แฟรงค์ แลมพาร์ด กลายเป็นผู้ทำประตูแบบไม่ตั้งใจแต่ช่วยให้ทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เฉือนเอาชนะ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ลงได้อย่างหวุดหวิด 1-0 เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ
“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ลงสนามในรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ จัดทัพชุดหลักรับมือทีมที่ดีวันดีคืนอย่าง “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งนำโดยกุนซือมือดี มาร์ติน โอนีล โดยมี เฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนค้ำในแนวรุก และบนอัฒจันทน์มีว่าที่แข้งใหม่ แกรี่ เคฮิลล์ มาชมเกมด้วย
แต่เป็นทีมเยือนที่ได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะการเปิดของ สเตฟาน เซสเซญอง แต่ว่าโดน โบซิงวา สกัดบอลได้ทันก่อนที่จะถึง เจมส์ แม็คคลีน ที่รอจะจบสกอร์ ก่อนที่เจ้าบ้านจะโต้ตอบด้วยจังหวะการโขกของ ตอร์เรส ที่หลุดกรอบออกไป
จากนั้นมาถึงนาทีที่ 13 เชลซี ก็มาได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ ฆวน มาตา เปิดมาให้ ตอร์เรส ได้ซัดเต็มๆแต่ว่าไปชนคานกระเด้งลงมาโดน แฟรงค์ แลมพาร์ด ผ่านเข้าเส้นประตูไปแบบสุดเฮง เจ้าบ้านออกนำ 1-0
เจ้าบ้านยังคงทำได้ดีกว่า และมีจังหวะได้ลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิกระยะไกลของ มาตา ที่ซัดไปติดเซฟของ ซิมง มิโญเลต์ แต่ทางด้าน ซันเดอร์แลนด์ เองก็พอจะมีความน่ากลัวในเกมรุกโดยเฉพาะ นิคลาส เบนดท์เนอร์ ที่สร้างปัญหาได้ไม่น้อย โดยมีจังหวะได้บอลจาก เซสเซญอง ก่อนหลุดไปซัดถากเสาออกไปนิดเดียว
เกมนี้ ตอร์เรส เล่นได้อย่างมั่นใจโดยเฉพาะหลังมีส่วนกับประตูแรก และยังมาโชว์พลิ้วหมุนตัวหาช่องก่อนซัดบอลถากเสาออกไป ก่อนที่เกมจะจบลงในครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0 กันอยู่
ครึ่งหลังเกมกลับมาตึงเครียดและสูสีกันมากกว่าครึ่งแรก โดยต่างฝ่ายก็ต่างเรียกเอาจุดโทษโดย เชลซี ร้องในจังหวะที่ ตอร์เรส โดนจอห์น โอเช ดึงในเขตโทษ ขณะที่ทีมเยือนก็มีจังหวะที่ แอชลี่ย์ โคล ไปดึงใส่ เบนทด์เนอร์ เหมือนกันแต่ผู้ตัดสินมองข้ามทั้งสองจังหวะ
ซันเดอร์แลนด์ ก็มีจังหวะเกือบตีเสมอได้เหมือนกัน โดยเริ่มจาก เซสเซญอง จ่ายให้ เซ็บ ลาร์สสัน ก่อนจะเปิดต่อให้ แม็คคลีน ได้โอกาสโล่งๆที่เสาไกลแต่ว่ากลับยิงออกไปอย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ควรจะเป็นประตูตีเสมอไปแล้ว
จากนั้นทีมเยือนยังเป็นฝ่ายเล่นอย่างมีความหวังที่จะตีเสมอได้เพราะ เชลซี ก็ปิดเกมไม่ลงเหมือนกัน และน่าจะตีเสมอได้สุดๆอีกครั้งจากการปั้นเกมของ เซสเซญอง คนเดิมที่พาบอลไปทางขวาก่อนเปิดเข้ามากลางประตู เคร็ก การ์ดเนอร์ ได้ยิงที่เสาแรกแบบต้องเป็นประตูแล้วแต่ก็ซัดพลาดอย่างเหลือเชื่อ
ช่วงท้ายเกมยังได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ เบนทด์เนอร์ ได้โอกาสหลุดเข้าเขตโทษไปดวลกับ ปีเตอร์ เช็ก แต่ว่าโดนออกมาบีบกดดันจนยิงหลุดกรอบออกไปอีก ซึีงสุดท้ายเกมจบลงด้วยชัยชนะหวุดหวิดสุดๆของเจ้าบ้าน 1-0 ยึดอันดับ 4 เหนียวแน่นในเวลานี้