้ได้ทันพอดี
มาถึงนาทีที่ 71 แฟน เดอะกันเนอร์ส นั้นก็ได้เฮลั่นกันทั้งสนามจากจังหวะสวนกลับเร็วของ "โรซิคกี้" วางบอลยาวไปให้ "แชมเบอร์เลน" ทะลุไปทางซ้ายก่อนจะตัดเข้าในแล้วไหลให้ "ฟาน เพอร์ซี่" ซัดด้วยอีซ้ายบอลเสียบมุมอย่างเฉียบขาด สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 ทันที
แต่ฝ่ายของ "อาร์แซน เวนเกอร์" นั้นเลือกถอด "แชมเบอร์เลน" ที่กำลังห้าวออกและให้ "อังเดร อาร์ชาวิน" มาแทน ซึ่งเพลย์เมคเกอร์รัสเซีย ก็ต้องมีส่วนกับการเสียประตูนำ 2-1 ของ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปล่อยให้ "วาเลนเซีย" กระชากผ่านไปได้ก่อนใส่พานให้ "เวลเบ็ค" ถวายไปเน้นๆด้วยขวาเข้าไปก่อนหมดเวลาเพียง 9 นาที ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือนั้น "แมนฯ ยูไนเต็ด" รักษาสกอร์เอาไว้ได้ก่อนชนะไปในเกมนี้คว้าไปอีก 3 แต้มสำคัญไว้ล่า "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ต่อไป
ผู้เขียน
หัวข้อ: ผีหลอก~!!! "ปีศาจแดง" ล่า 3 แต้ม พัง"ปืนใหญ่"แตกยับ~!! ไล่สิงเรือใบ!! (อ่าน 2393 ครั้ง)
