ผู้เขียน หัวข้อ: เรือใบ แพ้อีกแล้ว! หงส์ บุกทุบ 1-0 เจอร์ราร์ด ซัดลูกโทษศึกตัดเชือกลีกคัพ  (อ่าน 1432 ครั้ง)

Soccer

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1706
    • ดูรายละเอียด

"หงส์แดง" แก้แค้นคืนได้สำเร็จ บุกไปคว้าชัยเหนือ "เรือใบสีฟ้า" ถึงถิ่น 1-0 ประตูชัยจากจุดโทษของ เจอร์ราร์ด น.13 ลุ้นต่อนัดที่ 2 ที่รังแอนฟิลด์ 25 ม.ค.ศึกคาร์ลิ่ง คัพ

ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก แข่งขันคืนวันพุธที่ 11 มกราคม 2555 เป็นการพบกันระหว่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงในศึกพรีเมียร์ลีก เปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 จากลีกเดียวกัน

เกมเริ่มต้นมาได้ 5 นาที ลิเวอร์พูล เปิดเกมรุกบู้เข้าใส่ทันที มีโอกาสเกือบได้ประตูนำ จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลเข้าช่องให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ได้พลิกบอลหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนที่จะยิงไปติด โจ ฮาร์ท ที่สไลด์ตัวออกมาบล็อก

นาทีที่ 10 เรือใบ หวิดที่จะเสียประตูถึง 2 ครั้ง 2 คราวในช่วงเวลาติดๆกัน จังหวะยิงไกลของ เจอร์ราร์ด โดน โจ ฮาร์ท ปัดออกหลัง เป็นลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด เปิดมาที่หน้าเขตโทษให้ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ง้างเท้าซัดทันที แต่ปฏิกิริยาของจอมเซฟทีมชาติอังกฤษ ยังไว ปัดทิ้งออกไปได้อีกครั้ง

นาที 13 กองเชียร์เจ้าถิ่นถึงกับอึ้งกันทั้งสนาม เมื่อจังหวะเตะมุมของ เจอร์ราร์ด เข้ามาในเขตโทษ แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ เก็บบอลลงแตะหนีหนึ่งจังหวะ ก่อนโดน สเตฟาน ซาวิช เปิดปุ่มยันใส่เข่า ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที สตีเว่น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหาร ยิงเข้าไปเสียบมุมซ้ายมือของตนเอง ให้ ลิเวอร์พูล บุกนำ 1-0

นาที 23 ลิเวอร์พูล ต้องเปลี่ยนผู้เล่นกะทันหัน เมื่อ เจย์ สเพียริ่ง มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อกระตุกเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ชาร์ลี อดัม ลงสนามแทน

นาที 35 เกมบุกของ ลิเวอร์พูล ยังทำได้เหนือกว่า แมนฯ ซิตี้ อย่างเห็นได้ชัด ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะเปิดทางริมเส้นฝั่งขวาของ มาร์ติน เคลลี่ เปิดเข้าเขตโทษให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ได้โขกเต็มๆ บอลหลุดเสาสองไปนิดเดียว

นาที 39 ทางฝั่งเจ้าถิ่น แมนฯ ซิตี้ จำเป็นต้องปรับแผนเช่นกัน หลังจากที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ซามีร์ นาสรี่ ถูกส่งลงสนามแทน

นาที 43 โอกาสลุ้นที่สุดในเกมของ แมนฯ ซิตี้ ต้องรอถึงช่วงท้ายครึ่งแรก จากจังหวะทุ่มทางฝั่งซ้าย กาแอล คลิชี่ ทุ่มบอลให้ ซามีร์ นาสรี่ พลิกบอลเข้าหาเขตโทษ ก่อนได้ซัดด้วยขวา บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่โดน โฆเซ่ เรน่า ปัดออกไปได้ทัน จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ เริ่มเป็นฝ่ายบุกเข้าหาบ้าง มีโอกาสเกือบที่จะได้ประตูตีเสมอ ในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ มาร์ติน เคลลี่ จ่ายบอลคืนหลังกะให้ โฆเซ่ เรน่า แต่โดน เซอร์คิโอ อเกวโร่ วิ่งมาฉกเอาบอล ก่อนที่จะล็อกหนี เรน่า แล้วยิงมุมแคบข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 59 กลับมาเป็นเกมบุกของ ซิตี้ อีกครั้ง มาได้ลุ้นจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ ซามีร์ นาสรี่ เปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ โถมตัวขึ้นโขกเต็มๆ แต่บอลไปตรงตัว โฆเซ่ เรน่า รับไว้ได้

นาที 65 รูปเกมในครึ่งหลังต่างจากครึ่งแรกโดยสิ้นเชิง เมื่อ ซิตี้ เป็นฝ่ายบุกอยู่ฝ่ายเดียวเมื่อผ่าน 1 ชั่วโมงของเกม ได้ลุ้นจากจังหวะที่ ซามีร์ นาสรี่ จ่ายบอลให้ กุน อเกวโร่ พาบอลเข้าเขตโทษก่อนล็อกยิงปั่นด้วยขวา แต่ก็ไม่ผ่านมือ เรน่า

นาทีที่ 66 แมนฯ ซิตี้ แก้เกมด้วยการส่ง เอดิน เชโก้ กองหน้าชาวบอสเนีย ลงสนามแทน อดัม จอห์นสัน หลังจากก่อนหน้านี้ 6 นาที ลิเวอร์พูล ส่ง โฆเซ่ เอ็นริเก้ ลงแทน สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง

นาที 82 แทบเป็นเกมบุกวันเวย์เพียงฝ่ายเดียวสำหรับทีม "เรือใบสีฟ้า" โอกาสเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง รวมถึงลูกยิงไกลจด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษของ เจมส์ มิลเนอร์ บอลหลุดกรอบออกข้างไปนิดเดียว

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ถึงถิ่น 1-0 ต้องไปแข่งต่อนัดที่ 2 ที่รังแอนฟิลด์ ในวันพุธที่ 25 ม.ค. ที่จะถึงนี้
บันทึกการเข้า

สนุกกับการลุ้น ผลบอลทั่วโลก ติดตามรับชมผลบอลสดๆอัพเดทรวดเร็วทันใจ